ททท. ชวนเที่ยวงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 41 จัดเต็มทุกมิติ!

3 ส.ค. – ททท. ชวนเที่ยวงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 41 ประจำปี 2566” วันที่ 2-6 สิงหาคมนี้ จัดเต็มทุกมิติท่องเที่ยว ยกความมหัศจรรย์เมืองไทยไว้ในงานเดียว ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์


เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2566 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิด “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 41 ประจำปี 256” โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนสัมผัสความมหัศจรรย์ของการท่องเที่ยวไทยทุกมิติ ภายใต้แนวคิด “นวัฒนธรรม” นำนวัตกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่ร่วมถ่ายทอดอัตลักษณ์ของ 5 ภูมิภาคในมุมมองสุดอันซีน ตอกย้ำหมุดหมายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พร้อมส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวไร้ขีดจำกัด เหนือความคาดหมาย และน่าประทับใจระหว่างวันที่ 2-6 สิงหาคม 2566 ณ ฮอลล์ 5-8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยเป็นกิจกรรมที่สำคัญ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย ททท. มุ่งมั่นสร้างสรรค์ฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยด้วยการท่องเที่ยวในทุกมิติเพื่อให้ชาวไทยและชาวต่างประเทศได้สัมผัสกับมนต์เสน่ห์อันล้ำค่าของแผ่นดินไทย วิถีชีวิตไทย เอกลักษณ์ท้องถิ่น และจิตวิญญาณที่เปี่ยมมิตรไมตรี ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วยเจตจำนงค์ในการสร้างเมืองไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และสะท้อนนิมิตหมายอันดีในการเปิดโลกใหม่ของการท่องเที่ยวไทยในปี 2566 สู่ปี 2567 ด้วยหัวใจหลักที่คำนึงถึงภาพลักษณ์การท่องเที่ยวที่ทันสมัยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และดำรงรักษารากเหง้าของวัฒนธรรม เพื่อเพิ่มคุณค่าประสบการณ์ท่องเที่ยวไปสู่นักท่องเที่ยวได้อย่างลึกซึ้งในทุกมิติ และเพื่อก่อให้เกิดพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของไทยให้เจริญเติบโตอย่างมั่งคงและยั่งยืนต่อไป


นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวถึงเทศกาลเที่ยวเมืองไทยครั้งนี้ ว่าเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 41 ประจำปี 2566 จะเป็นกิจกรรมการตลาด (Event Marketing) ที่จะช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวไทยตลอดทั้งปี จากการสร้างรับรู้ความเป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคในประเทศไทย ผ่านแหล่งท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม อาหาร และความร่วมมือของทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมฯ ภายใต้นโยบาย การพัฒนาเศรษฐกิจ BCG Model สู่การพัฒนาการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน (Sustainable Tourism) ครั้งนี้ ททท. ยกความมหัศจรรย์ของประเทศไทยมาไว้ด้วยแนวคิด “นวัฒนธรรม” (นวัตกรรม+วัฒนธรรม) หรือ Inno-Cultural for Sustainable Tourism โดยนำเสนอมุมมองแปลกใหม่ของการท่องเที่ยวไทย บอกเล่าถึงแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่เคยเห็น(Unseen) เรื่องราวที่ไม่เคยรู้ (Untold) และแกะกล่องการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ๆ (Unbox) สัมผัสกับประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบไร้ขีดจำกัด (Unlimited) เหนือความคาดหมาย (Unpredictable) น่าสนใจอย่างไม่น่าเชื่อ (Unbelievable) รวมทั้งพบกับสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวจากทั่วประเทศแบบเกินต้าน จนหยุดเที่ยวไม่ได้ (Unstoppable) และเก็บเกี่ยวความทรงจำอันน่าประทับใจแบบลืมไม่ลง (Unforgettable)

ททท. จัดเต็มกับความมหัศจรรย์ของเมืองไทยผ่าน 9 โซนกิจกรรม ประกอบด้วย 5 โซนหมู่บ้านภูมิภาค และประสบการณ์ท่องเที่ยวใน 4 โซนกิจกรรม รายละเอียดดังต่อไปนี้

