ก.ล.ต.-ตลท.ผนึก 9 องค์กร แจงกรณีหุ้น STARK

กรุงเทพฯ 26 มิ.ย.-ก.ล.ต.–ตลท.ผนึก 9 องค์กร ชี้แจงความคืบหน้ากรณีหุ้น STARK พร้อมแนวทางยกระดับธรรมาภิบาล สร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุน


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พร้อมด้วยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) และ 9 องค์กรในตลาดทุน ร่วมแถลงความคืบหน้าการดำเนินการด้านต่าง ๆ ในกรณีของบริษัท สตาร์คคอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) พร้อมทั้งเปิดเผยแนวทางการดำเนินการเพื่อยกระดับธรรมาภิบาลและการสร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุน

นายธวัชชัย พิทยโสภณ รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่ากรณีนี้ ก.ล.ต. ได้มีการดำเนินการอย่างเต็มที่ภายใต้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น สั่งให้บริษัทเปิดเผยข้อมูล ขยายขอบเขตการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special audit) เพิ่มเติม และการแจ้งเตือนผู้ลงทุน พร้อมทั้งร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งขณะนี้การตรวจสอบมีความคืบหน้าไปมาก สำหรับด้านการคุ้มครองสิทธิของผู้ลงทุน ก.ล.ต. ยินดีช่วยเหลือประสานงานอย่างเต็มที่ โดยที่ผ่านมาก็ได้มีการหารือร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สมาคมบริษัทจัดการลงทุน และสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยด้วยแล้ว และนอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังกำหนดแนวทางในการยกระดับการกำกับดูแลการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนและเสริมสร้างบทบาทหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยได้ดำเนินการภายใต้โครงการ “บริษัทจดทะเบียนเข้มแข็ง” ซึ่งริเริ่มขึ้นเมื่อปลายปี 2565 และคาดว่าจะเสนอต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้ในช่วงเดือน ก.ค.2566 เป็นต้นไป


นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจในการดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ลงทุนมีข้อมูลที่ครบถ้วน เพียงพอ และทันเวลา ทั้งในด้านการติดตามให้บริษัทจดทะเบียนเปิดเผยข้อมูลสำคัญ หรือการเตือนผู้ลงทุนด้วยการออกข่าวเตือน และ/หรือการขึ้นเครื่องหมายต่างๆ สำหรับที่จะดำเนินการต่อไป คือ ปรับกระบวนการทำงานและปรับปรุงกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ทั้งด้านบริษัทจดทะเบียน และการซื้อขาย โดยมีหลายเรื่องที่คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีมติเห็นชอบไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงเกณฑ์และยกระดับการกำกับดูแลตลอดทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การรับหลักทรัพย์ การดำรงสถานะ จนถึงการเพิกถอนรวมถึงจะยกระดับการกำกับดูแลการซื้อขาย เช่น มาตรการป้องปราม ตลอดจนผสานความร่วมมือเชิงรุกกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อลดโอกาสการเกิดกรณีเช่นนี้อีก

นายกุลเวช เจนวัฒนวิทย์ กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย กล่าวว่า สมาคมทำหน้าที่ให้ความรู้ สร้างความตระหนัก ในบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบแก่กรรมการบริษัทอย่างต่อเนื่อง สมาคมเชื่อมั่นว่ากรรมการบริษัทที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างที่ควรมีอยู่มากมาย กรณีของ STARK จะเป็นกรณีศึกษา เพื่อกรรมการและฝ่ายจัดการจะได้ไปสำรวจความรัดกุม และความเพียงพอของการกำกับดูแลกิจการ และการควบคุมภายในของบริษัทต่อไป

นายสุพจน์ สิงห์เสน่ห์ เลขาธิการ สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า สภาวิชาชีพบัญชีพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำรงไว้ซึ่งความเชื่อมั่นในวิชาชีพบัญชีและตลาดทุนไทย


นายไพศาล ธรสารสมบัติ กรรมการ สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย กล่าวว่า สมาคมฯ เห็นว่ากฎเกณฑ์ที่กำกับบริษัทจดทะเบียนมีความเหมาะสมแล้ว ซึ่งบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ได้ปฏิบัติตามอยู่แล้ว สำหรับในส่วนของบริษัทจดทะเบียน การดูแลรายงานทางการเงิน โดยเฉพาะการกำกับดูและเรื่องรายการระหว่างกันที่มีขนาดที่มีนัยสำคัญ จะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างผู้บริหารของบริษัท และผู้ตรวจสอบภายใน ผู้สอบบัญชี รวมถึงคณะกรรมการตรวจสอบและคณะกรรมการบริษัท ในกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คณะกรรมการบริษัท และคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทจดทะเบียนควรต้องพิจารณาทำงานร่วมมือกับฝ่ายบริหารใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ สมาคมฯ มีความยินดีที่จะให้ความร่วมกับหน่วยงานอื่นในตลาดทุนต่อไป

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน กล่าวว่าเหตุการณ์แก้ไขงบที่เกิดขึ้นกับหุ้นSTARK นั้นได้สะท้อนให้เห็นถึงความยากลำบากของ นักวิเคราะห์และนักลงทุนในฐานะเป็นผู้ใช้ข้อมูล ซึ่งแม้ว่านักวิเคราะห์จะมีความรอบคอบ และมีระบบการวิเคราะห์ที่รัดกุมเพียงใด ก็ไม่สามารถยืนยันถึงความถูกต้องของข้อมูล เนื่องจากอยู่ในสถานะที่เป็นเพียงผู้ใช้ข้อมูล จึงไม่เคยมีโอกาสที่จะได้เข้าถึงหลักฐานยืนยันรายการทางบัญชี แนวทางที่องค์กรต่าง ๆจะร่วมกันคิดเพื่อป้องกันปัญหาแบบนี้ไม่ให้เกิดขึ้นได้ง่าย คือต้องหาวิธีที่จะสามารถตรวจทานหลักฐานยืนยันรายการทางบัญชีให้มั่นใจได้มากขึ้น รวมถึงการมีหลักเกณฑ์ให้บริษัทจดทะเบียนมีหน้าที่ ต้องมา Opportunity Day หรือการจัดประชุมนักวิเคราะห์อย่างทั่วถึง ปีละ 2-4 ครั้ง เพื่อให้นักวิเคราะห์และนักลงทุนสามารถซักถามสอบถามได้โดยตรงเพื่อประเมินความสมเหตุผลของข้อมูลและวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร ในส่วนของสมาคมนักวิเคราะห์ฯ เองก็จะเพิ่มเติมการพัฒนาทักษะความสามารถของนักวิเคราะห์ ในด้านการคัดกรองข้อมูลและประเมินความสมเหตุผลตลอดจนทักษะในการตรวจจับจุดอันตรายในงบการเงิน เป็นต้น

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ ประธานกรรมการ ชมรมวาณิชธนกิจ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดในการกลั่นกรองคุณภาพของบริษัทที่จะออกและเสนอขายหลักทรัพย์ (IPO) เพื่อให้มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างเพียงพอต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุน กรรมการและผู้บริหารมีคุณสมบัติที่เหมาะสม มีระบบการควบคุมภายในที่ดี เป็นต้น ซึ่งรวมถึงการให้ความเห็นเกี่ยวกับการทำรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์และรายการที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทจดทะเบียน อย่างไรก็ตาม มีบางบริษัทจดทะเบียนที่อาจจะมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ชมรมฯ จึงพร้อมร่วมหารือและสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปรับปรุงเกณฑ์และมาตรการเพื่อคุ้มครองผู้ลงทุนอย่างเหมาะสมโดยยังรักษาสมดุลของการกำหนดเกณฑ์และไม่เป็นภาระกับบริษัทจดทะเบียนมากจนเกินไป ทั้งนี้ ชมรมฯ ยินดีให้การสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาปรับปรุงเกณฑ์backdoor listing ให้มีความเข้มข้นมากขึ้นเทียบเท่ากับเกณฑ์ IPO ต่อไป

นายศักดิ์ดา พงศ์เจริญยง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด กล่าวว่า ทริสเรทติ้งจะปรับปรุงขั้นตอนในการคัดกรองผู้ออกตราสารใหม่ให้เข้มงวดมากขึ้น โดยจะเพิ่มความระมัดระวังสำหรับผู้ออกตราสารที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดย backdoor listing ผู้ออกตราสารที่ไม่มีประวัติในการสร้างธุรกิจด้วยตัวเองหรือเน้นสร้างการเติบโตจากการซื้อกิจการอื่น รวมถึงจะหลีกเลี่ยงการจัดอันดับความน่าเชื่อถือให้กับผู้ออกตราสารที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่ หรือผู้บริหารที่มีประวัติหรือชื่อเสียงในทางลบทางด้านธรรมาภิบาล นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งจะเพิ่มการฝึกอบรมนักวิเคราะห์ ในส่วนเทคนิคการสังเกตลักษณะของงบการเงินที่น่าสงสัยว่ามีการตกแต่งงบการเงินเพื่อนำไปสู่การวิเคราะห์ความผิดปกติของงบการเงินและสถานะทางการเงินที่แท้จริงของผู้ออกตราสาร

นางชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคม สมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า “อุตสาหกรรมจัดการลงทุนให้ความสำคัญกับการทำหน้าที่อย่างมีความรับผิดชอบของผู้จัดการกองทุน ในการดูแลปกป้องผลประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหน่วยลงทุน โดย บลจ. ที่มีการลงทุนใน STARK มีความเห็นตรงกันในแนวทางการทำ class action และในฐานะนายกสมาคมฯ มองว่านี่เป็นเรื่องใหญ่ที่กระทบความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนไทย ไม่เฉพาะเพียงอุตสาหกรรม จึงเป็นเรื่องที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงาน ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์ฯ ผู้สอบบัญชี ที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทจัดอันดับเครดิต นักวิเคราะห์ ฯลฯ จะต้องร่วมกันพิจารณาหาแนวทางป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนไทย

ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย กล่าวว่า ThaiBMA ในฐานะของ Bond Information Center ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยประสานงานกับผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้และสำนักงาน ก.ล.ต. ในการให้ข้อมูลและประชาสัมพันธ์อย่างรวดเร็วกับผู้ลงทุนผ่านทางช่องทางออนไลน์ของสมาคมฯ นอกจากนี้เรายังได้ให้ความเข้าใจเกี่ยวกับ เหตุแห่งการผิดนัดชำระหนี้ สิทธิของผู้ลงทุน หน้าที่และขั้นตอนการดำเนินงานของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ทั้งที่เป็นการตอบข้อสงสัยที่มีเข้ามา รวมถึงการสื่อสารกับสื่อมวลชนอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ข้อมูลกับผู้ลงทุนในอีกช่องทางหนึ่ง ThaiBMA เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรในตลาดทุนที่มุ่งมั่นที่จะร่วมกันรักษาและยกระดับความเชื่อมั่นในตลาดทุนในการให้ข้อมูลและความรู้ด้านตราสารหนี้ที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงทุน

นางสิริพร จังตระกุล เลขาธิการ สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย กล่าวว่า เพื่อเป็นการช่วยในการรวมกลุ่มผู้เสียหาย จากการลงทุนในหุ้นสามัญ STARK สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย จึงเปิดระบบลงทะเบียนให้ผู้ลงทุนเข้ามาลงทะเบียน โดยคำนึงถึง พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 อย่างเคร่งครัด และจะพิจารณาช่วยดำเนินการ รวมถึงอำนวยความสะดวกในขั้นตอนต่อไป กรณีที่มีการร้องขอให้มีการฟ้องคดีแบบกลุ่ม หรือ Class Action สำหรับการลงทะเบียนที่สิ้นสุดไปเมื่อ 25 มิ.ย.2566 เวลา 24.00 น. พบว่ามีผู้ลงทะเบียน  1,759 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 4,063 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

