ลุ้น กบน.แถลงพรุ่งนี้ ขึ้นราคาดีเซล 21 ก.ค.หรือไม่ หลังหมดเวลาลดภาษี 5บาท

กรุงเทพฯ 17 ก.ค.- กบน.แถลงพรุ่งนี้ ขึ้นราคาดีเซล 21 ก.ค.หรือไม่ หลังหมดเวลาลดภาษี 5บาท/ลิตร เอกชนคาดหากขึ้นจะเป็นรูปแบบทยอยขึ้นราคา นักวิเคราห์คาดกระทบยอดขายดีเซลระยะสั้น ส่วนภาพรวมตลาดหุ้นลุ้น”เพื่อไทย”เป็นนายกฯ หุ้นอาจดีดขึ้น 50-100 จุด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันพรุ่งนี้(18 ก.ค.) สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.)แจ้งแถลงข่าวการพิจารณาของ คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน. ) จะตัดสินใจบริหารกองทุนฯอย่างไร หลังจากที่รัฐบาลไม่ต่ออายุการลดภาษีสรรพาสิตดีเซล 5 บาท/ลิตร สิ้นสุด 20 ก.ค.นี้ ท่ามกลางกองทุนน้ำมันยังติดลบ โดยฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 9 ก.ค.2566 ยังติดลบ 52,270 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน ติดลบ 6,598 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 45,672 ล้านบาท

ส่วนโครงสร้างราคาน้ำมันดีเซลที่ราคาปัจจุบันที่ประมาณ 32 บาท/ลิตร มีการเก็บเงินกองทุน น้ำมันฯ 3.82บาทต่อลิตร ดังนั้น หากรัฐกลับมาเก็บภาษี 5 บาท ในวันที่ 21 ก.ค. โดยหาก กบน.ใช้แนวทางไม่ขึ้นราคาดีเซลด้วย การลดการจัดเก็บเงินกองทุนทั้งหมด 3.82 บาท ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับการตรึงราคาดีเซล 32 บาท/ลิตร อาจต้องขยับราคาดีเซลขึ้นบ้าง ก็ต้องรอดูว่า กบน.จะตัดสินใจอย่างไร จากที่ก่อนหน้านี้ สกนช.ระบุจะบริหารจัดการโดยไม่ขึ้นราคาดีเซล ในขณะเดียวกันหากจำเป็นต้องขึ้น ที่ผ่านมา กบน.ก็จะใช้แนวทางขึ้น-ลง ครั้งละ 50 สตางค์ /ลิตร เพื่อไม่ให้กระทบผู้บริโภคมากเกินไป


“การดูแลราคาน้ำมันดีเซล มีหลายแนวทาง เบื้องต้นนอกเหนือจากการพิจารณาเพื่องดเรียบเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ แล้ว จะต้องดูราคาน้ำมันในตลาดโลกด้วย เพราะตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา ราคาค่อนข้างผันผวน และยังมีทิศทางขาขึ้น รวมทั้งต้องรอดูธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ ซึ่ง กบน.ได้พิจารณาแนวทางอย่างรอบคอบ โดยยืนยันว่าจะยังคงรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดีเซลไว้ ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 32 บาทต่อลิตร”แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานระบุ

แหล่งข่าวระบุด้วยว่าการปรับลดค่าการตลาดน้ำมันดีเซล จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.60 บาทต่อลิตร หรือการปรับลดสัดส่วนผสม B100 ลงนั้น จะยังไม่ใช่แนวทางที่นำมาพิจารณา เพราะช่วยให้ราคาดีเซลลดลงไม่กี่สตางค์เท่านั้น นอกจากนี้หากรัฐต้องการพยุงราคาดีเซลไว้เท่าเดิม ท่ามกลางสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกขาขึ้น ก็อาจพิจารณาแนวทางการกู้เงินเพิ่มเติมด้วย จากปัจจุบันกู้แล้ว 5.5 หมื่นล้านบาท

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนได้เสนอแนะภาครัฐว่าควรดูแลราคาพลังงานอย่างต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นจะกระทบทั้งค่าครองชีพประชาชน และภาวะการแข่งขันของประเทศ โดยราคาดีเซลหากจะขึ้นจาก 32บาทก็ไม่ควรจะเกิน 35 บาทต่อลิตร


นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธาน สภาอุตสาหกรรมฯ.กล่าวว่า ในส่วนของค่าไฟฟ้า คณะกรรมกร่วมภาคเอกชน หรือกกร.กำลังส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีหลังประธาน 3 องค์กรได้ลงนามเรียบร้อยแล้วเพื่อที่จะเสนอแนวทางการปรับลดค่าFt งวดก.ย.-ธ.ค.66 โดยเสนอเพิ่มเติม2แนวทางคือให้ขยายระยะเวลาคืนหนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)จาก5งวดเป็น 6 งวดเพื่อลดFtได้อีก 10 สตางค์ต่อหน่วย และขอให้มีการบูรณาการในการจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลวหรือLNGโดยมอบหมายให้ผู้นำเข้าหลักเพียงรายเดียวเพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสม ซึ่งเมื่อรวมกับปัจจัยต่างๆในการคำนวณที่ลดลงจะทำให้ค่าไฟเฉลี่ยงวดนี้จะอยู่ที่ราว 4.25 บาทต่อหน่วย

นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) เปิดเผยว่า PTG เตรียมเข้าหารือกับภาครัฐเพื่อหารือปัญหาค่าการตลาดต่ำกว่าระดับกรอบเป้าหมายของคณะกรรมการบริการนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่ 2 บาท/ลิตร ว่าจะมีแนวทางอย่างไรที่จะทำให้ซัพพลายเชนของธุรกิจนี้ได้รับความยุติธรรมเท่าเทียมกันเพื่อให้เดินไปด้วยกันได้ทั้งระบบ ซึ่งค่าการตลาดที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 1.80-2.00 บาท ส่วนมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซล 5 บาท/ลิตร คาดว่า กบน.จะเข้ามาดูแล ซึ่งหากจำเป็นต้องขึ้นราคาบ้าง ก็เชื่อว่าจะทยอยขยับขึ้นเพื่อให้ผู้บนิโภคกระทบน้อยที่สุด

นายสุวัฒน์ สินสาฎก รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจหลักทรัพย์ลูกค้าสถาบัน บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน ) กล่าวว่า การขึ้นภาษีดีเซล หาก กบน.ตัดสินใจด้วยการลดเงินกองทุนน้ำมันฯเพียงเล็กน้อย และให้ราคาดีเซลขยับขึ้นมาในสัดส่วนสูง ระยะสั้นก็จะกระทบต่อราคาดีเซลบ้าง และกระทบมายังยอดขายน้ำมัน รวมไปถึงผู้ค้าบ้างเล็กน้อย แต่ภาพรวมแล้ว คาดว่าจากยอดขายกลุ่มเบนซินที่ยังเติบโตได้ดี และการปรับตัวของ บจ.ผู้ค้าน้ำมันที่เน้นสร้างรายได้จากธุรกิจอื่นไม่ใช่น้ำมัน (NON-OIL )ที่จะเห็นได้ว่าเติบโตเป็นอย่างดี ส่วนกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน ไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องภาษีดีเซล เพราะจะเห็นได้ว่ายอดขายโดยรวมดีขึ้น รวมไปถึงน้ำมันเครื่องบินขยับดีขึ้น และในช่วงปลายปีก็คาดว่ามาร์จิ้นโรงกลั่นจะขยับดีขึ้น

“ราคาหุ้นกลุ่มโรงกลั่นฯ –น้ำมัน หรือภาพดัชนี SET ของไทยที่ลดลงมาก ต้องยอมรับว่า การเมืองเป็นปัจจัยหลัก นักลงทุนทั้งต่างชาติและไทยก็ไม่กล้าลงทุน ซึ่งในขณะนี้ หากพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี หรือกรณีสลับขั้ว พรรคเพื่อไทยก็จะเป็นรัฐบาลอยู่ดี ก็เป็นที่คาดว่า ดัชนี SET จะขึ้นอีก 50-100 จุด นักลงทุนนั้น ไม่ชอบความไม่แน่นอนทางการเมือง หุ้นไทยจึงตกต่ำลง โดยหากไปดูดัชนีหุ้นสหรัฐก็จะเห็นได้ว่า ไปได้ดี แม้ FED จะขึ้นดอกเบี้ยก็ตาม” นายสุวัฒน์กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

มท.2 รับกังวล จ.น่าน ที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม.