ก่อนเข้าสู่โซนกิจกรรม ททท. เสิร์ฟไฮไลท์แรกกับความสวยงามของเมืองไทย จุดแลนด์มาร์ก Best Selfie in Thailand สะท้อนการท่องเที่ยวไทย 5 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคตะวันออก-เกาะขายหัวเราะ จ.ตราด ภาคใต้-หินพับผ้า จ.นครศรีธรรมราช ภาคเหนือ-ผ้าม่อฮ่อม ภาคกลาง-น้ำตก จ.นครนายก และภาคอีสาน-ทะเลบัวแดง จ.อุดรธานี


โซนที่ 1 AMAZING THAILAND พาเริ่มเดินทางท่องเที่ยวที่ Amazing ยิ่งกว่าเดิม ไฮไลท์จุดถ่ายรูปสุดอาร์ต Theme Area : Delightful Destinations รังสรรค์มวลบุปผาเป็นแผนที่ประเทศไทยถ่ายทอดอัตลักษณ์ของ 5 ภูมิภาคและแหล่งท่องเที่ยว Unseen new chapters โดย Comm. Arts x RakDok, LED Box พาท่องเที่ยวเสมือนจริงด้วยมุมมองภาพ 360 องศา ,ผจญภัยกับเกม ‘Home Sweet Home’ และพบกับโซน TAT Souvenir of Thailand จัดจำหน่ายสินค้าและของที่ระลึกแบรนด์ Amazing Thailand ก่อนอัดแน่นบริการข้อมูลด้านการท่องเที่ยวในโซน อสท., เคาน์เตอร์บริการข่าวสารท่องเที่ยว TAT Contact Center 1672 Travel Buddy

โซนที่ 2 หมู่บ้านภาคตะวันออก “สบ๊ายสบาย ภาคตะวันออก” ไปกับแนวคิด “Love Ea(s)t All Around” ชูจุดเด่นอาหารถิ่น เช่น ก๋วยเตี๋ยวกั้ง ข้าวคลุกพริกเกลือ โรตีสายไหมทุเรียน ทอดมันกระวาน หมูชะมวง เส้นจันท์ผัดปู น้ำมะปี้ดไอติมมะยงชิด พลาดไม่ได้กับจุดแลนด์มาร์กถ่ายภาพ 360 องศา อาทิ เกาะขายหัวเราะ จ.ตราด สะพานอัษฎางค์เกาะสีชัง จ.ชลบุรี ทุ่งโปรงทอง จ.ระยอง เป็นต้น ทั้งสนุกสนานกับกิจกรรม Soft Adventure เช่น ปีนหน้าผาจำลองทดลองเล่น Surf และพัตกอล์ฟ พร้อมยกขบวนศิลปินมาสร้างความสบ๊ายสบายสไตล์ภาคตะวันออก ทุกวัน อาทิ ว่านวันวาน , เอิ๊ต ภัทรวี , สินเจริญ บราเธอร์ส , ต้น ธนษิต, DOUBLEBAMM

โซนที่ 3 หมู่บ้านภาคกลาง “Trendy C2 ภาคกลาง” ชวน “ความสุขง่ายๆ หาได้ที่ภาคกลาง” แบบ 4HD (4 Happy- Definition) โดดเด่นด้วยแลนด์มาร์ก “หอมนสิการ” ธรรมะแกลลอรี จ.สระบุรี รูปแบบ Interactive ครั้งแรกในไทยสัมผัสประสบการณ์ Trendy Camping กับคาราวานรถ Air Stream / รถบ้าน ก่อนชวนดื่มด่ำวัฒนธรรมอันลึกซึ้งในโซนสาธิตของศิลป์แผ่นดิน นำเสนองานหัตถศิลป์ที่หาชมได้ยาก โดยช่างฝีมือจากสถาบันสิริกิติ์ และโรงเรียนช่างฝีมือในวัง (หญิง) พร้อมเติมความสุขชาร์จพลังกายใจกับสินค้าชุมชนและเกษตรอินทรีย์ ผ่าน TOCA Platform ร่วมกับสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย (TOCA) และส่งท้ายความสนุกในภาคกลางกับการแสดงจากศิลปิน ซัน และ ฟอร์ม จากยุ้งข้าวเรคคอร์ด , วง PAUSE , บอนซ์ นดล , เบลล์ วริศรา

