กองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมเกษตรกรและผู้ยากจน

26 มิ.ย. – “เป็นกองทุนหมุนเวียนที่เป็นความหวัง และแหล่งพึ่งพิงสำคัญของเกษตรกรและผู้ยากจนที่มีโอกาสสูญเสียที่ดินทำกินหรือที่อยู่อาศัย และมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ”


สภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน หนึ่งในสาเหตุที่ที่ดินจะหลุดจากมือเกษตรกรไปเป็นของคนอื่น นอกจากการจำหน่ายก็คือ การถูกยึดจากเจ้าหนี้ ไม่ว่าจะเป็นหนี้นอกระบบ หรือหนี้สถาบันการเงิน ที่เกษตรกรนำที่ดินไปจำนอง หรือขายฝาก หรือให้เจ้าหนี้ยึดไว้เป็นประกัน ตามสัญญากู้ยืม เพื่อนำเงินไปลงทุนประกอบอาชีพ รวมถึงใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แต่ไม่สามารถนำเงินไปชำระหนี้ได้ตามกำหนด จึงมักจะสูญเสียกรรมสิทธิ์ในที่ดินของตนเองไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานในสังคมไทย

ดังนั้น หากจะบอกว่า กองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมเกษตรกรและผู้ยากจน (อบก.) เป็นกองทุนหมุนเวียนที่เป็นความหวังและแหล่งพึ่งพิงสำคัญของเกษตรกรและผู้ยากจนที่มีโอกาสสูญเสียที่ดินทำกินหรือที่อยู่อาศัย ก็คงจะไม่ใช่การกล่าวที่เกินจริง เพราะกว่า 32 ปีที่ผ่านมา กองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมเกษตรกรและผู้ยากจน ได้อนุมัติเบิกจ่ายเงินกู้ให้แก่เกษตรกรและผู้ยากจนทั่วประเทศ รวมเป็นเงินกว่า 8.8 ล้านล้านบาท มีจำนวนที่ดินที่ช่วยเหลือไม่ให้ถูกเจ้าหนี้ยึดรวมกว่า 316,456 ไร่


ทำความรู้จักกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมเกษตรกรและผู้ยากจน (อบก.)
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน พ.ศ.2546 ให้จัดตั้งกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจนขึ้น ในสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยรวมเงินทุนหมุนเวียนช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน กองทุนหมุนเวียนเพื่อปลดเปลื้องหนี้สินเดิมของเกษตรกรที่ยากจน และกองทุนหมุนเวียนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจนด้านหนี้สินและที่ดินเข้าไว้ด้วยกัน

โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 2 ข้อ คือ
1.ให้กู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน ในกรณีดังต่อไปนี้
1.1 เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรมีที่ดินทำกินของตนเองและปรับปรุงคุณภาพที่ดิน ทั้งนี้ต้องเป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่คณะกรรมการเห็นว่ามีความจำเป็นเร่งด่วน
1.2 เพื่อเป็นทุนในการประกอบอาชีพของผู้กู้ยืมให้มีรายได้สูงขึ้น
1.3 เพื่อไถ่ หรือ ไถ่ถอนที่ดินคืนจากการขายฝาก หรือจำนอง เมื่อมีพฤติการณ์ว่าสิทธิหรือกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นจะหลุดเป็นของเจ้าหนี้หรือบุคคลอื่นในที่สุด
1.4 เพื่อชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงิน ซึ่งผู้กู้ยืมได้นำที่ดินหรือหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินให้เจ้าหนี้ยึดถือไว้เป็นประกันก่อนหรือขณะทำสัญญากู้ยืมเงิน เมื่อมีพฤติการณ์ว่าสิทธิหรือกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นจะหลุดเป็นของเจ้าหนี้หรือบุคคลอื่นในที่สุด
1.5 เพื่อซื้อคืนที่ดินที่ได้สูญเสียสิทธิหรือกรรมสิทธิ์ไปเนื่องจากการขายฝาก จำนองหรือการกู้ยืมเงิน
1.6 เพื่อซื้อที่ดินตามสิทธิแห่งกฎหมายว่าด้วยการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

2.ให้ความช่วยเหลือเป็นค่าใช้จ่ายแก่เกษตรกรและผู้ยากจนกรณีข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์หรือสิทธิ์การเช่าที่ดิน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในการดำเนินคดี


โดยกลุ่มเป้าหมายของกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน (อบก.) คือ เกษตรกร และผู้ยากจน ซึ่งตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน พ.ศ. 2528 คำว่า “เกษตรกร” หมายถึง ผู้ประกอบอาชีพ ทำนา ทำสวนทำไร่ ทำนาเกลือ เลี้ยงสัตว์หรืออาชีพเกษตรกรรมอื่นตามที่คณะกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจนกำหนด (อชก.) ส่วนคำว่า “ผู้ยากจน” หมายถึง ผู้ที่ไม่มีทรัพย์สินเพียงพอและอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ หรือเป็นผู้มีรายได้สุทธิไม่เกินปีละ 87,000 บาท และเป็นผู้ที่ไม่มีที่ดินสำหรับทำกิน หรือ อยู่อาศัย หรือ มีแต่ไม่เพียงพอ หรือ เป็นผู้ไม่มีทรัพย์สินอื่นใดเพียงพอแก่การชำระหนี้

