กรุงเทพฯ 31 ก.ค.- ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศให้หุ้น STARK มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเพิ่มเติม ตั้งแต่ 31 ก.ค.66 จากกรณีบริษัทเปิดเผยข้อมูลอันเท็จในงบการเงิน และให้นำส่งงบการเงินปี 2566 ที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี ภายใน31 มี.ค. 2567
ตามที่เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2566 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ประกาศให้หุ้นสามัญของบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเนื่องจากงบการเงินประจำปี 2565 ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีปรากฏส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ ต่อมาได้ปรากฏข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากรายงานความเห็นผู้สอบบัญชีในงบการเงินประจำปี 2565 ที่ให้ความเห็นว่า พบรายการผิดปกติจำนวนหลายรายการที่แสดงข้อมูลที่ขัดต่อข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญและมีผลกระทบต่องบการเงินรวมของบริษัท ซึ่งผู้สอบบัญชีได้รายงานความผิดปกติดังกล่าวให้คณะกรรมการและผู้บริหาร STARK ได้รับทราบข้อมูลแล้ว โดยผู้บริหารของ STARK ได้พิจารณาและปรับปรุงรายการบัญชีทั้งในงบการเงินประจำปี 2565 และงบการเงินประจำปี 2564 ด้วยแล้ว หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2566 สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ดำเนินการกล่าวโทษ STARK และบุคคลที่เกี่ยวข้องอีก 9 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ข้อหาร่วมกันกระทำหรือยินยอมให้มีการลงข้อความเท็จ ทำบัญชีไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน หรือไม่ตรงต่อความเป็นจริง ในบัญชีหรือเอกสารของ STARK และบริษัทย่อย ในปี 2564 – 2565 เพื่อลวงบุคคลใดๆ (รายละเอียดปรากฏตามข่าวสำนักงาน ก.ล.ต. ฉบับที่ 116/2566 ลงวันที่ 6 ก.ค. 2566) ซึ่งข้อเท็จจริงดังกล่าวถือเป็นเหตุที่ทำให้หุ้นสามัญของ STARK เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเพิ่มเติม ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอแจ้งการดำเนินการกับ STARK ดังนี้
- ประกาศให้หุ้นสามัญของ STARK มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเพิ่มเติมอีก 1 เหตุ จากการที่ STARK
มีการเปิดเผยข้อมูลอันเป็นเท็จในงบการเงิน ตามข้อ 7(3) ของข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่อง การเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ. 2564 ตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค. 2566 โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะยังคงขึ้นเครื่องหมาย NC (Non – Compliance) เพื่อให้ผู้ลงทุนทราบว่าหลักทรัพย์ STARK เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน และเครื่องหมาย SP (Suspension) เพื่อสั่งห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ STARK ต่อไป จนกว่า STARK จะสามารถดำเนินการแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนทั้งหมดให้หมดไปภายในระยะเวลาที่กำหนดได้ - กำหนดให้ STARK ต้องแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนตามข้อ 1 ข้างต้น ด้วยการนำส่งงบการเงินประจำปี 2566 ที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 31 มี.ค. 2567และความเห็นของผู้สอบบัญชีที่มีต่องบการเงินดังกล่าวจะต้องไม่มีประเด็นดังต่อไปนี้
• ความไม่ถูกต้องของข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญ
• ระบบการควบคุมภายในของ STARK ที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ
• ถูกจำกัดขอบเขตการสอบบัญชีโดย STARK หรือกรรมการหรือผู้บริหารของ STARK
• ไม่สามารถหาหลักฐานการสอบบัญชีที่เหมาะสมอย่างเพียงพอ
สำหรับปัจจุบัน รายละเอียดของการแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนและกำหนดระยะเวลาดำเนินการในแต่ละเหตุที่ STARK จะต้องดำเนินการ มีดังนี้
• กรณีเปิดเผยข้อมูลอันเป็นเท็จในงบการเงิน : มีกำหนดแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนถึงภายในวันที่ 31 มี.ค. 2567
• กรณีส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ : มีกำหนดแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนถึงภายในวันที่ 19 มิ.ย. 2569
ทั้งนี้ STARK มีหน้าที่ต้องดำเนินการแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนทั้งหมดดังกล่าวข้างต้นให้หมดไป และดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายภายในกำหนดระยะเวลาของแต่ละเหตุ ซึ่งเมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว หาก STARK ยังไม่สามารถแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนให้หมดไปได้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจพิจารณาดำเนินการเพิกถอนหลักทรัพย์ STARK ต่อไป.-สำนักข่าวไทย