กรุงเทพฯ 3 ส.ค.-นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เผยเวลานี้ทั้งไทยและเวียดนามเจอปัญหาเดียวกัน โรงสี ผู้ส่งออกข้าวไม่สามารถโคสราคาข้าวที่จะส่งออกไปตลาดต่างประเทศได้ หลังอินเดียประกาศห้ามส่งออกข้าวทุกสายพันธุ์ คงต้องรอความชัดเจนว่า อินเดียจะผ่อนคลายประกาศฉบับนี้อย่างไร
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยกล่าวว่า หลังจากประเทศรัฐบาลอินเดียประกาศห้ามการส่งออกข้าวทุกสายพันธุ์ ยกเว้นข้าวพันธุ์บาสมาติ โดยมีผลบังคับใช้ในทันที หลังอินเดียเผชิญฤดูมรสุมทั้งภัยแล้ว น้ำท่วม จนทำให้ปริมาณผลผลิตข้าวในประเทศของอินเดียได้รับผลกระทบอย่างหนักปริมาณลดลงอย่างมากเมื่อช่วงกลางเดือน ก.ค.66 ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ วงการตลาดข้าวทั้งในประเทศและต่างประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะโรงสีข้าวทั่วประเทศไม่ขายข้าวให้กับผู้ส่งออกข้าวเพื่อการส่งออก เพราะไม่สามารถโคสราคาขายข้าวกันได้จนผู้ซื้อบางรายยอมที่จะซื้อข้าวสารในราคาที่แพงขึ้น จากก่อนที่อินเดียประกาศห้ามจะโคสราคาขายข้าวสารอยู่ที่ตันละ 17,000 บาท แต่ต้องยอมซื้อในราคาสูงขึ้นตันละ 19,500-21,000 บาท
นอกจากนี้ แม้ว่าผู้ส่งออกข้าวหลายรายจะยอมซื้อข้าวสารในราคาที่แพงขึ้น แต่ด้วยประกาศของอินเดียทำให้โรงสีทั่วประเทศไม่สามารถที่จะโคสราคาขายออกมาให้กับผู้ส่งออกข้าวเป็นที่แน่นอนได้ เพราะเกรงว่า เมื่อขายข้าวสารให้ไปแล้วราคาในตลาดจะสูงไปมากกว่านี้ ดังนั้น ทั้งโรงสีข้าวและผู้ส่งออกข้าว จึงไม่สามารถทำอะไรได้ไปมากกว่านี้ โดยคงต้องรอดูสถานการณ์ของอินเดียก่อนว่าจะมีการปรับเปลี่ยนหรือผ่อนคลายคำประกาศใดๆออกมาหรือไม่ หากอินเดียมีการประกาศแก้ไขหรือผ่อนคลายจริงในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ก็น่าจะทำให้การส่งออกข้าวโดยเฉพาะในเรื่องของการโคสราคาข้าวคงจะได้ราคาที่แน่นอนมากยิ่งขึ้น แต่หากสถานการณ์ของอินเดียไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ความผันผวนของราคาข้าวในตลาดโลกน่าจะมีความปั่นป่วนและอาจจะมีหลายประเทศ ทางฝั่งภาครัฐควรจะทำเรื่องให้ทางอินเดียช่วยผ่อนคลายแนวทางอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้ตลาดข้าวโลกกลับมาดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ปีนี้ไทยคาดว่า จะส่งออกข้าวได้ไม่ต่ำกว่า 8 ล้านตัน แต่ด้วยเงื่อนไขของปัญหาจากคำประกาศของอินเดียอาจทำให้การส่งออกข้าวไทยในช่วงครึ่งปีหลังนี้ไม่ดีนัก เพราะไม่มีข้าวจะส่งออกไปให้กับลูกค้าในตลาดต่างประเทศ และยิ่งจากผู้ส่งออกข้าวของเวียดนามอาจจะให้รัฐบาลเวียดนามประกาศห้ามส่งออกข้าวเหมือนกับอินเดียเพื่อเลี่ยงไม่ต้องส่งออกข้าวให้กับลูกค้าที่ต้องการข้าวเพราะเวียดนามก็ประสบปัญหาโรงสีไม่ขายข้าวให้กับผู้ส่งออกข้าวด้วยเช่นกัน แต่ในส่วนของไทยยังไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหาตรงนี้อย่างไร คงต้องติดตามสถานการณ์ไปก่อน แต่หากเยื้อยื้อยาวนานก็เกรงว่าปีนี้ไทยอาจจะส่งออกไม่ถึง 8 ล้านตันก็เป็นไปได้
“จากปัญหานี้ถือว่าหนักมากทั้งโรงสีข้าวและผู้ส่งออกข้าวไทย แม้ว่าจะทำให้ราคาข้าวในประเทศสูงขึ้น โดยข้าวเปลือกเจ้ามีราคาขยับขึ้นถึงตันละ 13,000 บาท ราคาข้าวขาวเพื่อส่งออกมีราคามากกว่าเกิน 18,000-20,000 บาทต่อตัน ซึ่งราคาข้าวเปลือกเกษตรกรได้ราคาดีขึ้น แต่ก็หวังไว้ปัญหาของอินเดียน่าจะดีขึ้นได้โดยเร็ว ส่วนที่ไทยเจอปัญหาด้านภัยแล้ง จนมีบางหน่วยงานขอให้เกษตรกรหยุดการทำนาชั่วคราว โดยเห็นว่า ปัญหานี้ไม่น่าจะเกิดผลกระทบมาก เพราะเป็นที่ทราบดี เกษตรกรส่วนใหญ่แม้จะมีมาตรการลดพื้นที่เพราะปลูกเพื่อช่วยกันประหยัดน้ำ แต่ด้วยราคาข้าวเปลือกที่สูงขณะนี้จะเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรหันมาเพาะปลูกข้าวอยู่ดี ดังนั้น จึงอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยกันหาวิธีที่จะให้ทางอินเดียผ่อนปรนคำประกาศจะดีกว่า” นายชูเกียรติกล่าว.-สำนักข่าวไทย