ข้าวตราฉัตร คว้าสุดยอดรางวัล “Marketeer No.1 Brand Thailand 2023”

26 ก.ค. – ข้าวตราฉัตร เจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทย ที่ได้เบอร์หนึ่ง “ข้าวยอดนิยมในใจผู้บริโภค 12 ปีซ้อน” ด้วยรางวัล “Marketeer No.1 Brand Thailand 2023”


ข้าวตราฉัตร ผู้นำธุรกิจข้าวสารบรรจุถุงเมืองไทย เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทย ที่ได้เบอร์หนึ่งแบรนด์ข้าวยอดนิยมในใจผู้บริโภคทั้งประเทศ ด้วยการคว้าสุดยอดรางวัล “Marketeer No.1 Brand Thailand 2023” หรือ “รางวัลแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ในใจผู้บริโภคทั่วประเทศไทย” ในหมวดธุรกิจข้าวสารบรรจุถุง ครองอันดับหนึ่งติดต่อกันต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 จากผู้เข้ารับรางวัลทั้งหมด 65 แบรนด์ นับเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ และช่วยตอกย้ำมาตรฐาน คุณภาพสินค้า และการบริการ จากเสียงสะท้อนของผู้บริโภคทั่วประเทศที่ให้การยอมรับ และไว้วางใจเลือกข้าวตราฉัตรมาโดยตลอด

นายยงยุทธ พฤกษ์มหาดำรง รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส เปิดเผยว่า “ข้าวตราฉัตรขอบคุณผู้บริโภคทั่วประเทศ ทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจเลือกข้าวตราฉัตรเป็นแบรนด์เบอร์ 1 ในใจผู้บริโภคมาต่อเนื่องถึง 12 ปีซ้อนจากผลโหวตของผู้บริโภค ผู้ที่อุปการะของข้าวตราฉัตร ขอบคุณทีมงานข้าวตราฉัตร ไม่ว่าจะเป็นส่วนหน้าหรือส่วนหลังก็ตาม รางวัลนี้ถือเป็นกำลังใจให้กับพวกเราทุกคน มุ่งมั่นพัฒนามาตรฐาน คุณภาพสินค้า และต่อยอดความสำเร็จของข้าวตราฉัตรต่อไป ขอบคุณชาวนาไทย บุคคลสำคัญที่ขาดไม่ได้ ที่มีส่วนร่วมในการผลิตข้าวที่ดีมีคุณภาพ และสุดท้ายขอบคุณพันธมิตรคู่ค้าข้าวตราฉัตรทุกท่าน ที่ช่วยสนับสนุนเป็นกำลังสำคัญในการจำหน่ายสินค้าข้าวตราฉัตร ไม่ว่าจะเป็น Modern Trade, Local Modern Trade, Traditional Trade, ช่องทางออนไลน์ หรือออฟไลน์ ทุกคนมีส่วนร่วมกับรางวัลนี้ ที่ทำให้เราเป็นสินค้าคุณภาพ และได้รับการยอมรับมาอย่างต่อเนื่อง 12 ปีติดต่อกัน ซึ่งก็เป็นปณิธานใหญ่ของข้าวตราฉัตร ภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ที่ท่านประธานอาวุโสให้นโยบายไว้ เรื่อง 3 ประโยชน์ คือ ประเทศชาติ ประชาชน และบริษัท ด้วยปรัชญานี้ทำให้ข้าวตราฉัตรดำเนินธุรกิจข้าวในประเทศไทยให้มีความยั่งยืน มาอย่างต่อเนื่อง และยาวนาน ถือเป็นกลยุทธ์หลักสำคัญ และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญและขาดไม่ได้ คือความกตัญญูต่อประเทศชาติ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และผู้บริโภคทั้งหมด ถือเป็นแกนหลักที่ทำให้ข้าวตราฉัตรดำเนินธุรกิจและได้การยอมรับตลอดที่ผ่านมา