โซนที่ 4 หมู่บ้านภาคเหนือ ชวนต๊ะต่อนยอนสัมผัส “เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ” (North Nostalgia) ผสานความร่วมสมัยไปกับ Northern Thailand Soft Power เช็กอินแลนด์มาร์ก แมงสี่หูห้าตา จ.เชียงราย บ้านอาจารย์โกมล จ.แพร่ ประเพณีสลากย้อม จ.ลำพูน และบ้านเหมืองกุง จ.เชียงใหม่ อีกหนึ่งไฮไลท์โซน “เวิ้งแวดเวียง” พาชมสถานที่ท่องเที่ยวและเทศกาลผ่าน Projection Mapping แวะเติมเสบียงแบบลำแต้แต้ใน กาดหมั้ว ชิมอาหารเหนือหาทานยาก อาหารฟิวชั่น มิชลินเชียงใหม่ พร้อมผ่อนคลายที่ กาดนวด กับกิจกรรมนวดสปา และเพลิดเพลินสินค้า Handicraft และกิจกรรม DIY ที่ ซะป๊ะคราฟท์ นอกจากนี้ยังมี ซุ้มเย็นใจ๋ รวบรวมร้าน ชา กาแฟโกโก้ คราฟท์โซดา หรือเครื่องดื่มที่ผลิตจากภาคเหนือ ตกแต่งสไตล์ Glamping จำนวน 12 ร้าน และคัวฮักคัวฮอม OTOP แหล่งรวมสินค้า OTOP ส่งตรงจากภาคเหนือ จัดจำหน่ายสินค้ากว่า 20 ร้าน โดยผู้ประกอบการตัวจริงจากภาคเหนือ

โซนที่ 5 หมู่บ้านภาคใต้ “หรอยแรงแหล่งใต้” ผ่านธีมใหม่ “14 x 24 x 365 หรอยแรง” 14 คือ “เที่ยวใต้ 14 จังหวัด14 สไตล์” 24 คือ “ความสุขที่คุณสัมผัสได้ 24 ชั่วโมง” 365 คือ “หรอยได้ทุกเดือนตลอดปีทั้ง 365 วัน” สัมผัสธรรชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่นสุดอันซีนของภาคใต้ทุกจังหวัดทุกช่วงเวลาผ่านจอ LED ยักษ์ ขนาด 22 x 6 เมตร พร้อมถ่ายรูปกับแหล่งท่องเที่ยว Popular Southern เช่น ซุ้มประตูอุทยานธรรมธรรมเขานาในหลวง จ.สุราษฎร์ธานี, เขาพับผ้า จ.พังงา และลิ้มลองอาหารปักษ์ใต้แท้ๆ ก่อนเพลิดเพลินการแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่นและประยุกต์ ประกอบฉากสุดอลังการบนจอ LED อาทิ โนรา, มวยไชยา ลิเกฮูลู และพลาดไม่ได้กับ TAT Department Store “ห้างททท.” รวบรวมดีลสุดพิเศษจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวมาให้ได้เลือกซื้อเฉพาะงานนี้

โซนที่ 6 หมู่บ้านภาคอีสาน “หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน” ปลดล็อกประสบการณ์ “อีสาน…ไปไสกะแซ่บ” นำเสนอความ“แซ่บ” ของอีสานผ่านนวัฒนธรรมอาหารอีสานทุกมิติ กับไฮไลท์สำคัญ ‘ไห-เทค’ เชิญทดลองเป็นปลา ในไหปลาร้าไฮเทคเรืองแสง เรียนรู้เรื่องราวของปลาร้าตั้งแต่เริ่มต้นจนโกอินเตอร์ และเอาใจสายกินเสิร์ฟความแซ่บ ‘20 จานดัง’ ภาคอีสาน เช่น ตำกระเทย สาเกต จ.ร้อยเอ็ด อังแกบบอบ จ.สุรินทร์ เนื้อแห้ง 100 ปี จ.อำนาจเจริญ , ’20 จานแซ่บ’ แกะกล่องอาหารสุดแซ่บที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก เช่น ไก่กระเต็ด จ.นครราชสีมา ข้าวปุ้นน้ำนัว จ.นครพนม , ‘10 นวัตกรรมอาหารอีสาน Go Inter’ เช่น ไก่ไร้เก๊า จากขอนแก่น สบู่หอมแดง จากศรีสะเกษ ส้มตำอบกรอบ พร้อมชอปชม ‘ISAN Arts & Crafts’ ก่อนส่งท้ายความแซ่บกับการแสดงม่วนซื่นโฮแซว อาทิ ขบวนแห่เซิ้งบั้งไฟ การแสดงผีตาโขน หมอลำหุ่นกระติ๊บ หุ่นเต้น ดนตรีโฟล์คอีสาน โปงลางกาฬสินธุ์

โซนที่ 7 พันธมิตรท่องเที่ยวไทย ททท. จับมือกับพันธมิตรท่องเที่ยวสร้างการรับรู้ถึงการท่องเที่ยวในแง่มุมต่างๆ แบบ TAT and the Gangs ได้แก่ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ธนาคารกรุงเทพ กรุงเทพมหานคร การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคง (ศปร.) สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สมาคมสายการบินประเทศไทย สมาพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย (FETTA) และชมรมพันธกิจเพื่อคนพิการ

โซนที่ 8 เวทีกลาง จัดเต็มบรรยากาศแห่งความสนุกสนานตลอด 5 วัน พบการแสดงเชิงวัฒนธรรมจาก 5 ภูมิภาค เช่น การแสดงนาฎมวยไทย และคีตะมวยไท , การแสดงจากวิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์ , วิทยาลัยนาฏศิลปพัทลุง, รำวงเพชรบุรี, ทิฟฟานี่ คาบาเรต์โชว์, โขนและโนรา , โนราใต้ x นาฏลายเจิงเหนือจากคณะเทพศรัทธา , การแสดงล้านนาจากคณะสกุลจันทร์ , วงดนตรีประยุกต์นิศาเทวา , ฟีโน่ เดอะ ระนาด มือระนาดรางแก้วไฟวิบวับ พร้อมการแสดงจากศิลปิน เช่น เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์, เป๊ก ผลิตโชค , Paper Planes, เนเน่ พรนับพัน, เจ เจตริน, PARADOX, PALMY, New Country, Sarah Salola, Monica, FLI:P, 4MIX, Yes Indeed , เพียว เดอะวอยซ์ , อ้อมรัตนัง , หนุ่ย นันทกานต์ , เป๊กกี้ ศรีธัญญา , รัสมี อีสาน โซล , ลิเกฮีโร่ คณะสองเทพบุตรสุดที่รัก , การแสดงหมอลำใจเกินร้อย (แอน อรดี x บอย ศิริชัย) , เอกชัย ศรีวิชัย , ท่องเที่ยวไปกับเพลงลูกกรุงสุนทราภรณ์ x ธัช กิตติธัช , หลุยส์ สรวิชญ์ ฯลฯ

โซนที่ 9 TAT Net Zero ตอกย้ำหมุดหมายของการขับเคลื่อนท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน (Sustainable Tourism) ไปกับ Sustainable Tourism Goals Games & Activities บันไดแห่งความยั่งยืน และ Mapping Exhibition นำเสนอเรื่องราว The Nature Tourism, Amazing Thailand, เที่ยวได้ให้ด้วย, The Journey of Low Carbon Experience นำเสนอเรื่องราวโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (CF-Hotels) และรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards : TTA)

