กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ส่งสัญญาณถึงผู้บริโภคเตรียมตัวจ่ายแพงขึ้น เหตุอาหารสัตว์มีแนวโน้มขยับราคาอีก เหตุวัตถุดิบมีแนวโน้มแพงขึ้นจากทั้งภัยแล้งและปัญหาทะเลดำ วอนว่าที่รัฐบาลเตรียมยกเลิกคุมนำเข้าข้าวสาลี ลดภาษีกากถั่วเหลือง
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย กล่าวว่า แนวโน้มราคาอาหารสัตว์จะขยับขึ้นอีก แต่ประเมินไม่ได้ว่าจะขึ้นอีกเท่าใด และจะมีผลกระทบทั้งห่วงโซ่อุปทาน ทั้งกลุ่มเลี้ยงสัตว์ และผู้บริโภค โดยปัจจัยที่ราคาจะขยับขึ้นมาจากทั้งปัญหาภัยแล้ง เอลนีโญที่จะลากยาวถึงปีหน้า และล่าสุดรัสเซียยกเลิกการค้ำประกันความปลอดภัยด้านการเดินเรือในทะเลดำ หลังการสิ้นสุดการบังคับใช้ข้อตกลงส่งออกธัญพืชจากยูเครนผ่านเส้นทางทะเลดำ ในวันจันทร์ (17 ก.ค.) ทำให้เกิดการขนถ่ายสินค้าจากยูเครน ซึ่งเป็นผู้ผลิตธัญพืชหลักของโลก ไม่ได้ มีความเสี่ยงสูง เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคทั่วโลก
ปี 2565 ผู้ประกอบการอาหารสัตว์ได้รับผลกระทบหลักจนเกิดข้อตกลงที่สหประชาชาติและตุรกีมาเป็นตัวกลางช่วยเจรจากับรัสเซีย ส่งผลให้ราคาธัญพืชจากที่ถีบตัวสูงมากขยับลดลงบ้าง ครั้งนี้ก็เกรงว่าจะเกิดปัญหาอีก โดยปีที่แล้วกลุ่มอาหารสัตว์ได้ใช้แนวทางปรับเปลี่ยนจากการใช้ข้าวสาลีมาเป็นข้าวโพดบางส่วน แต่ก็ได้รับผลกระทบจากข้าวโพดในประเทศไม่เพียงพอ ขาดแคลนถึง 3 ล้านตัน ต้องนำเข้าจากเพื่อนบ้าน นอกจากนี้กลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์ก็ได้รับผลกระทบจากมาตรการช่วยเหลือ 3:1 (ซื้อข้าวโพดในประเทศ 3 ส่วน นำเข้าข้าวสาลีได้ 1 ส่วน) ทั้งที่ราคาข้าวโพดสูงถึง 11-13 บาทต่อ กก. สูงกว่าราคาประกันของภาครัฐที่ 8.50 บาทต่อ กก. เมื่อเป็นเช่นนี้รัฐก็ไม่ต้องจ่ายเงินประกัน และควรพิจารณายกเลิกมาตรการ 3:1
ในส่วนของกากถั่วเหลืองที่เป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบสำคัญยังเก็บภาษีนำเข้าที่ 2% เพื่อช่วยเหลือโรงสกัดนํ้ามันถั่วเหลืองในประเทศที่ได้ประโยชน์จากการขายกากถั่วเหลืองราคาสูงให้โรงงานอาหารสัตว์ มาตรการเหล่านี้ควรยกเลิก เพราะรัฐได้ภาษีไม่กี่บาท แต่ทำให้อาหารสัตว์มีราคาแพง โดยปัจจุบันไทยผลิตถั่วเหลือง 2 หมื่นตัน และนำเข้ากากฯ และเม็ดถั่วเหลือง รวม 5 ล้านตันต่อปี
“ไข่ไก่แพงก็บ่นว่าอาหารสัตว์แพงขึ้น อยากให้รัฐเข้ามาควบคุมอาหารสัตว์ ภาครัฐก็คุมราคาอาหารสัตว์ จนผู้ประกอบการหลายรายอยู่ไม่ได้ ดังนั้น อยากเรียกร้องให้รัฐบาลใหม่มาดูทั้งระบบ และเตรียมแก้ปัญหา เพราะผลผลิตในประเทศจะลดลงจากภัยแล้ง และยิ่งทะเลดำมีปัญหาอย่างนี้ ราคาวัตถุดิบขึ้น อาหารสัตว์ก็ต้องปรับราคาแน่ๆ” นายพรศิลป์ กล่าว
ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (Egg Board) เตรียมเสนอรัฐบาลปรับลดภาษีกากถั่วเหลืองเหลือง 0% เช่นกัน เพื่อบรรเทาผลกระทบของต้นทุนอาหารสัตว์แพงจนทำให้ไข่ไก่ขยับราคานิวไฮมาโดยตลอด
สำหรับข้าวโพดเลี้ยงในปี 2564 เฉลี่ยที่ 10.05 บาทต่อ กก. ปี 2565 เฉลี่ยที่ 12.34 บาทต่อ กก. ข้าวสาลี ปี 2564 เฉลี่ย 8.94 บาทต่อ กก. และปี 2565 เฉลี่ย 14.17 บาทต่อ กก. -สำนักข่าวไทย