ซึ่งปัจจุบันการแข่งขันตลาดข้าวสารบรรจุถุงไทยในตอนนี้ เป็น Red Ocean ดุเดือด มีหลากหลายแบรนด์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่การสร้างแบรนด์ให้ติดตลาดและเติบโตอย่างยั่งยืนไม่ใช่เรื่องง่าย และปัจจัยสำคัญที่ทำให้ข้าวตราฉัตรยังคงเป็นแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ในใจผู้บริโภคทั่วประเทศไทย มาจาก หนึ่ง-คุณภาพที่ดี ต้องมีเกณฑ์สูงกว่ามาตรฐานข้าวไทยทั่วไปที่ภาครัฐกำหนด ดั่งสโลแกนที่ยึดมั่นมากว่า 30 ปี “มาตรฐานแน่นอนทุกถุง เหมือนกันทั่วโลก” ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทุกคนต้องได้กินข้าวที่มีมาตรฐานเดียวกันหมด สอง-พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ต่อเนื่อง อย่างการนำเทคโนโลยีการเก็บรักษาข้าวสารมาใช้เพื่อล็อกความสดใหม่ของข้าว ทำให้ข้าวหอม นุ่ม เหนียว ตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นผู้นำในไทยที่เก็บข้าวไว้ที่ความเย็น 15 องศา ก่อนนำมาบรรจุถุงเมทัลไลซ์ ที่ช่วยรักษาคุณภาพและความสดใหม่ได้นานขึ้นจนถึงมือผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภครับประทานข้าวอร่อยได้ตลอดปี ขณะเดียวกันก็พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป อย่างการส่งเสริมปลูกข้าวสายพันธุ์ กข43 หรือ ข้าวฉัตรไลท์ ข้าวน้ำตาลน้อย เป็นทางเลือกใหม่ของคนที่ต้องการควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด ที่สำคัญ อร่อย นุ่ม น้ำตาลน้อย ตอบโจทย์กลุ่มคนรักสุขภาพ สาม-การกระจายสินค้า หรือ Distribution ที่ดี ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้าวตราฉัตรได้สะดวกมากขึ้น ทั้ง Modern Trade, Local Modern Trade, Traditional Trade, ช่องทางออนไลน์ หรือออฟไลน์ ตลอดจนการทำ Delivery มีพาร์ตเนอร์ครบทุกช่องทางการขาย และยังมีกลุ่มเชนร้านอาหารรายใหญ่ทั่วประเทศ ที่เป็นอีกหนึ่ง Touch Point ที่ทำให้ผู้บริโภคได้ลองสินค้าในวงกว้าง สี่-บริการที่ดี มีบริการรับประกันสินค้า ภายใต้โลโก้ Satisfaction Guarantee (เจ้าเดียวในประเทศไทยที่เปลี่ยนสินค้าทันทีหากไม่พึงพอใจ) หากลูกค้าซื้อไปแล้วพบว่าบังเอิญหยิบผิดสี หรือมีปัญหาด้านการจัดเก็บรักษา สามารถโทรแจ้งได้ทันที มีทีมงานบริหารความพึงพอใจ ติดต่อประสานงานกลับ และเข้าไปเปลี่ยนสินค้าให้ใหม่ทันที พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านข้าวให้คำแนะนำกับผู้บริโภค สามารถติดต่อสอบถามได้ 24 ชั่วโมง ห้า-สินค้าที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกกลุ่มความต้องการ ทั้ง B2C และ B2B นอกจากกลุ่มข้าวหอมมะลิ มีกลุ่มข้าวราคาประหยัด หรือข้าวที่เหมาะสำหรับทำข้าวผัด ข้าวเหนียวมะม่วง ปลายข้าวที่เอาไปทำโจ๊ก หก-แบรนด์ดีที่ผู้บริโภคเชื่อมั่น ด้วยสิ่งสำคัญที่ข้าวตราฉัตรทำเสมอมาคือ “ความซื่อสัตย์กับลูกค้า” หน้าถุงเขียนไว้อย่างไร ในถุงเราก็เป็นแบบนั้น จะไม่หลอกหลวงผู้บริโภค ไม่ทำให้เกิดความสับสน

การได้รับรางวัลในครั้งนี้ จึงคิดเสมอว่าพอใจได้แค่วันเดียว และเรายังต้องมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและบริการให้ดีกว่าเดิม ในอนาคตจะมีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำข้าวต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง และนวัตกรรมนี้ต้องเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ และตอบโจทย์ทุกความต้องการให้กับผู้บริโภคของเราได้ อีกทั้งยังช่วยให้สุขภาพของคนไทยดีขึ้นอีกด้วย”

ข้าวตราฉัตร ขอยืนเคียงข้างคนไทย ด้วยการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดี มีคุณภาพ อีกทั้งให้บริการที่คำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลัก พร้อมคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ มาพัฒนาสินค้าและบริการ ให้ตอบโจทย์ความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

ล่า “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงินกว่า 3 ล้าน

กทม. 1 ก.ค. – ตำรวจยังคงไล่ล่าแก๊งปล้นเงินกลางห้างดังย่านลาดพร้าว ได้เงินไปกว่า 3.4 ล้านบาท ล่าสุดศาลอนุมัติหมายจับแล้ว พบเป็นคนดังโซเชียลสายคุก ฉายา “เสือปุ่น” มีประวัติคดีโชกโชน .-สำนักข่าวไทย

“เจนี่” ถือฤกษ์ดี ปลงผมบวชสามเณรี ญาติมิตรร่วมอนุโมทนา

สระบุรี 1 ก.ค. – “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์” วัย 44 ปี ถือฤกษ์งามยามดี เช้าวันนี้ (1 ก.ค.68) ปลงผมบวชสามเณรี ในโครงการบรรพชาสามเณรี รุ่นที่ 3 บริเวณปะรำพิธี ณ ศรีวรญาลัย จ.สระบุรี โดยมีครอบครัว ญาติสนิท ผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ และเพื่อนพ้องทั้งในและนอกวงการ ร่วมอนุโมทนา. – สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]