ก.มหาดไทย 23 ก.ค.-มหาดไทย ถกวอรูมติดตามสถานการณ์ “พายุวิภา” ห่วงพื้นที่เหนือ-อีสาน พื้นที่ราบเชิงเขา เสี่ยงน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ด้าน มท.2 กำชับพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม-ความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เผยเตรียมลงพื้นที่เชียงราย-น่าน รับกังวลน่านที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม. สั่ง ปภ.-กรมชลฯ เร่งสูบน้ำ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยแห่งชาติหรือ บกปภ.ช. ประชุมตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์พายุ “วิภา” โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟัง และมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ ได้ติดตามภาพรวมสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งจังหวัดแถบภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ให้หลายจังหวัดจากอิทธิพลพายุวิภาในที่ประชุม กล่าวว่า ได้มีการรายงานสถานการณ์เป็นรายพื้นที่ ประกอบด้วยพื้นที่ติดภูเขา ที่ราบเชิงเขา โดยให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และการตรวจสอบสภาพดินที่ได้รับการสะสมของปริมาณฝนที่ตกลงมา ซึ่งมีลักษณะอุ้มน้ำ และความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลาก […]

ฝนถล่มน่าน น้ำเริ่มท่วมหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นรวดเร็ว

น่าน 23 ก.ค.-อิทธิพลจากพายุวิภา ทำให้ฝนถล่มน่านอย่างหนัก ปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตร น้ำเริ่มท่วมในหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จ.น่าน ขณะนี้ฝนตกหนักต่อเนื่องมาเกือบ 20 ชั่วโมงแล้ว และหลายพื้นที่โดยเฉพาะทางตอนเหนือวัดปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรเกือบ 20 สถานี ส่งผลให้ระดับน้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 30 เซนติเมตร แม้ว่าระดับน้ำน่านยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่มาก แต่ฝนที่ตกหนักติดต่อกันมาทั้งคืน โดยเฉพาะทางตอนเหนือของเมืองทั้งที่ปัว บ่อเกลือ เฉลิมพระเกียรติ ท่าวังผา และอีกหลายอำเภอ ซึ่งจากข้อมูลปริมาณน้ำฝนจากสถานีวัดของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก ในจังหวัดน่าน เมื่อเช้านี้พบปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรถึง 18 สถานี สูงสุดอยู่ที่สถานีต้นน้ำน้ำกอนฝั่งซ้าย ตำบลพญาแก้ว อำเภอเชียงกลาง สูงถึง 291 มิลลิเมตร นั่นทำให้บางพื้นที่ลุ่มต่ำเริ่มมีน้ำเข้าท่วมพื้นที่แล้ว อย่างที่อำเภอท่าวังผา เริ่มมีน้ำทะลักเข้ามาแล้ว รวมทั้งระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่สถานีวัดระดับน้ำ n64 บ้านผาขวาง เหนือเมืองน่านไป 30 กิโลเมตร เพิ่มเป็น 7 เมตร […]

เตือนเฝ้าระวังดินถล่มใน 21 จังหวัด แม้ “วิภา” อ่อนกำลัง

กรุงเทพฯ 23 ก.ค.-กรมทรัพยากรธรณี แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังดินถล่มในพื้นที่ 21 จังหวัด จากผลกระทบพายุ “วิภา” แม้ขณะนี้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว แต่อิทธิพลของร่องมรสุมยังคงส่งผลให้หลายพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันตกมีฝนตกหนักต่อเนื่อง นายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า กรมฯ ยังคงเปิดศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย (War Room) เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยมีเป้าหมายเพื่อประเมินความเสี่ยง วิเคราะห์ข้อมูล และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ จากการวิเคราะห์ข้อมูลฝนสะสมควบคู่กับแบบจำลองธรณีพิบัติภัย พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มกระจายอยู่ใน 21 จังหวัด ได้แก่ -ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย อุดรธานี หนองคาย-ภาคตะวันออก: จันทบุรี ตราด-ภาคตะวันตก: กาญจนบุรี ราชบุรี-ภาคใต้ฝั่งตะวันตก: ระนอง พังงา […]