ตระกูลเจียรวนนท์ ยังคงครองแชมป์เศรษฐีไทยปี 66

กรุงเทพฯ 6 ก.ค.-Forbes Thailand เปิดเผย 50 อันดับมหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2566 ตระกูลเจียรวนนท์ ยังคงครองอันดับที่ 1 มูลค่าทรัพย์สิน 1.18 ล้านล้านบาท

Forbes Thailand เปิดเผย 50 อันดับมหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2566 ระบุว่า เศรษฐกิจประเทศไทยฟื้นตัวจากการกลับมาของนักท่องเที่ยว ธนาคารแห่งประเทศไทยประมาณการเติบโตปีนี้อยู่ที่ 3.6% ผลการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา เป็นเรื่องน่าประหลาดใจยิ่งนักเมื่อพรรคก้าวไกลซึ่งเป็นที่นิยมให้หมู่คนรุ่นใหม่คว้าชัยชนะไปอย่างงดงาม


ในช่วงเวลาอันกดดัน ยังคงไม่ชัดเจนว่าหัวหน้าพรรคก้าวไกลที่นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งจบจากมหาวิทยาลัยดังอย่าง Harvard University จะสามารถกำชัยชนะในครั้งนี้เพื่อก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ ท่ามกลางความไม่แน่นอนนี้เอง ความมั่งคั่งรวมของ 50 มหาเศรษฐีไทยก็เพิ่มขึ้นเกือบ 15% เป็น 1.73 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ

โดยรวมแล้วมีมหาเศรษฐีไทย 21 คนที่ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา มหาเศรษฐี 2 รายที่มีเปอร์เซ็นต์ความร่ำรวยเพิ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากการกลับมาของนักชอปต่างชาติ คนแรกคือ นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา และครอบครัว โดยครอบครัวดำเนินกิจการกลุ่มบริษัทสินค้าปลอดภาษี King Power International ความมั่งคั่งของนายอัยยวัฒน์และครอบครัวเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวมาอยู่ที่ 3.5 พันล้านดอลลาร์ทวงคืนตำแหน่งในสิบอันดับแรกนั่นคืออันดับ 8


ส่วนอีกคนที่รับทรัพย์ไปมหาศาลคือ น.ส.ศุภลักษณ์ อัมพุช ผู้ปกครองอาณาจักรค้าปลีกของครอบครัวอย่าง The Mall Group ซึ่งเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าชั้นนำมากมายรวมถึง Siam Paragon และ EmQuartier โดยมีความมั่งคั่ง 2 พันล้านเหรียญ เพิ่มจากเดิมถึงสองเท่า

การนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้สร้างผลประโยชน์ให้สองมหาเศรษฐีบนทำเนียบหนึ่งคือ นายวานิช ไชยวรรณ ผู้มากด้วยประสบการณ์ในวงการประกัน บมจ. ไทยประกันชีวิต (TLI) เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในปีที่ผ่านมาโดยเป็นการ IPO ครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศประจำปี 2565 สร้างความมั่งคั่งของเขาเพิ่มขึ้น 30% อยู่ที่ 3.9 พันล้านดอลลาร์

ด้านนายชัยวัฒน์ แต้ไพสิฐพงษ์ ที่ถึงแก่กรรมเมื่อ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา หวนคืนสู่ทำเนียบหลังห่างหายไปสองปีอานิสงส์จากการที่กลุ่มบริษัทอาหาร Betagro ของเขา IPO ไปในเดือน ต.ค.ปีที่ผ่านมาเช่นกัน


ขณะที่ผู้ที่หลุดจากรายชื่อสิบอันดับแรกหนีไม่พ้น นักธุรกิจสี นายประจักษ์ ตั้งคารวคุณ และครอบครัว ที่มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิตกลงมากที่สุดเกือบร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับผู้ติดอันดับในทำเนียบ อันเนื่องมาจากการถือหุ้นของบมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK)

สำหรับ 10 อันดับมหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2566 ได้แก่
อันดับ 1 พี่น้องตระกูลเจียรวนนท์ (อันดับคงที่) เจ้าของบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 1.18 ล้านล้านบาท
อันดับ 2 นายเฉลิม อยู่วิทยา (อันดับคงที่) และครอบครัว เจ้าของเครือกระทิงแดง มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3.34 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 1.16 ล้านล้านบาท
อันดับ 3 นายเจริญ สิริวัฒนภักดี (อันดับคงที่) เจ้าของบริษัทในเครือทีทีซี มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.36 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 4.73 แสนล้านบาท
อันดับ 4 ครอบครัวจิราธิวัฒน์ (ขยับขึ้นจากอันดับ 5) มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.24 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 4.32 แสนล้านบาท
อันดับ 5 นายสารัชถ์ รัตนาวะดี (ขยับลงจากอันดับ 4) ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งของ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.13 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 3.94 แสนล้านบาท
อันดับ 6 นายวานิช ไชยวรรณ (ขึ้นจากอันดับ 8) ประธานกิตติคุณ บมจ.ไทยประกันชีวิต มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3.9 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 1.36 แสนล้านบาท
อันดับ 7 นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ (อันดับคงที่) เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพและสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3.8 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 1.32 แสนล้านบาท
อันดับ 8 นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และครอบครัว มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3.5 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 1.21 แสนล้านบาท
อันดับ 9 นายสมโภชน์ อาหุนัย (ขยับลงจากอันดับ 6) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) และครอบครัว มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 1.04 แสนล้านบาท
อันดับ 10 ครอบครัวโอสถานุเคราะห์ (อันดับคงที่) เจ้าของบริษัทในเครือโอสถสภา มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2.5 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 8.70 หมื่นล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]