กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – สำนักงาน กกพ. เผยข่าวดี ค่าไฟงวดใหม่ ก.ย.-ธ.ค.66 ลดลงอย่างน้อย 20 สตางค์ ด้านเอกชนชี้ต่ำไป ควรลด 50 สตางค์ เหตุแอลเอ็นจีลดลง ส่วนแอลพีจีจะตรึงราคาต่อหรือไม่ ลุ้นสัปดาห์หน้า
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยข่าวดี ค่าไฟฟ้างวดใหม่ที่คำนวณจากต้นทุนค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.66 เบื้องต้นมีแนวโน้มลดลงไม่ต่ำกว่า 20 สตางค์/หน่วย ส่วนจะมากกว่านี้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่จะพิจารณาเหตุผลต่างๆ ควบคู่ในเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งราคานี้มาจากต้นทุนราคาเชื้อเพลิงที่มาจากก๊าซธรรมชาติ โดยเฉพาะแอลเอ็นจีที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และได้มีการผนวกรวมการใช้หนี้คืนแก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ราว 2 หมื่นล้านบาท/งวด จากที่ กฟผ.รับภาระต้นทุนค่าไฟฟ้าให้แก่ระบบ เพื่อชะลอการกระชากขึ้นของค่าไฟฟ้าในงวดที่ผ่านๆ มารวมกว่า 1.3 แสนล้านบาทไปแล้ว
ข้อมูลประมาณการคำนวณค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.66 ที่ได้รับจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ราคาแอลเอ็นจีตลาดจร (LNG Spot) เฉลี่ยอยู่ที่ 13.295 ดอลลาร์ฯ/ล้านบีทียู และราคา POOL GAS ที่เป็นราคาคำนวณรวมระหว่างก๊าซอ่าวไทย เมียนมา และแอลเอ็นจี จะอยู่ที่ราว 343 บาท/ล้านบีทียู ในขณะที่ปริมาณก๊าซในอ่าวไทย โดยเฉพาะแหล่งเอราวัณ (จี1/61) ปริมาณเพิ่มขึ้น โดยคาดเดือน ก.ค.66 จะมีกำลังผลิตที่ 400 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน จากปัจจุบันที่ระดับ 200 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน และช่วงสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 588 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน นอกจากนี้ ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของประเทศมีหน่วยเพิ่มขึ้นตามธุรกิจการท่องเที่ยว และต้องพิจารณาถึงเงินบาท โดยการอ่อนค่าลงอยู่ที่ประมาณ 34.79 บาท/ดอลลาร์ฯ ก็มีผลทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าพุ่งขึ้น
ส่วนการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในค่าไฟฟ้างวดใหม่ที่จะมีส่วนลดสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300-500 หน่วย/เดือน อีกหรือไม่นั้น เรื่องนี้ไม่ใช่อำนาจของ กกพ. เป็นอำนาจของ ครม. ที่หากพิจารณาว่ามีความจำเป็นและเป็นรอยต่อรัฐบาล ก็สามารถเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาต่อไป
นายคมกฤช กล่าวว่า สิ่งที่ยังเป็นห่วง คือ ค่าไฟฟ้างวดเดือน ม.ค.-เม.ย.67 ที่แนวโน้มราคานำเข้าแอลเอ็นจีจะเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มสภาพอากาศของยุโรป ก็อาจจะส่งผลทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้างวดถัดไปกลับขึ้นมาอีก ในขณะที่ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยปี 67 จะต่ำกว่า 4 บาท/หน่วย หรือไม่นั้น เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับราคาแอลเอ็นจีด้วยว่าจะลดลงหรือไม่ เพราะปริมาณก๊าซในอ่าวไทยและเมียนมาลดลง ไทยต้องพึ่งพาแอลเอ็นจีมากขึ้น
ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลหาเสียงไว้ว่า อยากเห็นค่าไฟฟ้าลดลงไม่ต่ำกว่า 70 สตางค์/หน่วยนั้น นายคมกฤช มองว่า หากจะดำเนินการก็ต้องปรับโครงสร้างราคาก๊าซฯ ทั้งระบบ นำเรื่องแอลเอ็นจีมาอยู่ใน POOL GAS ทั้งหมด เพราะในอนาคตไทยต้องพึ่งพาก๊าซส่วนนี้มากขึ้น
นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า จากการดูต้นทุนก๊าซและการใช้หนี้ กฟผ.แล้ว ค่าไฟฟ้าน่าจะลดลงได้ไม่ต่ำกว่า 50 สต./หน่วย จากที่ค่าไฟขณะนี้เฉลี่ย 4.70 บาท/หน่วย เพราะแอลเอ็นจีลดลงจากกว่า 20 ดอลลาร์ฯ/ล้านบีทียู เหลือราว 11 ดอลลาร์ฯ/ล้านบียู ดังนั้น หากจะลดแค่ 20 สตางค์ จะดูน่าเกลียด ส่วนการลดค่าไฟตามแนวคิดพรรคก้าวไกลนั้น ทางพรรคมีแนวคิดจะออกพันธบัตรรัฐบาลมาเสริมสภาพคล่องให้ กฟผ. และปรับลดค่าไฟฟ้า AP ซึ่งส่วนตัวแล้วก็สนับสนุน เพื่อทำให้ต้นทุนต่ำลง
ด้านรายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน แจ้งว่า คณะกรรมการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จะพิจารณาสัปดาห์หน้าว่าจะต่ออายุการตรึงราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ที่ 423 บาท/ถัง จากที่ตรึงราคาถึงสิ้นเดือน มิ.ย.66-สำนักข่าวไทย
