กรมส่งเสริมสหกรณ์ ชี้แจงปัญหาสหกรณ์บริการเคหสถานร่วมใจพัฒนาตลาดเก่า จำกัด

16 มิ.ย. – ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่า “สมาชิกสหกรณ์บริการเคหสถานร่วมใจพัฒนาตลาดเก่า จำกัด ร้องว่าที่ สส.พรรคก้าวไกล ว่าเข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคงจังหวัดนนทบุรี ส่งเงินซื้อบ้านหลักแสนบาท กลับได้บ้านสภาพแคมป์คนงานแทน แต่ประธานสหกรณ์หายพร้อมเงินล้าน”


สหกรณ์ดังกล่าว จัดตั้งขึ้นจากสถาบันองค์กรพัฒนาชุมชน (พอช.) สนับสนุนให้ชาวบ้านในชุมชนร่วมใจพัฒนา (ตลาดเก่า) ที่ได้รับความเดือดร้อนปัญหาที่อยู่อาศัย จำนวน 102 ราย ก่อตั้งกลุ่มออมทรัพย์ขึ้นในปี 2558 และเมื่อเห็นว่าสมาชิกมีความพร้อมทางศักยภาพทางการเงินและมีวินัยในการออมเงิน ทาง พอช.จึงได้ออกหนังสือรับรองให้กลุ่มออมทรัพย์ฯ จัดตั้งเป็นสหกรณ์ เมื่อปี 2561 ภายหลังจัดตั้งสหกรณ์ฯ ได้ขอกู้เงินจาก พอช. ประมาณ 13 ล้านบาทเศษ และซื้อที่ดินในเขต อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จำนวน 4 ไร่ 2 งาน 71 ตารางวา แต่ พอช.ไม่ได้ปล่อยเงินกู้ให้สหกรณ์ เนื่องจากสมาชิกส่งเงินออมไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของ พอช. แต่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของสมาชิกสหกรณ์ พอช. ได้สนับสนุนงบประมาณจ่ายขาดให้สหกรณ์ 623,000 บาท เพื่อสร้างบ้านพักชั่วคราวจำนวน 35 ห้อง จนกว่าสมาชิกจะปฏิบัติได้ตามเงื่อนไขของ พอช. ทำให้สหกรณ์ไม่ได้ดำเนินธุรกิจหลักตามวัตถุประสงค์ของสหกรณ์

ภายหลังสหกรณ์สามารถปิดบัญชีได้เพียงปีเดียว และไม่สามารถปิดบัญชีได้ 4 ปีบัญชี ปัจจุบันสหกรณ์ไม่มีการจัดจ้างเจ้าหน้าที่เพื่อจัดทำบัญชี และเงินออมสมาชิกจากกลุ่มออมทรัพย์เดิมเกิดปัญหายอดเงินส่วนต่างคลาดเคลื่อนจากเอกสารที่รับมอบทำให้เกิดปัญหาในการจัดทำบัญชี


จากนั้นในที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 ได้มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นชอบให้หยุดดำเนินธุรกิจและเลิกสหกรณ์และได้มีหนังสือแจ้งให้นายทะเบียนสหกรณ์ทราบ สหกรณ์จึงเข้าแจ้งเหตุต้องเลิกตามมาตรา 70 (3) แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต่อมาวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 ได้มีประกาศนายทะเบียนสหกรณ์ เรื่อง เลิกสหกรณ์เคหสถานร่วมใจพัฒนาตลาดเก่า จำกัด และได้มีคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ และประกาศนายทะเบียนสหกรณ์แต่งตั้งและแจ้งชื่อผู้ชำระบัญชี

