ทำเนียบฯ 21 ก.ค. –รัฐบาลแจงอย่าตกใจข่าวลือ “ยืนยันงบกลางใช้ฉุกเฉินมีเพียงพอ” ไม่กระทบหน่วยงานรัฐ งบกลางเบิกจ่ายกว่า 5 หมื่ล้านบาท เพียงพอใช้อีก 2 เดือนที่เหลือ
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า กรณีข้อห่วงใยต่อวงเงินการใช้จ่ายงบกลางคงเหลือ มีหลายฝ่ายมีความกังวล อาจไม่เพียงพอให้รัฐบาลใหม่ดำเนินการ นั้น รัฐบาลได้รักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเข้มงวด เพื่อให้เกิดประโยชน์กับพี่ ประชาชนทุกช่วงวัย ทุกกลุ่ม อย่างครอบคลุม และเท่าเทียม ในกรณีฉุกเฉินเร่งด่วน รัฐบาลมีงบกลาง สำรองจ่ายกรณีฉุกเฉิน เพื่อแก้ไขสถานการณ์ บรรเทาความเสียหายจากภัยธรรมชาติ หรือเหตุจำเป็นเร่งด่วนของรัฐ งบฉุกเฉินจำเป็น หากมีภัยพิบัติในช่วงนี้ ไม่ว่ารัฐบาลชุดใด ยังสามารถเบิกจ่ายจากงบกลางได้
โดยในปีงบประมาณปี 2566 ตั้งไว้ 92,400 ล้านบาท ปัจจุบัน ยังมีงบประมาณมากเพียงพอ สามารถนำมาใช้จ่าย เมื่อมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน ในช่วงระยะเวลาที่เหลือของปีงบประมาณ 2566 ประมาณ 2 เดือนเศษ (ถึงเดือนกันยายน2566) เช่น การเยียวยาหรือบรรเทาความเสียหายจากภัยพิบัติสาธารณะร้ายแรง หรือภารกิจที่มีความจำเป็นเร่งด่วนอื่น ๆ โดย ณ วันที่ 16 กรกฎาคม 2566 กระทรวงการคลังรายงานว่า งบกลางฉุกเฉินที่ได้ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีกว่า 50,000 ล้านบาท อาทิ โครงการเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2565 มาตรการให้ส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย เป็นต้น
ในส่วนของวงเงินมาตรา 28 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ที่มีกระแสข่าวว่ามียอดเงินคงเหลือ 18,000 ล้านบาท เป็นยอดเงินคนละส่วนกับงบกลางฉุกเฉิน ซึ่งเป็นการใช้งบประมาณภายใต้มาตรา 28 นี้ รัฐบาลมอบหมายให้หน่วยงานของรัฐดำเนินโครงการโดยใช้เงินทุนขององค์กรไปพลางก่อน จากนั้นรัฐบาลจะจ่ายชดเชยภายหลัง ส่วนใหญ่เป็นโครงการเพื่อให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนเกษตรกรในช่วงที่ราคาสินค้าการเกษตรตกต่ำ การลดภาระค่าครองชีพให้กับผู้มีรายได้น้อย ในช่วงเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ขณะนี้มียอดคงค้างรวม ที่รัฐต้องรับชดเชยจากการดำเนินโครงการตามมาตรา 28 ไม่เกินร้อยละ 32 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 มีกรอบวงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท.-สำนักข่าวไทย