ข้าวตราฉัตร คว้าสุดยอดรางวัล “Marketeer No.1 Brand Thailand 2023”

26 ก.ค. – ข้าวตราฉัตร เจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทย ที่ได้เบอร์หนึ่ง “ข้าวยอดนิยมในใจผู้บริโภค 12 ปีซ้อน” ด้วยรางวัล “Marketeer No.1 Brand Thailand 2023”


ข้าวตราฉัตร ผู้นำธุรกิจข้าวสารบรรจุถุงเมืองไทย เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทย ที่ได้เบอร์หนึ่งแบรนด์ข้าวยอดนิยมในใจผู้บริโภคทั้งประเทศ ด้วยการคว้าสุดยอดรางวัล “Marketeer No.1 Brand Thailand 2023” หรือ “รางวัลแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ในใจผู้บริโภคทั่วประเทศไทย” ในหมวดธุรกิจข้าวสารบรรจุถุง ครองอันดับหนึ่งติดต่อกันต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 จากผู้เข้ารับรางวัลทั้งหมด 65 แบรนด์ นับเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ และช่วยตอกย้ำมาตรฐาน คุณภาพสินค้า และการบริการ จากเสียงสะท้อนของผู้บริโภคทั่วประเทศที่ให้การยอมรับ และไว้วางใจเลือกข้าวตราฉัตรมาโดยตลอด

นายยงยุทธ พฤกษ์มหาดำรง รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส เปิดเผยว่า “ข้าวตราฉัตรขอบคุณผู้บริโภคทั่วประเทศ ทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจเลือกข้าวตราฉัตรเป็นแบรนด์เบอร์ 1 ในใจผู้บริโภคมาต่อเนื่องถึง 12 ปีซ้อนจากผลโหวตของผู้บริโภค ผู้ที่อุปการะของข้าวตราฉัตร ขอบคุณทีมงานข้าวตราฉัตร ไม่ว่าจะเป็นส่วนหน้าหรือส่วนหลังก็ตาม รางวัลนี้ถือเป็นกำลังใจให้กับพวกเราทุกคน มุ่งมั่นพัฒนามาตรฐาน คุณภาพสินค้า และต่อยอดความสำเร็จของข้าวตราฉัตรต่อไป ขอบคุณชาวนาไทย บุคคลสำคัญที่ขาดไม่ได้ ที่มีส่วนร่วมในการผลิตข้าวที่ดีมีคุณภาพ และสุดท้ายขอบคุณพันธมิตรคู่ค้าข้าวตราฉัตรทุกท่าน ที่ช่วยสนับสนุนเป็นกำลังสำคัญในการจำหน่ายสินค้าข้าวตราฉัตร ไม่ว่าจะเป็น Modern Trade, Local Modern Trade, Traditional Trade, ช่องทางออนไลน์ หรือออฟไลน์ ทุกคนมีส่วนร่วมกับรางวัลนี้ ที่ทำให้เราเป็นสินค้าคุณภาพ และได้รับการยอมรับมาอย่างต่อเนื่อง 12 ปีติดต่อกัน ซึ่งก็เป็นปณิธานใหญ่ของข้าวตราฉัตร ภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ที่ท่านประธานอาวุโสให้นโยบายไว้ เรื่อง 3 ประโยชน์ คือ ประเทศชาติ ประชาชน และบริษัท ด้วยปรัชญานี้ทำให้ข้าวตราฉัตรดำเนินธุรกิจข้าวในประเทศไทยให้มีความยั่งยืน มาอย่างต่อเนื่อง และยาวนาน ถือเป็นกลยุทธ์หลักสำคัญ และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญและขาดไม่ได้ คือความกตัญญูต่อประเทศชาติ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และผู้บริโภคทั้งหมด ถือเป็นแกนหลักที่ทำให้ข้าวตราฉัตรดำเนินธุรกิจและได้การยอมรับตลอดที่ผ่านมา


ซึ่งปัจจุบันการแข่งขันตลาดข้าวสารบรรจุถุงไทยในตอนนี้ เป็น Red Ocean ดุเดือด มีหลากหลายแบรนด์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่การสร้างแบรนด์ให้ติดตลาดและเติบโตอย่างยั่งยืนไม่ใช่เรื่องง่าย และปัจจัยสำคัญที่ทำให้ข้าวตราฉัตรยังคงเป็นแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ในใจผู้บริโภคทั่วประเทศไทย มาจาก หนึ่ง-คุณภาพที่ดี ต้องมีเกณฑ์สูงกว่ามาตรฐานข้าวไทยทั่วไปที่ภาครัฐกำหนด ดั่งสโลแกนที่ยึดมั่นมากว่า 30 ปี “มาตรฐานแน่นอนทุกถุง เหมือนกันทั่วโลก” ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทุกคนต้องได้กินข้าวที่มีมาตรฐานเดียวกันหมด สอง-พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ต่อเนื่อง อย่างการนำเทคโนโลยีการเก็บรักษาข้าวสารมาใช้เพื่อล็อกความสดใหม่ของข้าว ทำให้ข้าวหอม นุ่ม เหนียว ตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นผู้นำในไทยที่เก็บข้าวไว้ที่ความเย็น 15 องศา ก่อนนำมาบรรจุถุงเมทัลไลซ์ ที่ช่วยรักษาคุณภาพและความสดใหม่ได้นานขึ้นจนถึงมือผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภครับประทานข้าวอร่อยได้ตลอดปี ขณะเดียวกันก็พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป อย่างการส่งเสริมปลูกข้าวสายพันธุ์ กข43 หรือ ข้าวฉัตรไลท์ ข้าวน้ำตาลน้อย เป็นทางเลือกใหม่ของคนที่ต้องการควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด ที่สำคัญ อร่อย นุ่ม น้ำตาลน้อย ตอบโจทย์กลุ่มคนรักสุขภาพ สาม-การกระจายสินค้า หรือ Distribution ที่ดี ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้าวตราฉัตรได้สะดวกมากขึ้น ทั้ง Modern Trade, Local Modern Trade, Traditional Trade, ช่องทางออนไลน์ หรือออฟไลน์ ตลอดจนการทำ Delivery มีพาร์ตเนอร์ครบทุกช่องทางการขาย และยังมีกลุ่มเชนร้านอาหารรายใหญ่ทั่วประเทศ ที่เป็นอีกหนึ่ง Touch Point ที่ทำให้ผู้บริโภคได้ลองสินค้าในวงกว้าง สี่-บริการที่ดี มีบริการรับประกันสินค้า ภายใต้โลโก้ Satisfaction Guarantee (เจ้าเดียวในประเทศไทยที่เปลี่ยนสินค้าทันทีหากไม่พึงพอใจ) หากลูกค้าซื้อไปแล้วพบว่าบังเอิญหยิบผิดสี หรือมีปัญหาด้านการจัดเก็บรักษา สามารถโทรแจ้งได้ทันที มีทีมงานบริหารความพึงพอใจ ติดต่อประสานงานกลับ และเข้าไปเปลี่ยนสินค้าให้ใหม่ทันที พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านข้าวให้คำแนะนำกับผู้บริโภค สามารถติดต่อสอบถามได้ 24 ชั่วโมง ห้า-สินค้าที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกกลุ่มความต้องการ ทั้ง B2C และ B2B นอกจากกลุ่มข้าวหอมมะลิ มีกลุ่มข้าวราคาประหยัด หรือข้าวที่เหมาะสำหรับทำข้าวผัด ข้าวเหนียวมะม่วง ปลายข้าวที่เอาไปทำโจ๊ก หก-แบรนด์ดีที่ผู้บริโภคเชื่อมั่น ด้วยสิ่งสำคัญที่ข้าวตราฉัตรทำเสมอมาคือ “ความซื่อสัตย์กับลูกค้า” หน้าถุงเขียนไว้อย่างไร ในถุงเราก็เป็นแบบนั้น จะไม่หลอกหลวงผู้บริโภค ไม่ทำให้เกิดความสับสน

การได้รับรางวัลในครั้งนี้ จึงคิดเสมอว่าพอใจได้แค่วันเดียว และเรายังต้องมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและบริการให้ดีกว่าเดิม ในอนาคตจะมีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำข้าวต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง และนวัตกรรมนี้ต้องเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ และตอบโจทย์ทุกความต้องการให้กับผู้บริโภคของเราได้ อีกทั้งยังช่วยให้สุขภาพของคนไทยดีขึ้นอีกด้วย”

ข้าวตราฉัตร ขอยืนเคียงข้างคนไทย ด้วยการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดี มีคุณภาพ อีกทั้งให้บริการที่คำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลัก พร้อมคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ มาพัฒนาสินค้าและบริการ ให้ตอบโจทย์ความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง