ลุ้น กบน.แถลงพรุ่งนี้ ขึ้นราคาดีเซล 21 ก.ค.หรือไม่ หลังหมดเวลาลดภาษี 5บาท

กรุงเทพฯ 17 ก.ค.- กบน.แถลงพรุ่งนี้ ขึ้นราคาดีเซล 21 ก.ค.หรือไม่ หลังหมดเวลาลดภาษี 5บาท/ลิตร เอกชนคาดหากขึ้นจะเป็นรูปแบบทยอยขึ้นราคา นักวิเคราห์คาดกระทบยอดขายดีเซลระยะสั้น ส่วนภาพรวมตลาดหุ้นลุ้น”เพื่อไทย”เป็นนายกฯ หุ้นอาจดีดขึ้น 50-100 จุด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันพรุ่งนี้(18 ก.ค.) สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.)แจ้งแถลงข่าวการพิจารณาของ คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน. ) จะตัดสินใจบริหารกองทุนฯอย่างไร หลังจากที่รัฐบาลไม่ต่ออายุการลดภาษีสรรพาสิตดีเซล 5 บาท/ลิตร สิ้นสุด 20 ก.ค.นี้ ท่ามกลางกองทุนน้ำมันยังติดลบ โดยฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 9 ก.ค.2566 ยังติดลบ 52,270 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน ติดลบ 6,598 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 45,672 ล้านบาท

ส่วนโครงสร้างราคาน้ำมันดีเซลที่ราคาปัจจุบันที่ประมาณ 32 บาท/ลิตร มีการเก็บเงินกองทุน น้ำมันฯ 3.82บาทต่อลิตร ดังนั้น หากรัฐกลับมาเก็บภาษี 5 บาท ในวันที่ 21 ก.ค. โดยหาก กบน.ใช้แนวทางไม่ขึ้นราคาดีเซลด้วย การลดการจัดเก็บเงินกองทุนทั้งหมด 3.82 บาท ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับการตรึงราคาดีเซล 32 บาท/ลิตร อาจต้องขยับราคาดีเซลขึ้นบ้าง ก็ต้องรอดูว่า กบน.จะตัดสินใจอย่างไร จากที่ก่อนหน้านี้ สกนช.ระบุจะบริหารจัดการโดยไม่ขึ้นราคาดีเซล ในขณะเดียวกันหากจำเป็นต้องขึ้น ที่ผ่านมา กบน.ก็จะใช้แนวทางขึ้น-ลง ครั้งละ 50 สตางค์ /ลิตร เพื่อไม่ให้กระทบผู้บริโภคมากเกินไป


“การดูแลราคาน้ำมันดีเซล มีหลายแนวทาง เบื้องต้นนอกเหนือจากการพิจารณาเพื่องดเรียบเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ แล้ว จะต้องดูราคาน้ำมันในตลาดโลกด้วย เพราะตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา ราคาค่อนข้างผันผวน และยังมีทิศทางขาขึ้น รวมทั้งต้องรอดูธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ ซึ่ง กบน.ได้พิจารณาแนวทางอย่างรอบคอบ โดยยืนยันว่าจะยังคงรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดีเซลไว้ ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 32 บาทต่อลิตร”แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานระบุ

แหล่งข่าวระบุด้วยว่าการปรับลดค่าการตลาดน้ำมันดีเซล จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.60 บาทต่อลิตร หรือการปรับลดสัดส่วนผสม B100 ลงนั้น จะยังไม่ใช่แนวทางที่นำมาพิจารณา เพราะช่วยให้ราคาดีเซลลดลงไม่กี่สตางค์เท่านั้น นอกจากนี้หากรัฐต้องการพยุงราคาดีเซลไว้เท่าเดิม ท่ามกลางสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกขาขึ้น ก็อาจพิจารณาแนวทางการกู้เงินเพิ่มเติมด้วย จากปัจจุบันกู้แล้ว 5.5 หมื่นล้านบาท

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนได้เสนอแนะภาครัฐว่าควรดูแลราคาพลังงานอย่างต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นจะกระทบทั้งค่าครองชีพประชาชน และภาวะการแข่งขันของประเทศ โดยราคาดีเซลหากจะขึ้นจาก 32บาทก็ไม่ควรจะเกิน 35 บาทต่อลิตร


นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธาน สภาอุตสาหกรรมฯ.กล่าวว่า ในส่วนของค่าไฟฟ้า คณะกรรมกร่วมภาคเอกชน หรือกกร.กำลังส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีหลังประธาน 3 องค์กรได้ลงนามเรียบร้อยแล้วเพื่อที่จะเสนอแนวทางการปรับลดค่าFt งวดก.ย.-ธ.ค.66 โดยเสนอเพิ่มเติม2แนวทางคือให้ขยายระยะเวลาคืนหนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)จาก5งวดเป็น 6 งวดเพื่อลดFtได้อีก 10 สตางค์ต่อหน่วย และขอให้มีการบูรณาการในการจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลวหรือLNGโดยมอบหมายให้ผู้นำเข้าหลักเพียงรายเดียวเพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสม ซึ่งเมื่อรวมกับปัจจัยต่างๆในการคำนวณที่ลดลงจะทำให้ค่าไฟเฉลี่ยงวดนี้จะอยู่ที่ราว 4.25 บาทต่อหน่วย

นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) เปิดเผยว่า PTG เตรียมเข้าหารือกับภาครัฐเพื่อหารือปัญหาค่าการตลาดต่ำกว่าระดับกรอบเป้าหมายของคณะกรรมการบริการนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่ 2 บาท/ลิตร ว่าจะมีแนวทางอย่างไรที่จะทำให้ซัพพลายเชนของธุรกิจนี้ได้รับความยุติธรรมเท่าเทียมกันเพื่อให้เดินไปด้วยกันได้ทั้งระบบ ซึ่งค่าการตลาดที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 1.80-2.00 บาท ส่วนมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซล 5 บาท/ลิตร คาดว่า กบน.จะเข้ามาดูแล ซึ่งหากจำเป็นต้องขึ้นราคาบ้าง ก็เชื่อว่าจะทยอยขยับขึ้นเพื่อให้ผู้บนิโภคกระทบน้อยที่สุด

นายสุวัฒน์ สินสาฎก รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจหลักทรัพย์ลูกค้าสถาบัน บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน ) กล่าวว่า การขึ้นภาษีดีเซล หาก กบน.ตัดสินใจด้วยการลดเงินกองทุนน้ำมันฯเพียงเล็กน้อย และให้ราคาดีเซลขยับขึ้นมาในสัดส่วนสูง ระยะสั้นก็จะกระทบต่อราคาดีเซลบ้าง และกระทบมายังยอดขายน้ำมัน รวมไปถึงผู้ค้าบ้างเล็กน้อย แต่ภาพรวมแล้ว คาดว่าจากยอดขายกลุ่มเบนซินที่ยังเติบโตได้ดี และการปรับตัวของ บจ.ผู้ค้าน้ำมันที่เน้นสร้างรายได้จากธุรกิจอื่นไม่ใช่น้ำมัน (NON-OIL )ที่จะเห็นได้ว่าเติบโตเป็นอย่างดี ส่วนกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน ไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องภาษีดีเซล เพราะจะเห็นได้ว่ายอดขายโดยรวมดีขึ้น รวมไปถึงน้ำมันเครื่องบินขยับดีขึ้น และในช่วงปลายปีก็คาดว่ามาร์จิ้นโรงกลั่นจะขยับดีขึ้น

“ราคาหุ้นกลุ่มโรงกลั่นฯ –น้ำมัน หรือภาพดัชนี SET ของไทยที่ลดลงมาก ต้องยอมรับว่า การเมืองเป็นปัจจัยหลัก นักลงทุนทั้งต่างชาติและไทยก็ไม่กล้าลงทุน ซึ่งในขณะนี้ หากพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี หรือกรณีสลับขั้ว พรรคเพื่อไทยก็จะเป็นรัฐบาลอยู่ดี ก็เป็นที่คาดว่า ดัชนี SET จะขึ้นอีก 50-100 จุด นักลงทุนนั้น ไม่ชอบความไม่แน่นอนทางการเมือง หุ้นไทยจึงตกต่ำลง โดยหากไปดูดัชนีหุ้นสหรัฐก็จะเห็นได้ว่า ไปได้ดี แม้ FED จะขึ้นดอกเบี้ยก็ตาม” นายสุวัฒน์กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย

Cambodia and Thailand hold a closed-door meeting ahead of the official meeting of JBC in Phnom Penh

ไทย-กัมพูชา หารือกลุ่มเล็กก่อนประชุม JBC

พนมเปญ 14 มิ.ย. – สื่อกัมพูชารายงานว่า กัมพูชาและไทย ได้เปิดการหารือกลุ่มเล็กฝ่ายละ 5 คน ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี (JBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า ในการหารือกลุ่มเล็กที่มีผู้ร่วมเข้าเพียง 10 คน ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายเจีย ฬำ  รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการชายแดน ส่วนฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศด้านกิจการชายแดน ซึ่งเป็นนักการทูตผู้เชี่ยวชาญช่วงข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร พร้อมกับเผยแพร่ภาพชุดการหารือดังกล่าว.-814.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! โจรชิงทองที่ลำพูน หนีกบดานพัทยา

พัทยา 14 มิ.ย.- หนีไม่รอด! รวบโจรบุกเดี่ยวชิงทอง จ.ลำพูน หนีกบดานพัทยา สารภาพติดการพนันออนไลน์ จากกรณีเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568 เกิดเหตุคนร้ายรูปร่างสูงประมาณ 160-165 ซม. ทราบชื่อต่อมาคือ นายประกร อายุ 47 ปี ขี่รถจักรยานยนต์สีดำ บุกเดี่ยวเข้าไปชิงทองคำรูปพรรณ จากห้างทองฯ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ได้สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 5 บาท ไปจำนวน 2 เส้น มูลค่ากว่า 500,000 บาท แล้วหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ล่าสุดตำรวจ สภ.จว.ชลบุรี ได้เบาะแสว่า นายประกร ที่มีหมายจับศาลจังหวัดลำพูน ในข้อหากระทำความผิดฐาน “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” หลังก่อเหตุได้หนีมากบดานในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จึงนำกำลังออกติดตาม กระทั่งพบตัวนายประกร อยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านพัทยากลาง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าจับกุม เจ้าตัวให้การยอมรับ เป็นผู้ก่อเหตุวิ่งราวทองจากห้างทองในพื้นที่จังหวัดลำพูนจริง หลังก่อเหตุได้หนีมายังพื้นที่เมืองพัทยาและนำทองไปขายในห้างทองแห่งหนึ่ง ตอนแรก คิดว่าจะเดินทางเข้ามาตัว แต่ก็สายไปเนื่องจากมาโดนเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้เสียก่อน ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุลงไปนั้นเนื่องจากตนเองติดการพนันออนไลน์ จนเงินหมด […]

“ทวีวัฒน์” เจ้าของเงิน 12 ล้าน ลาออกจากกรรมการไต่สวนฯ ป.ป.ช.แล้ว

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – ป.ป.ช. แจง “ทวีวัฒน์” เจ้าของเงิน 12 ล้านบาท ลาออกจากกรรมการไต่สวนฯ ของ ป.ป.ช. แล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 68 วันนี้ (14 มิ.ย.) นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวนายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว แสดงตนเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านบาท ที่ถูกทิ้งที่คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี เป็นอนุกรรมการชุดต่างๆ ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จำนวน 3 คณะนั้น สำนักงาน ป.ป.ช. ขอชี้แจงว่า นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว ได้ทำหนังสือขอลาออกจากการเป็นกรรมการไต่สวน ในคณะกรรมการไต่สวนของสำนักงาน ป.ป.ช.ทุกคณะแล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ทั้งนี้ สำนักงาน […]