นนทบุรี 29 ก.ค.-รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ร่วมกับ สคบ. และตำรวจ ปคบ. ตรวจเข้มร้านสังฆภัณฑ์ช่วงวันเข้าพรรษาอย่างใกล้ชิด ย้ำผู้ประกอบการต้องปิดป้ายให้ชัดเจน พบโกงราคา ของไม่มีคุณภาพ ถูกดำเนินคดีแน่ ขณะที่ตัวเลขร้องเรียนผ่าน 1569 ยังสูงต่อเนื่อง เป็นเรื่องเดิมๆ ไม่ปิดป้าย แสดงราคาไม่ตรง
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เนื่องจากใกล้ถึงวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ประชาชนชาวพุทธ นิยมเข้าวัดเพื่อทำบุญตักบาตร และถวายเทียนจำนำพรรษาตามประเพณี กรมการค้าภายในจึงได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ลงพื้นที่ติดตามสถานการรณ์ราคาสินค้าชุดสังฆทาน ไทยธรรม และเทียนพรรษา ของร้านจำหน่ายสังฆภัณฑ์ต่างๆ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบร้านจำหน่ายสังฆภัณฑ์ บริเวณเสาชิงช้า เขตพระนคร ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าที่สำคัญ ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือด้วยดีในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง มีการแสดงราคจำหน่ายชัดเจน เปิดเผย ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบราคาก่อนตัดสินใจซื้อ ยังไม่พบพฤติกรรมการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาจำหน่าย
อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวมราคาจำหน่ายถือว่าไม่ได้แตกต่างไปจากปีที่แล้วราคายังคงทรงตัว ขณะที่ประชาชนผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าได้หลากหลายแบบ ราคาจำหน่ายขึ้นอยู่กับชนิด ขนาด และจำนวนสินค้าที่นำมาจัดชุด ชุดสังฆทาน ราคาตั้งแต่ 65-2,800 บาท เทียนพรรษา แพ็คคู่ ราคาตั้งแต่ 160-6,500 บาท และต้นละ 220-5,800 บาท โดยกรมฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจออกตรวจสอบร้านจำหน่ายสังฆภัณฑ์รวมถึงห้างสรรพสินค้าทั่วไปอย่างใกล้ชิด เพิ่มเติมจากการที่ดำเนินการเป็นประจำอยู่แล้ว เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้ผู้บริโภคในการซื้อสินค้าและป้องปรามมิให้ผู้ค้าฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุผลอันควร
อย่างไรก็ตาม สินค้าชุดไทยธรรม ชุดสังฆทาน สินค้าอุปโภคบริโภคมีให้เลือกหลายแบบหลายราคา จึงแนะนำให้ประชาชนเปรียบเทียบราคาและคุณภาพก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า ทั้งนี้ หากไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านราคาและปริมาณสินค้าหรือบริการ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จะมีการตรวจสอบให้ความเป็นธรรม และหากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ หากดูตัวเลขการร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-26 ก.ค.66 มีการร้องเรียนจากผู้บริโภคทั้งสิ้น 2,262 เรื่องเพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 21% หรือ 388 เรื่อง โดยเป็นความผิดไม่ปิดป้ายแสดงรายการสินค้าสูงถึง 1,167 เรื่อง รองลงมาจำหน่ายสินค้าราคาแพงเกินจริง 501 เรื่อง แสดงราคาจำหน่ายปลีกไม่ตรงกับราคาที่จำหน่าย 131 เรื่องและที่เหลือเป็นเรื่องอื่นๆ โดยกรมฯได้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ค้าที่มีพฤติกรรมกระทำความผิดทั้งคักเตือน ปรับ หรือจำคุกไปหลายรายแล้ว แต่ที่ผ่านมายังพบการกระทำความผิดซ้ำซากของพ่อและแม่ค้าตามสถานที่ต่างๆ บางพื้นที่ก็เป็นรายเดิม ดังนั้น กรมฯได้ขึ้นบัญชีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่มักกระทำความผิดแบบซ้ำซากไว้แล้ว ตะดำเนินคดีทางกฎหมายทั้งจำทั้งปรับให้มากยิ่งขึ้นกันต่อไป.-สำนักข่าวไทย