เอกชนยังคงเฝ้าติดตามใครเหมาะสมผ่านด่านตั้งนายกฯ คนใหม่

กรุงเทพฯ 20 ก.ค. – หอการค้าไทยเฝ้าติดตามการพิจารณานายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในวันที่ 27 ก.ค.นี้ ระบุได้วิเคราะห์การจัดตั้งรัฐบาล 2 แนวทาง คาดได้รัฐบาลใหม่เดือน ส.ค. หรือช้าสุดเดือน ก.ย.นี้


นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ครั้งถัดไปในสัปดาห์หน้า (27 ก.ค.) ยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนว่าจะเป็นในลักษณะใด แต่สิ่งที่เป็นภาพชัดเจนแล้วขณะนี้ คือ การเสนอชื่อโหวตนายกรัฐมนตรีสามารถทำได้เพียงครั้งเดียว และไม่สามารถจะใช้ญัตติเดิมในการเสนอชื่อคนเดิมได้ ซึ่งหมายความว่าหมดสิทธิที่จะเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซ้ำ หลังจากนี้คงเป็นไปตามแนวทางที่พรรคก้าวไกลเสนอให้พรรคอันดับ 2 คือพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล

ทั้งนี้ สามารถวิเคราะห์ได้ 2 กรณีที่อาจจะเกิดขึ้น 1.กรณี สว. ยืนยันไม่โหวตหากมีพรรคก้าวไกลเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่ทั้ง 8 พรรคร่วมเดิม ยังจับมือเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล โดยเสนอแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทยขึ้นมาแทน ก็จะต้องมาพิจารณาว่าสมาชิกรัฐสภาจะให้การสนับสนุนถึง 375 เสียงได้หรือไม่ 2.กรณีทั้ง 8 พรรคร่วม สลายขั้วเพื่อเปิดโอกาสให้พรรคเพื่อไทยเป็นอิสระในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคใดก็ได้ ซึ่งจะมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล โดยเสนอชื่อนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร หรือนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี แต่อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขนี้ต้องเป็นไปตามความตกลงของพรรคร่วมอีกที


อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาภาคเอกชนไทยมีความเข้มแข็งและพร้อมให้การสนับสนุนและทำงานร่วมกับรัฐบาลใหม่อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด และมองว่าหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จภายใต้ระบบของประชาธิปไตยก็จะได้คนที่มีประสบการณ์เข้ามาขับเคลื่อนงานด้านเศรษฐกิจ ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีคณะทำงานในด้านนี้อยู่แล้ว และเคยได้พิสูจน์ให้เห็นในครั้งที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ยังคงต้องรอดูพัฒนาการต่อไปจนกว่าจะถึงวันโหวตว่าทิศทางจะเป็นอย่างไร ซึ่งการที่รัฐสภาชี้แจ้งว่าการเสนอชื่อโหวตนายกรัฐมนตรีสามารถทำได้เพียงครั้งเดียวนั้น ชี้ให้เห็นว่าการเลือกนายกรัฐมนตรีจะทำได้ในวงจำกัดเพียงไม่กี่รอบ หากในวันที่ 27 ก.ค.นี้ ไม่ผ่านครั้งต่อไปน่าจะเป็นต้นเดือนสิงหาคม ดังนั้น การคัดสรรชื่อต้องเป็นที่ยอมรับในทางรัฐสภา ซึ่งโอกาสในการได้รัฐบาลใหม่ในเดือนสิงหาคม หรือช้าสุดในเดือนกันยายน ก็จะสามารถเกิดขึ้นได้และเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจประเทศ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]