ในการดำเนินงานให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจนเกี่ยวกับหนี้สินและที่ดินทำกิน มีการดำเนินงานในรูปของคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน (อบก.) ส่วนกลาง กองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมเกษตรกรและผู้ยากจน (อบก.)ส่วนจังหวัด และกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมเกษตรกรและผู้ยากจน (อบก.) ส่วนอำเภอ ซึ่งมีอำนาจอนุมัติคำขอกู้เงินกองทุนในวงเงิน ดังนี้
1.กองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมเกษตรกรและผู้ยากจน (อบก.) ส่วนกลาง มีอำนาจอนุมัติคำขอกู้เงินกองทุนในวงเงิน ไม่เกิน 2,500,000 บาท สำหรับผู้มีภูมิลำเนาในกรุงเทพมหานคร ทุกวงเงิน
2.กองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมเกษตรกรและผู้ยากจน (อบก.) ส่วนจังหวัด มีอำนาจ อนุมัติคำขอกู้เงินกองทุนในวงเงิน ตั้งแต่ 300,000 – 2,500,000 บาท
3.กองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมเกษตรกรและผู้ยากจน (อบก.) ส่วนอำเภอ มีอำนาจอนุมัติคำขอกู้เงินกองทุนในวงเงิน ไม่เกิน 300,000 บาท

ส่วนการให้ความช่วยเหลือแบ่งออกเป็น 3 กรณี ได้แก่
กรณีที่ 1 การขอกู้ยืมเงิน เพื่อปลดเปลื้องหนี้สิน หรือ ซื้อที่ดินคืน
กรณีที่ 2 การขอกู้ยืมเงิน เพื่อซื้อที่นาเช่า
กรณีที่ 3 การขอกู้ยืมเงินเพื่อการประกอบอาชีพ

ผลงานที่สำคัญของกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน (อบก.)
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2534 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2566 กองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน (อบก.) ได้อนุมัติเบิกจ่ายเงินกู้กองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจนทั่วประเทศ รวมทั้งหมด 36,097 ราย รวมเป็นจำนวนเงินกว่า 8,826 ล้านล้านบาท และเป็นจำนวนที่ดิน 316,456 ไร่ 2 งาน 29.9 ตารางวา
โดยจำแนกตามรายภาคได้ดังภาพ

ขณะที่ยอดเงินกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน คงเหลือ ณ วันที่ 30 เมษายน 2566 อยู่ที่กว่า 189 ล้านล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา พบว่าลูกหนี้กองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน (อบก.) บางส่วนมีปัญหาในการชำระหนี้ ทางกองทุนฯ ก็ได้ช่วยเหลือด้วยการอนุมัติให้ประนอมหนี้ รวมถึงการปรับโครงสร้างหนี้ ตามความเหมาะสม

ทั้งนี้ก็เพื่อสงวนรักษาที่ดินเพื่อการทำกิน หรือเพื่อการอยู่อาศัยไว้ให้แก่เกษตรกรและผู้ยากจน โดยมิให้ตกไปเป็นของบุคคลอื่น และฟื้นฟูเสริมสร้างความเข้มแข็งในอาชีพ รวมถึงการสนับสนุนให้เกษตรกรมีที่ดินทำกินของตนเองและปรับปรุงคุณภาพที่ดินที่เป็นปัญหาเฉพาะหน้า

ซึ่งหากใครกำลังประสบปัญหา และต้องการความช่วยเหลือในลักษณะดังกล่าว สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิฯ และสำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน หรือติดต่อส่วนกลางที่สำนักงานกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน สำนักบริหารกองทุนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและรับเรื่องร้องเรียน สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-280-7750 หรือ 02-280-7753 .

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ศาลตัดสินพิรงรอง

“พิรงรอง” รับกังวลใจ วันนี้ศาลตัดสิน คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช.

“พิรงรอง” ถึงศาล รับกังวลใจ คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช. ปมส่งใบเตือนทีวีดิจิทัลมีโฆษณาแทรก ยืนยันทำหน้าที่อย่างถูกต้อง

ผู้สมัคร นายก อบจ.สมุทรปราการ หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง ร้อง ปธ.สภา

ผู้สมัคร นายก อบจ. สมุทรปราการ พรรคประชาชน หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง อบจ.ร้องประธานสภา จี้ กกต.สอบให้ความเป็นธรรม ลั่นจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

บุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน

ตำรวจนครบาลบุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน สร้างเพจปลอมเป็นหน่วยงานตำรวจ และ ปปง. หลอกเหยื่อว่าสามารถติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกคืนได้ ค้นบ้านพบซิมบ็อกซ์โทรศัพท์ และ QR Code ปลอม จำนวนมาก

ข่าวแนะนำ

เข้าสู่คืนที่ 2 ตัดไฟฟ้าชายแดนเมียนมา ทำลายวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เข้าสู่คืนที่ 2 สำหรับการตัดกระแสไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก ไปเมืองเมียวดีของเมียนมา เพื่อตัดวงจรกลุ่มจีนเทา พบมีการใช้ไฟฟ้าน้อยลง

คนร้ายลอบวางระเบิดรถกระเช้าภายในเทศบาลตำบลรือเสาะ

คนร้ายลอบวางระเบิดรถกระเช้าจอดในอาคารจอดรถ เทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส หลังเสร็จพิธีต้อนรับนายกเทศมนตรีคนใหม่ ทำให้ไฟไหม้รถเสียหายหลายคัน

ปล้นร้านสะดวกซื้อ

รวบ 6 เยาวชน ก่อเหตุปล้นร้านสะดวกซื้อปัตตานี

รวบแล้ว 6 โจร ปล้นร้านสะดวกซื้อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินกว่า 4,000 บาท พบผู้ก่อเหตุทั้งหมด เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14-16 ปี