นอกจากนี้ ททท. มีความตั้งใจออกแบบการจัดงานให้สร้างขยะน้อยที่สุด จึงได้ยกแนวคิด “Zero Landfills” ลดการสร้างขยะนำสู่บ่อฝังกลบ นำสู่การปฏิบัติ และมีการกำจัดอย่างถูกวิธี ไม่ให้การเดินทางท่องเที่ยวทิ้งภาระให้กับสิ่งแวดล้อม และลดการใช้วัสดุสิ้นเปลืองในการตกแต่ง ภายในงานยังมีการตั้งจุดคัดแยกขยะทั้งหมด 14 จุด ประกอบด้วย 9 จุด ทั่วพื้นที่จัดงาน และ 5 จุด ตามโซนอาหารต่าง ๆ โดยมีเจ้าหน้าที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการแยกขยะและกำจัดขยะอย่างถูกต้องในกิจกรรม “ลดโลกเลอะ Zero Landfills”

ทั้งนี้ ภายในงานพิธีเปิดเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ททท. จัดการแสดงเชิงวัฒนธรรมทั้ง 5 ภูมิภาค ภายใต้ชุด “นวัฒนธรรม” มาร่วมสร้างบรรยากาศแห่งความครึกครื้น สร้างแรงบันดาลสู่การเดินทางท่องเที่ยวจริงทั่วประเทศ

ททท. คาดหวังว่างานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2566 ครั้งที่ 41 จะช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวไทยตลอดทั้งปี และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างแข็งแรงและยั่งยืน โดย ททท. ตั้งเป้าหมายการจัดงานครั้งนี้ มีจำนวนผู้ร่วมงาน 80,000-100,000 คน ตลอดระยะเวลาจัดงาน สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 80-100 ล้านบาท และมีอัตราค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 800 บาท/คน

ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 41 ประจำปี 2566” ในวันที่ 2-6 สิงหาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ฮอลล์ 5-8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เข้าชมงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TAT Contact Center 1672 Travel Buddy และติดตามข้อมูลได้ที่thai.tourismthailand.org/Articles/ttf2023 . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

EOD ลุยค้นหาจรวด หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง

13 ส.ค. – EOD ลุยค้นหา-เก็บกู้จรวดในพื้นที่บุรีรัมย์-ศรีสะเกษ หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง ขณะที่คณะ ICRC ลงพื้นที่เก็บข้อมูลผลกระทบเหตุปะทะ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD ลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ยางพาราของชาวบ้านและอีกหลายจุด ในเขต ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบหลุมต้องสงสัยอยู่ในที่ดินของตัวเอง จากการตรวจสอบพบสะเก็ดระเบิด และอีกหลายจุดพบเป็นหลุมคล้ายหลุมจรวด BM21 ที่ตกลงมา เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และต้องใช้ความระมัดระวัง ขณะที่ชาวบ้านที่เพิ่งเข้ามาอยู่บ้าน ยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ โดยเฉพาะหลังมีทหารเหยียบทุ่นระเบิดเป็นรายที่ 5 EOD เร่งตรวจสอบ–กู้ระเบิดกระสุนปืนใหญ่ชายแดน ส่วนที่ศรีสะเกษเจ้าหน้าที่ EOD สนธิกำลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีพบกระสุนปืนใหญ่ตกในเขต ต.เสาธงชัย และ ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดน เบื้องต้นพบ 7 จุด บริเวณสวนยางพาราและใกล้เขตชุมชน โดยส่วนใหญ่เป็นลูกกระสุนปืนใหญ่ขนาด 100 มิลลิเมตร เจ้าหน้าที่ได้ทำการขุดตรวจพิสูจน์ พบว่าหลายลูกระเบิดไปแล้ว เหลือเพียงเศษซาก และยังพบอีก 1 จุดในพื้น […]

อึ้งพระอยู่กับสีกา เปิดบนรถเจอกองทิชชูใช้แล้ว

สกลนคร 13 ส.ค. – วงการผ้าเหลืองฉาวอีก ตำรวจตรวจรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง พบพระกับสีกาอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 คุยไปคุยมา สุดท้ายไปจบที่ลาสิกขา หลังตำรวจ สภ.ขมิ้น จ.สกลนคร ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบรถเก๋งต้องสงสัยสีดำ จอดผิดปกติบริเวณ ริมคลอง บ.พาน ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อเข้าไปตรวจสอบ ตำรวจต้องอึ้ง เมื่อเจอพระอยู่กับสีกา 2 ต่อ 2 ในรถ ต่อมาทราบว่า คือ พระชัยณรงค์ อายุ 53 ปี สังกัด วัดแห่งหนึ่ง อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ จึงเชิญตัวไปยังวัดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อทำพิธีลาสิกขา และนำตัวมาตรวจปัสสาวะ ผลไม่พบสารเสพติด แต่รถที่พระเเละสีกาดังกล่าวอยู่ด้วยกัน พบเป็นรถที่ถูกสวมทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ คืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.ขมิ้น พบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณสถานที่เก็บของกลาง กระจกด้านข้างและด้านหลังติดฟิล์มดำสนิท แต่ด้านหน้าฟิล์มใสมองเห็นถึงภายใน ที่เบาะนั่งข้างคนขับ ยังพบกองจีวรของทิดชัยณรงค์ […]

สถานการณ์ชายแดนสุ่มเสี่ยงปะทะรอบ 2

สุรินทร์ 13 ส.ค. – กระแสข่าวจากหลายฝ่ายยืนยันตรงกันว่าระยะ 2 วันนี้ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเพิ่มความตึงเครียด สุ่มเสี่ยงที่จะมีการปะทะรอบ 2 ฝ่ายปกครอง จ.สุรินทร์ จึงแจ้งเตือนไปยังกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้ลูกบ้านเตรียมพร้อมรองรับเหตุฉุกเฉิน ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือน พบว่า หลายครอบครัวเพิ่งกลับเข้าพื้นที่ 1-2 วัน หลังอพยพหนีภัยการสู้รบในห้วงวันที่ 24 – 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ได้รับข่าวไม่สู้ดีนัก เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง แจ้งให้เตรียมความพร้อม เก็บสัมภาระไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงการปะทะ รอบ 2 ซึ่งอาจรุนแรงมากกว่ารอบแรก ทำให้ชาวบ้านหลายคนต่างตื่นตระหนก ต้องการอพยพไปอยู่นอกพื้นที่ แต่เมื่อผู้นำหมู่บ้านทำความเข้าใจ ก็คลายความกังวลลงบ้าง โดยสื่อสารข้อความจากนายอำเภอพนมดงรักว่า รอให้มีเสียงปะทะกันเกิดขึ้นก่อน จึงให้อพยพ ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อฟัง เพราะส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะอพยพไปที่ไหน เพราะยังไม่มีการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่หญิงคนหนึ่งติดอยู่ในพื้นที่สู้รบ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือนตลอดห้าวัน เพราะเป็นห่วงวัวที่เลี้ยงไว้ จึงอาศัยอยู่ในกระต๊อบพร้อมญาติรวมสี่คน และประเมินสถานการณ์ว่า น่าจะปลอดภัย เพราะวิถีกระสุนไปตกไกลกว่า จึงได้ยินเสียงปะทะอย่างชัดเจน […]

คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำ ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัว

มุกดาหาร 13 ส.ค.- คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา หลังศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 26 ปี คดีน้องชมพู่ จากกรณีศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาเพิ่มโทษให้จำคุก “ลุงพล” 26 ปี ฐานเจตนาฆ่าเด็ก พรากผู้เยาว์ และอำพรางศพ ขณะที่ “ป้าแต๋น” พิพากษายืนยกฟ้อง ในคดีฆาตกรรม น้องชมพู่ ทั้งนี้ภายหลัง ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ “ลุงพล” ได้ยื่นขอประกันตัว โดยศาลจังหวัดมุกดาหาร เสนอไปยังศาลฎีกา ล่าสุด ช่วงเย็นที่ผ่านมา ศาลฎีกายังไม่มีคำตอบลงมาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ทำให้ “ลุงพล” ถูกคุมตัวไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา ย้อนไปคดีนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 น้องชมพู่ วัย 3 ขวบ หายไปจากบ้านพักภาย ในหมู่บ้านกกกอก ทำให้ชาวบ้านมากกว่า 200 ชีวิต รวมถึง ตัวลุงพล ช่วยกันออกตามหา […]