ในกรณีที่ผู้ร้องเรียนได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์ และสมาชิกสหกรณ์ เนื่องจากขาดความเชื่อมั่นว่าสหกรณ์ไม่สามารถสร้างบ้านให้แก่ตนเองได้ จึงขอรับเงินออมคืนจากประธานกลุ่มออมทรัพย์/ประธานสหกรณ์แล้วไม่ได้รับเงินคืน สำนักงานสหกรณ์จังหวัดนนทบุรีได้เชิญผู้ร้องมาชี้แจงเพิ่มเติมพบว่ายังมีสมาชิกบางส่วนได้ขอลาออกจากสหกรณ์แล้วไม่ได้รับเงินคืนเช่นกัน

นายทะเบียนสหกรณ์ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะผู้ตรวจการณ์สหกรณ์เป็นการเฉพาะกิจเข้าตรวจสอบกิจการและฐานะทางการเงินของสหกรณ์ ผลการตรวจสอบ พบว่า ตามงบแสดงฐานะทางการเงินของสหกรณ์ สำหรับงวด 5 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561 ไม่ปรากฎรายการเงินออมของกลุ่มออมทรัพย์แต่อย่างใด และจากการตรวจสอบทะเบียนเงินหุ้นและลูกหนี้สหกรณ์พร้อมทั้งใบเสร็จรับเงินที่สหกรณ์ออกให้แก่ผู้ร้อง ตั้งแต่ปี 62-65 ไม่ปรากฏรายการรับชำระเงินออมเข้ามายังสหกรณ์ รวมทั้งสำนักงานสหกรณ์จังหวัดนนทบุรี ไม่สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเงินออมทรัพย์ของผู้ร้องได้


นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ขอชี้แจงว่า สหกรณ์ตามโครงการบ้านมั่นคงที่ใช้ระบบสหกรณ์เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการสหกรณ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์เป็นผู้ช่วยในการแนะนำ ส่งเสริม ให้เป็นไปตามกฎหมายสหกรณ์ เมื่อสหกรณ์ไม่สามารถดำเนินการได้ตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสหกรณ์อันเกิดจากความไม่เข้าใจ ความเชื่อมั่นของสมาชิกที่มีกับสหกรณ์หรือเกิดจากการทุจริตของบุคลากรของสหกรณ์เองจึงเป็นเหตุให้สมาชิกลงมติในที่ประชุมใหญ่ของสหกรณ์เพื่อเลิกสหกรณ์ นายทะเบียนสหกรณ์จึงเห็นชอบตามมติดังกล่าว และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการชำระบัญชีซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

“อย่างไรก็ตาม ในฐานะอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ มีความห่วงใยต่อสมาชิกสหกรณ์ ซึ่งเป็นประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนต่อเหตุดังกล่าว จึงได้มอบหมายให้สหกรณ์จังหวัดนนทบุรี เร่งรัดดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนเป็นการเร่งด่วน ลำดับแรกประสานการทำงานร่วมกับ พอช. ในการปรับปรุงที่พักอาศัยชั่วคราวให้มีความปลอดภัย และได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์ เข้าไปแนะนำและช่วยเหลือรวบรวมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ เพื่อประกอบในการดำเนินคดีให้สมบูรณ์ รวมถึงติดตามการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นถึงแม้จะไม่ได้เกิดจากการดำเนินงานของสหกรณ์ที่กระทำให้สมาชิกเสียหายก็ตาม โดยร่วมกับหน่วยงานในการตามตัวผู้กระทำความผิดให้มารับผิดชอบและลงโทษตามกฎหมายต่อไป” นายวิศิษฐ์ กล่าว

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นในลักษณะดังกล่าว จึงได้สั่งการให้สหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศ เข้าดำเนินการตรวจสอบสหกรณ์ที่มีปัญหาลักษณะเดียวกันนี้ พร้อมทั้งเร่งรัดในการแก้ปัญหา การปิดบัญชีของสหกรณ์ รวมทั้งตรวจสอบทางด้านการเงินด้วย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบถ่ายรูป ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ

ทำเนียบ 3 ก.ค.- ชื่นมื่น! 14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบฯ ตั้งแต่ช่วงเช้า ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ “อรรถกร” มาถึงคนแรก ปิดท้ายด้วย “นายกฯ แพทองธาร” เตรียมประชุม ครม. นัดพิเศษในช่วงบ่าย แบ่งงานรองนายกฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐมนตรีใหม่ 14 คน ทยอยเดินทางมายังตึกสันติไมตรี เพื่อตรวจเอทีเค ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีที่เดินทางมาเป็นคนแรก คือ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหกรณ์ และ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากนั้น นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตามด้วย นายอนุชา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ-อีสานตอนบน-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]

กู้ร่างครบแล้ว เหตุไฟไหม้โรงงานทิชชู เสียชีวิต 10 ราย

สระบุรี 2 ก.ค. – เหตุไฟไหม้โรงงานกระดาษทิชชู ในนิคมเหมราช จ.สระบุรี ล่าสุดพบร่างที่ 10 ซึ่งเป็นร่างสุดท้าย ถือว่าภารกิจการค้นหาสิ้นสุดแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหายกว่า 50 ชั่วโมง ยุติลงแล้ว หลังเกิดเพลิงไหม้อาคารบริษัทผลิตกระดาษทิชชู ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิว เอช เอ ซอย 8 อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ช่วงเที่ยงวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ทีมกู้ชีพ กู้ภัยร่วมกตัญญู กู้ภัยสว่างรัตนตรัย และกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับฝ่ายปกครอง และชุดค้นหาเร่งระดมสรรพกำลัง ปูพรมค้นหาร่างผู้สูญหาย 10 คน นำโดยนายสันทัศน์ รันดาเว นายอำเภอหนองแค ลงพื้นที่เกาะติดการค้นหาผู้สูญหาย ช่วง 10.30 น. มีรายงานจากทีมค้นหามูลนิธิร่วมกตัญญู แจ้งว่า ที่ชั้นบนของอาคารเกิดเหตุ พบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง อยู่ในสภาพเหลือแต่กระดูกบริเวณชั้นที่ 2 ฝั่งตะวันตกของโรงงาน ถือเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้รายที่ […]

เร่งคลี่คลายคดีโจรฉกเงิน-ทองคำ วัดม่วง

กทม. 2 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีโจรวัดม่วง ลักเงินเจ้าอาวาส 10 ล้าน ทองคำ 250 บาท หายล่องหน ขณะที่อดีตพระคนสนิท เผยประตูกุฏิล็อกถึง 5 ชั้น เชื่อฝีมือคนใน พร้อมเรียกร้องตรวจสอบเงินบริจาควัด ความคืบหน้า เหตุคนร้ายย่องลักทรัพย์ เงิน 10 ล้าน-ทองคำหนัก 250 บาท ภายในกุฏิเจ้าอาวาส วัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค วันนี้ชุดสืบสวนของ บก.ปปป. ร่วมกับชุดคลี่คลายคดีของ สน.เพชรเกษม เดินทางไปที่วัดม่วงเพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่เมื่อเดินทางไปที่กุฎิเจ้าอาวาส ปรากฏว่า กุฏิปิดเงียบล็อกกุญแจจากด้านหน้า ไร้เงาเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่ ปปป. จึงพยายามโทรไปหาเจ้าอาวาสแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง เปิดเผยว่า หลังปรากฏข่าว เจ้าอาวาสได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความว่าเงินและทองคำภายในกุฏิหาย ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่ากุฏิดังกล่าวไม่มีรอยงัดแงะ และการจะเข้าไปภายในต้องผ่านประตูซึ่งล็อกถึง 5 ชั้น แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่บุคคลอื่นจะเข้าไปได้ มองว่าตู้เซฟที่เก็บทรัพย์สินไว้นั้นมีขนาดใหญ่ การจะนำทรัพย์สินภายในออกไปน่าจะทำได้ยาก […]