“อ.เฉลิมชัย” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ

9 มิ.ย. – “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ ให้เหตุผลเป็นความตั้งใจว่าครบ 70 ปี จะลาออกทุกตำแหน่ง เพื่อเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังพร้อมช่วยกระทรวงและวงการศิลปะ จากกรณี อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประกาศระหว่างบรรยายในงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 สู่ Thailand Biennale, Phuket 2025 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 พฤษาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระ เนื้อหาในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งเขียนด้วยลายมือของ อ.เฉลิมชัย ถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ลงวันที่ 30 พฤษภาคม มีใจความสำคัญว่า “เหตุผลของการลาออก เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว จึงได้ประกาศหยุดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะปรารถนาที่จะพักผ่อน ท่องเที่ยว หาความสุขในบั้นปลายของชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกส่วนตัวว่า เมื่อศิลปินแห่งชาติได้หยุดสร้างสรรค์ผลงานแล้วก็ไม่ควรที่จะมีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้อีกต่อไป ข้าพเจ้าจึงขอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมโปรดพิจารณาตัดชื่อข้าพเจ้าออกจากทำเนียบศิลปินแห่งชาติด้วย” ภายหลัง อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติว่า […]

“อนุทิน” สั่งเร่งตรวจสอบหลุมหลบภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 9 มิ.ย. – “อนุทิน” สั่งการผู้ว่าฯ 7 จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อตรวจติดตามความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา และได้รับทราบข้อมูลต่างๆในพื้นที่ ล่าสุด ได้มีข้อสั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด เร่งดำเนินการตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ทั้งหมด โดยสำรวจว่ามีหลุมหลบภัยที่สามารถใช้งานได้ในสภาพดีจำนวนกี่แห่ง จำนวนหลุมหลบภัยที่ชำรุดและต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมกี่แห่ง รวมทั้งสำรวจความต้องการในการก่อสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่เพิ่มเติม พร้อมระบุสถานที่และประมาณการงบประมาณที่ต้องการขอรับการสนับสนุน รายงานมายังกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป .319.-สำนักข่าวไทย

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

The Ministry of National Defence claims Cambodia has not withdrawn troops from its sovereign territory

กห.กัมพูชายืนยันไม่ได้ถอนทหารจากดินแดนอธิปไตย

พนมเปญ 9 มิ.ย. – กระทรวงกลาโหมแห่งชาติ เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่ได้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชายึดครองมายาวนาน เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาวันนี้ มีเนื้อหาดังนี้ “ตามแถลงข่าวจากกระทรวงกลาโหมแห่งชาติในวันนี้ กระทรวงฯ ขอชี้แจงต่อสาธารณชนและสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ดังต่อไปนี้: 1.ไม่มีการถอนกำลังทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชาได้ประจำการมาเป็นเวลานาน 2.การดำเนินการทั้งหมดของกองทัพกัมพูชาประกอบด้วยการประจำการ การจัดวางกำลัง การปรับเปลี่ยน และการเคลื่อนย้าย อยู่ภายในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาและมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา 3.กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางออกอย่างสันติสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการรุกรานทุกรูปแบบ 4.กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะสนับสนุนกลไกการเจรจาเขตแดนกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการเขตแดนร่วมหรือเจบีซี (JBC) เพื่อดำเนินการวัดแนวเขตแดนและจัดทำเส้นเขตแดนในส่วนที่เหลือระหว่างสองประเทศ รวมถึงจุดที่กัมพูชาจะยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไอซีเจ (ICJ) กระทรวงกลาโหมแห่งชาติขอให้เพื่อนร่วมชาติและสื่อมวลชนใช้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น โดยเฉพาะแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลกัมพูชาและกระทรวงกลาโหมแห่งชาติ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แท้จริง และเชื่อถือได้” .-814.-สำนักข่าวไทย