เปิดภาพอนาคตดิจิทัล “สุขภาวะและท่องเที่ยวไทย” 10 ปีข้างหน้า

กรุงเทพ 22 มิ.ย.-ETDA จัดใหญ่ ETDA Foresight Symposium 2023 เปิดภาพอนาคตดิจิทัล “สุขภาวะและท่องเที่ยวไทย ”10 ปีข้างหน้า“ ดิจิทัลทำลายสมดุลชีวิตเพิ่มขึ้น-ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพทางกายและใจกลับมาแรง


สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) โดย ศูนย์คาดการณ์อนาคต (Foresight Center by ETDA) หรือ ETDA Foresight กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จัดใหญ่ “ETDA Foresight Symposium 2023 : Light Up the Future of Well-Being and Tourism” ชวนพาร์ทเนอร์ทั้งไทยและต่างประเทศร่วมกำหนดภาพอนาคตที่พึงปรารถนา พร้อมเผยผลการศึกษาฉากทัศน์อนาคตอีก 10 ปีข้างหน้า พบ ดิจิทัลจะกลายเป็นเครื่องมือทำลายสมดุลชีวิต คนเกิดความเครียด วิตกกังวลทวีความรุนแรงมากขึ้น ขณะที่การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพทั้งทางกายภาพและจิตใจ กลับเป็นกระแสมาแรงที่น่าจับตา

ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและประธานคณะกรรมการกำกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ บอร์ด ETDA กล่าวในฐานะประธานเปิดงานว่า จากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัลที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ยากเกินจะคาดเดา ทำให้การเตรียมพร้อมรองรับการเปลี่ยน ทั้งในมุมการกำหนดยุทธศาสตร์ นโยบาย ตลอดจนแผนการดำเนินงาน ในรูปแบบเดิมๆ อาจไม่เพียงพอและไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จึงให้ความสำคัญกับจัดทำฉากทัศน์ภาพอนาคต หรือที่เรียกว่า Foresight ที่จะเข้ามาเป็นกลไกช่วยให้ประเทศได้เห็นทิศทางการเปลี่ยนแปลงล่วงหน้าก่อนที่อนาคตจะมาถึง ทำให้การเดินหน้ายุทธศาสตร์และนโยบายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลมีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ภายใต้บริบทที่ทุกภาคส่วนสามารถร่วมออกแบบและร่วมกำหนดภาพอนาคตที่พึงปรารถนาไปพร้อมๆ กัน สำหรับประเด็นเรื่อง “สุขภาวะความเป็นอยู่ (Well-Being)” และ “การท่องเที่ยว (Tourism)” ที่ ETDA Foresight นำมาศึกษาเพื่อให้ได้ภาพฉากทัศน์อนาคตที่จะเกิดขึ้นในอีก 10 ปีข้างหน้าชัดเจนขึ้น ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่จะเข้ามาเร่งเครื่องทั้งในมุมของการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันและเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเฉพาะ “การท่องเที่ยว” ที่ถือเป็นอุตสาหกรรมที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศเป็นอันต้นๆ วันนี้กลับกำลังเผชิญกับความท้าทายของการเติบโตของเทคโนโลยีดิจิทัล ที่เข้ามาพลิกโฉมวิถีและพฤติกรรมการท่องเที่ยว จนนำมาสู่สภาวะการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรง ขณะที่ “ความเป็นอยู่ของคนไทย” ก็เป็นอีกประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะสังคมดิจิทัลได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนไปอย่างสิ้นเชิง ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ ที่ไม่เพียงทำให้ชีวิตสะดวกสบาย เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้รวดเร็วมากขึ้น แต่ยังเกิดความรู้สึกโดดเดี่ยวทางสังคม วิตกกังวล ซึมเศร้า และความเครียดตามมาด้วย


“ดังนั้น การติดตามและประเมินสัญญาณการเปลี่ยนแปลงผ่านกระบวนการของ Foresight จึงถือเป็นการกำหนดทิศทางอนาคตร่วมกันกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ให้พร้อมรองรับอนาคตในทศวรรษหน้า บนพื้นฐานของข้อมูลที่ผ่านกระบวนการวิเคราะห์อย่างรอบด้าน” 

นายชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA กล่าวว่า โดย ETDA เรามุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มั่นคงปลอดภัย เกิดความเชื่อมั่นการใช้งาน โดยปีนี้ เราค่อนข้างให้ความสำคัญกับการเร่งเครื่องและส่งเสริมในกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นตัวแปรสำคัญในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม และวันนี้แม้ท่องเที่ยวไทยจะก้าวผ่านสถานการณ์วิกฤตต่างๆ มาแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถกลับไปยังจุดเดิมที่เคยอยู่ได้ จะทำอย่างไรให้การส่งเสริมผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs กลุ่มนี้ เป็นไปอย่างเหมาะสม พร้อมๆ กับสร้างความเป็นอยู่ที่ดีและมีคุณภาพในชีวิตดิจิทัลของไทย ที่ไม่เพียงแค่ประเด็นเรื่องของความเชื่อถือและความปลอดภัยในการใช้งานเท่านั้น แต่ ETDA ยังมุ่งส่งเสริมทักษะดิจิทัลที่มีคุณภาพให้คนไทยทุกกลุ่มเกิดการใช้งานดิจิทัลท่องโลกออนไลน์ได้อย่างมี Productive เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าวันนี้คนไทยใกล้ชิดกับเทคโนโลยีดิจิทัลใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์มากกว่าชีวิตจริง และสมาร์ทโฟนได้กลายมาเป็นปัจจัยที่ 5 ประกอบกับ 2 เรื่องดังกล่าวเป็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงที่มาแรงมากๆ ในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้น ETDA Foresight ที่ทำหน้าที่ในการจับสัญญาณและคาดการณ์อนาคตมาเกือบ 2 ปี เราจึงร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่เกี่ยวข้องเดินหน้าศึกษา วิเคราะห์ จัดทำภาพฉากทัศน์อนาคตผ่านกระบวนการของ Foresight ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลและนำมาสู่การจัดงานในครั้งนี้

“ETDA FORESIGHT SYMPOSIUM 2023 จะเป็นสะพานเชื่อมการทำงาน ภาครัฐ เอกชนและประชาชนทั่วไป  ในการร่วมกำหนดฉากทัศน์อนาคตร่วมกัน สู่การเร่งเครื่องให้ประเทศสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและเกิดความตระหนักในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล สู่การสร้างความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมผ่านทางออนไลน์ได้อย่างเหมาะสม ก้าวทันและก้าวนำอนาคตได้อย่างยั่งยืนยิ่งขึ้น”


ดร.ตฤณ ทวิธารานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ETDA กล่าวว่า จากการศึกษาและวิเคราะห์อย่างเข้มข้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาของ ETDA Foresight  ในที่สุดวันนี้ เราก็ได้ภาพฉากทัศน์อนาคตของ “สุขภาวะความเป็นอยู่” และ “การท่องเที่ยว” ที่จะเกิดขึ้นในอีก 10 ปีข้าง ที่น่าสนใจ เช่น สุขภาวะความเป็นอยู่ (Well-Being) – ดิจิทัลจะกลายเป็นเครื่องมือที่ก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ทำให้คนเกิดความรู้สึกด้อยค่าตัวเอง เกิดการเปรียบเทียบกับผู้คนบนโลกออนไลน์  เส้นแบ่งระหว่างงานและชีวิตหายไป สังคมเต็มไปด้วยความเครียด โลกออนไลน์จะกลายเป็นแหล่งขุมทรัพย์ของข้อมูลจนเกิดภาวะข้อมูลท่วมท้น (Data Overwhelming) เกิดการซื้อขายและโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล การตัดสินใจและการคิดอย่างมีวิจารณญาณลดลง Digital Detox กลายเป็นวิธีปฏิบัติทั่วไป ความรู้และการรู้เท่าทันดิจิทัลจะกลายเป็นปัจจัยพื้นฐานของการดำรงชีวิต การท่องเที่ยว (Tourism) – นักท่องเที่ยวขยายตัวอย่างรวดเร็ว  การลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น เกิดการแฝงตัวเข้ามาถือครองที่ดินและที่ทำกิน ทรัพยากร สิ่งแวดล้อมถูกทำลาย เสื่อมโทรม ยากที่จะฟื้นฟู วัฒนธรรมท้องถิ่นถูกบิดเบือน กลืนหาย เกิดอาชญากรรมและการโจรกรรมเพื่อการดำรงชีพมากขึ้น เกิดกลุ่มนักเดินทางรูปแบบใหม่ที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ สนใจเกี่ยวกับชุมชนท้องถิ่น ศิลปะวัฒนธรรม ประเพณี เกิด Creative economy ไทยจะเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเก็บภาพความทรงจำ สร้างความสุขทางใจและร่างกาย เกิด Health and Wellness Tourism ผู้คนจะเลือกใช้บริการต่างๆ ที่เป็นมิตรต่อโลก เป็นต้น นอกจากนี้ ในงาน ยังได้มีการประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง ETDA และพาร์ทเนอร์ อย่าง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) ที่จะเดินหน้าดำเนินงานร่วมกันในการต่อยอดผลการศึกษาของ ETDA Foresight สู่การนำไปใช้งานจริงอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เช่น เตรียมร่วมกับ ททท.ในการเดินหน้ายกระดับการท่องเที่ยวไทย ทั้งในมุมของการส่งเสริมต่อยอดทักษะด้านดิจิทัล ร่วมพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจท่องเที่ยวไทย ขณะที่กับ NIDA เอง เราก็เตรียมมุ่งเน้นเพื่อยกระดับความเป็นอยู่และสุขภาวะที่ดีของกลุ่มของผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบาง ให้มีสุขภาวะที่ดี รู้เท่าทันการใช้เทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น ก่อนที่จะขยายผลความร่วมมือไปยังหน่วยงานอื่นๆ อาทิ ศูนย์ RISC by MQDC, Gogolook เป็นต้น ในลำดับต่อไป เพื่อสานต่อภาพอนาคตด้าน Digital Well-Being ทั้งในมุมด้านความยั่งยืนและภัยออนไลน์ต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อสังคมไทย

“แม้ว่างาน foresight จะเป็นงานที่มีความท้าทายและไม่มีทางจะทำได้หรือทำเสร็จ เพราะในวันที่เราคาดการณ์อนาคตได้ อนาคตก็เดินหนีเราไปเรื่อยๆ แถมยังมีปัจจัยที่เกิดขึ้นตลอดเวลาที่จะทำให้อนาคตเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดนิ่ง แต่สำหรับ ETDA Foresight เรามองว่า การทำ foresight จะทำสำเร็จได้คือการเอา scenario มาสร้าง guide to action ในเชิง policy เพื่อหาทางรับมือกับอนาคตไม่ว่าอะไรก็ตามจะเกิดขึ้น”

สำหรับหน่วยงาน ผู้ประกอบการ หรือประชาชนที่สนใจอยากศึกษารายละเอียดผลการศึกษาการคาดการณ์อนาคต ของ ETDA Foresight ฉบับสมบูรณ์ สามารถติดตามและดาวน์โหลดได้ที่เพจ ETDA Thailand หรือที่เว็บไซต์ https://www.etda.or.th/th/Our-Service/ForesightCenter.aspx .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]