เตรียมแผนรับมือสินค้าเหล็กจากต่างประเทศเข้าไทยต่อเนื่อง

นนทบุรี 14 ก.ค.-รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดรับฟังและให้คำปรึกษาอุตสาหกรรมเหล็กไทยรับมือสินค้าเหล็กจากต่างประเทศเข้าไทยต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันก็ให้ความเป็นธรรมต่อผู้นำเข้าเหล็ก หากมีการนำเข้าตามกลไกของราคาปกติ ไม่มีการทุ่มตลาดหรืออุดหนุนด้านราคา


นายนพดล คันธมาศ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวว่า ข้อมูลสถิติจาก Worldsteel Association ได้รายงานว่า ในปี 2565 ประเทศที่มีการนำเข้าเหล็กสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ สหภาพยุโรป 48.1 ล้านตัน สหรัฐอเมริกา 28.9 ล้านตัน และ เยอรมัน 21 ล้านตัน สำหรับประเทศไทยมีการนำเข้าเหล็กในปริมาณ 13.4 ล้านตัน เป็นอันดับที่ 8 ของโลกสำหรับสถานการณ์การนำเข้าเหล็กของไทยในช่วงเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2566 ตามข้อมูลของ Global Trade atlas พบว่าไทย มีปริมาณการนำเข้า 4.41 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 15.33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย 3 ประเทศหลักที่มีสัดส่วนการนำเข้าสูงสุด ได้แก่ (1) จีน (42.76%) (2) ญี่ปุ่น (37.31%) และ (3) เกาหลีใต้ (12.15%) จากการนำเข้ารวมทั้งหมด 

สำหรับประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าเหล็กรายใหญ่ของโลก ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 จีนมีการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ รวมทั้งสิ้น 29.7 ล้านตัน โดย 5 ประเทศแรกที่จีนมีการส่งออกมากที่สุด ได้แก่ (1) เกาหลีใต้ 3 ล้านตัน (10.10%)  (2) เวียดนาม 2.7 ล้านตัน (9.26%)  (3) ตุรกี 2.2 ล้านตัน (7.35%) (4) ไทย 1.8 ล้านตัน(6.28%) และ (5) สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ 1.3 ล้านตัน (4.54%) ของการส่งออกรวมทั้งหมด


ทั้งนี้ กรมฯสนับสนุนการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศที่ดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบหรือข้อตกลงทางการค้าเพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคให้ได้ของมีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม ดังนั้น พร้อมอำนวยความสะดวกทางการค้าและปกป้องและรักษาผลประโยชน์ทางการค้า จะกำกับและดูแลให้มีการแข่งขันทางการค้าอย่างเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย หากผู้ประกอบการมีข้อกังวล หรือได้รับผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเกิดจากการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ โดยอาจเป็นการทุ่มตลาดหรือมีการหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด สามารถขอคำปรึกษาเกี่ยวกับข้อกำหนดในการยื่นคำขอให้ กรมฯเปิดไต่สวนมาตรการ AD หรือ AC เพิ่มเติมได้ 

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการไต่สวนเพื่อกำหนดใช้มาตรการ AD หรือ AC เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนตามที่พ.ร.บ. การตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฯ กำหนดซึ่งเป็นกระบวนการที่โปร่งใส รับฟังข้อมูลข้อคิดเห็นจากทุกฝ่าย และข้อมูลที่นำมาใช้พิจารณามีการตรวจสอบความถูกต้องอย่างละเอียดรอบคอบ 

สำหรับขั้นตอนการเปิดไต่สวนนั้น เมื่อกรมฯได้ตรวจสอบข้อมูลคำขอของผู้ยื่นคำขอแล้วพบว่าครบถ้วนถูกต้องจะนำเสนอข้อมูลดังกล่าวต่อคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาด (ทตอ.) เพื่อพิจารณาเปิดไต่สวน ดังนั้น จึงขอให้ภาคเอกชนและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายให้ความเชื่อมั่นในการกระบวนการไต่สวนและการดำเนินการของกรมฯว่าดำเนินการอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส เพื่อรักษาผลประโยชน์ประเทศเป็นสำคัญ.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย