กรุงเทพฯ 26 ก.ค.-สถาบันการเงินขานรับ ธปท. แก้หนี้ครัวเรือน เร่งบังคับใช้แก้หนี้เรื้อรัง Non Bank พร้อมเสนอทางเลือกรายได้ไม่เกิน 1 หมื่นบาท ร่วมเคลียร์หนี้ส่วนบุคคล ธ.ก.ส. เปิดลูกหลานกู้รีไฟแนนซ์แทนคุณ 2 หมื่นล้านแก้หนี้เรื้อรังผู้สูงอายุ 4,200 ราย
นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท. กล่าวว่า การดึงสถาบันการเงินเข้ามาร่วมแแก้ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน สัดส่วนสูงถึงร้อยละ 90.6 ของจีดีพี กระจายไปทั้งกลุ่มพนักงานใหม่เพิ่งจบการศึกษา ผู้มีรายได้น้อย เพื่อให้ลูกหนี้หมุนเวียนทุกกลุ่ม จ่ายชำระดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น ต้องปิดบัญชีให้ได้ภายใน 5 ปี โดยลดดอกเบี้ยเงินกู้จากร้อยละ 25 ลดเหลือร้อยละ 15 หลังจาก ธปท. ได้ออกมาตรการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน เพื่อดูแล (1) หนี้เสีย ให้สามารถแก้ไขได้ (2) หนี้เรื้อรัง ให้มีทางเลือกปิดจบหนี้ได้ (3) หนี้ใหม่ ให้มีคุณภาพ ไม่กลายเป็นปัญหาในอนาคต และ (4) หนี้นอกระบบ ให้มีโอกาสมากขึ้นที่จะเข้ามากู้ในระบบได้ โดยเกณฑ์ responsible lending จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 เว้นแต่ส่วนของการดูแลหนี้เรื้อรังเริ่มตั้งแต่ 1 เมษายน 2567 เป็นต้นไป
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิก ตระหนักถึงความสำคัญของการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ได้บรรจุในแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี ของสมาคมธนาคารไทย ตั้งแต่ปี 2565 และได้ให้ความร่วมมือกับ ธปท. ในการผลักดันผ่านหลายมาตรการ ณ สิ้นเดือนเมษายน 2566 มีลูกหนี้ได้รับการช่วยเหลือของธนาคารพาณิชย์ 2 ล้านบัญชี ยอดหนี้ 1.88 ล้านล้านบาท จากยอดหนี้เคยสูงสุด ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2563 6.12 ล้านบัญชี ยอดหนี้ 4.2 ล้านล้านบาท ธนาคารพร้อมดำเนินการตามมาตรการ ธปท. ดูแลลูกหนี้กลุ่มเปราะบาง แบบตรงจุด ตรงกลุ่มเป้าหมาย สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิกพร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุนมาตรการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืนตามแนว responsible lending ของ ธปท. มองเห็นประโยชน์ร่วมกันทั้งลูกหนี้ เจ้าหนี้ ผู้กำกับและรัฐ ไม่ทำให้ใครต้องตกไปอยู่นอกระบบจากมาตรการที่นำมาใช้ และทุกภาคส่วนร่วมแชร์ความเสี่ยงอย่างเป็นธรรมในการแก้ปัญหาหนี้ เพื่อร่วมปัญหาหนี้ครัวเรือนให้คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น
นายวิทัย รัตนากร ประธานสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ กล่าวว่า กลุ่มลูกค้าของแบงก์รัฐ ส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายย่อยที่มีความเปราะบาง เช่น กลุ่มพ่อค้าแม่ค้า เกษตรกรที่มีรายได้ค่อนข้างน้อย มีความไม่แน่นอนสูง มีกันชนทางการเงินจำกัด และกลุ่มข้าราชการแม้มีรายได้มั่นคงแต่ค่อนข้างน้อย อาจไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้ ดังนั้นการจัดทำมาตรการของ ธปท. ด้วยการลดดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้จากร้อยละ 25 เหลือร้อยละ 15 และปิดหนี้ให้ได้ในช่วง 5 ปีผ่านการกำหนดแผนชำระหนี้ จะทำให้ลูกหนี้ลดภาระได้อย่างมาก เนื่องจากได้ชำระดอกเบี้ยไปและได้ทุนคืนแล้วในช่วง 4-5 ปีแรก การลดภาระดอกเบี้ย เพื่อให้กลุ่มเปราะบางฟื้นตัวได้ ธนาคารออมสิน มุ่งสร้างแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำและเป็นธรรมที่ได้ดำเนินการอยู่ในช่วงเวลานี้ การแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืนได้นั้น ต้องดำเนินการควบคู่กับการสร้างงานสร้างอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ และการส่งเสริมการออมและสร้างวินัยทางการเงินให้กับประชาชน ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่อยู่ในพันธกิจของสมาคมแบงก์รัฐ ต้องดำเนินการต่อไป
นายอธิป ศิลป์พจีการ รองประธานชมรมสินเชื่อส่วนบุคคล กล่าวว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ของ Non-bank เป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อยและเปราะบางกว่าลูกค้าของธนาคารพาณิชย์ เช่น พนักงานบริษัทหรือพนักงานในโรงงานที่มีเงินเดือนประจำค่อนข้างต่ำ หรือพ่อค้าแม่ค้าขายของ มีหลักฐานทางการเงินจำกัด จึงต้องใช้ข้อมูลทางเลือก พิจารณาปล่อยกู้ ช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ลูกค้าส่วนใหญ่เรือกการผ่อนชำระขั้นต่ำที่จำกัด ทำให้ลูกหนี้กลุ่มนี้เป็นหนี้เรื้อรังค่อนข้างสูง ชมรมสินเชื่อส่วนบุคคลและบริษัทสมาชิก พร้อมร่วมมือกับ ธปท. เร่งประชาสัมพันธ์ ดึงลูกค้าเข้าร่วมโครงการพร้อมนำเสนอทางเลือกเพื่อช่วยเหลือให้ลูกหนี้ที่มีความตั้งใจสามารถปิดจบหนี้ เริ่มจากลูกค้าที่มีรายได้ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือน มาร่วมเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสร้างวินัยทางการเงินที่ดีควบคู่กันไป
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า พฤติกรรมการกู้เงินของเกษตรกร จะชำระหนี้เงินกู้เดิมเมื่อขายผลผลิตตามฤดูกาล จากนั้นจะขอกู้ใหม่เพื่อปลูกพืชในฤดูถัดไปหมุนเวียนทุกปี หากมีเหตุฉุกเฉิน หรือความจำเป็น จึงขาดการชำระหนี้ ทำให้เกษตรกรจ่ายชำระเฉพาะดอกเบี้ยและไม่สามารถจ่ายคืนเงินต้นเพื่อปิดจบหนี้ได้ ขณะนี้มีกลุ่มเปราะบางมีปัญหาหนี้เรื้อรัง 4.3 ล้านราย จำนวน 10 ล้านสัญญาเงินกู้ แบ่งเป็นเกษตรกร 6 ล้านสัญญา จำนวน 3 ล้านราย บอร์ด ธ.ก.ส. จึงเห็นชอบ การแก้ปัญหากลุ่มเกษตรกร หนี้เรื้อรังและสูงอายุมากกว่า 60 ปี มีจำนวน 1.2 ล้านราย เฟสแรก ธ.ก.ส. ได้จัดทำ “โครงการสินเชื่อแทนคุณ” เตรียมวงเงิน20,000 ล้านบาท เพื่อลูกหลานกู้เงินมารีไฟแนนซ์ชำระคืนแทนพ่อแม่ ประมาณ 4,200 ราย เร่ิมขอกู้ดอกเบี้ยต่ำในเดือนมีนาคม 2567 เพื่อตัดเงินต้น การปิดหนี้ให้ลูกค้าเกษตรกร และพร้อมดูแลลูกหนี้กลุ่มเรื้องรังตามนโยบายธปท.อย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย