กรุงเทพฯ 22 มิ.ย.- กสทช. วุ่น ประธาน กสทช. ยังไม่ปลด “ไตรรัตน์” จากรักษาการแทน เลขาธิการ กสทช. เผยเดินทางไปต่างประเทศ ถูกลักไก่แอบใช้อำนาจแทนไม่ถูกต้อง
พันตำรวจเอก ประเวศน์ มูลประมุข เลขานุการประจำประธาน กสทช. กล่าวว่า หลังจากมีกระแสข่าว กสทช. มีมติปลด นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งรักษาการเลขาธิการ กสทช. และตั้งกรรมการตรวจสอบวินัย แต่ยังคงให้ปฏิบัติหน้าที่ รองเลขาธิการ กสทช. โดยแต่งตั้งให้นายภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ รองเลขาธิการ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง รักษาการเลขาธิการ กสทช. นั้น
ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ประธาน กสทช. อยู่ระหว่างเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ ณ กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และในช่วงเวลาเดียวกัน นายไตรรัตน์ อยู่ระหว่างการลาไปเข้าร่วมกิจกรรมหลักสูตร วปอ. ข่าวดังกล่าวก่อให้เกิดความสับสน เกิดความแตกแยกในหมู่พนักงาน กสทช. เกิดการกระต้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชา อีกทั้งเป็นการกระทำที่ผิดขั้นตอนและฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่งโดยไม่มีอำนาจและหน้าที่ แท้จริงในการออกคำสั่งแต่งตั้งรักษาการแทน เลขาธิการ กสทช. และอำนาจในการสั่งตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย
หากปล่อยให้เกิดกระทำการโดยพลการโดยไม่คำนึงถึง กฎ กติกา มารยาท ความหลงผิด ในอำนาจหน้าที่เยี่ยงนี้ต่อไปจะยิ่งทำให้ สำนักงาน กสท. เสียหาย เกิดความขัดแย้งแบ่งฝักแบ่งฝ่ายและยากที่จะแก้ไข เยียวยาได้ในที่สุด พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการ โทรคมนาคม กำหนดให้สำนักงาน กสทช. อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของประธาน กสทช. มาตรา 60 กำหนดให้เลขาธิการ กสทช. ขึ้นตรงต่อประธาน กสทช. และมาตรา 61 กำหนดให้ประธาน กสทช. เป็นผู้มีอำนาจ แต่งตั้งและถอดถอนเลขาธิการ กสทช. โดยความเห็นชอบของ กสทช. และเป็นผู้มีอำนาจแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ตามระเบียบ กสทช. ว่าด้วยการรักษาการแทน การปฏิบัติการแทน
จึงขอประกาศให้พนักงาน สำนักงาน กสทช. ทุกคนทราบโดยทั่วกันว่า จนกระทั่งบัดนี้ประธาน กสทช. ยังไม่ได้มี คำสั่งยกเลิกหรือเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้ง “นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล” จากการเป็นรักษาการแทน เลขาธิการ กสทช. และยังไม่มี คำสั่งแต่งตั้งนายภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ รองเลขาธิการ ให้รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. แทนนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล แต่อย่างใด ดังนั้น นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่และมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับเลขาธิการ กสทช. ทุกประการจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง จึงประกาศให้ทราบทั่วกันประกาศ ณ วันที่ 21 มิถุนายน 2566.-สำนักข่าวไทย