ผู้จัดการ ตลท.มองไทยไม่จำเป็นต้องปรับดอกเบี้ยรวดเร็วเหมือนประเทศอื่นๆ

กรุงเทพ 15 มิ.ย.-ผู้จัดการ ตลท.มองไทยไม่จำเป็นต้องปรับดอกเบี้ยรวดเร็วเหมือนประเทศอื่นๆแต่อธปท.ใช้นโยบายการเงินเหมาะสม หนุนเศรษฐกิจไทยเติบโต ขณะที่”กอบศักดิ์”ย้ำทำอย่างไรให้ประเทศไทยกลับมาเป็นสาววัยรุ่นอายุ18 ปีอีกครั้งเพื่อดึงดูดต่างชาติ ชี้หัวใจของการดึงดูดการลงทุน คือ รัฐบาลจะต้องมีเสถียรภาพ 


นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปาฐกถาพิเศษ ตลาดหุ้นไทย.. เชื่อมตลาดหุ้นโลก ในเวทีสัมมนา Investment Forum : New Chapter, New Opportunity ว่า ตลาดทุนไทยในปีนี้ยังคงมีความเสี่ยง จากภาวะเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง ที่เริ่มส่งผลกระทบทำให้สภาพคล่องในตลาดโลกปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบาย และอัตราเงินเฟ้อของประเทศไทย ก็เริ่มเห็นที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ที่ผ่านมา ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมาเน้นย้ำว่าไม่มีความจำเป็นที่ประเทศไทยจะต้องปรับอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วเหมือนประเทศอื่นๆ ถือได้ว่าการขยับดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไปของทางธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ใช้อยู่ถือว่าดำเนินมาถูกทาง 

สำหรับ ตลาดทุนไทย ในปัจจุบัน ยังสามารถระดมทุนได้ดี โดยเป็นอันดับหนึ่งในอาเซียน ช่วงระยะเวลา 4-5 ปีติดต่อกัน โดยยังสามารถให้ช่องทางการระดมทุนกับบริษัทต่างๆได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีการระดมทุนประมาณ 25% ของมาร์เก็ตแคปถือได้ว่าตลาดทุนยังคงมีความเข้มแข็ง รวมทั้งปริมาณสภาพคล่องซื้อขายต่อวัน ยังอยู่ในระดับดีเคยขึ้นไปสูงสุดอยู่ที่เฉลี่ยวันละ 90,000 ล้านบาทในช่วงปี 2564 และในปัจจุบันมีอัตราการซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่ 60,000 ล้านบาทโดยอัตราที่ลดลงมาจากสภาพคล่องที่ลดลงโดยได้รับแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับตัวสูงขึ้น


โดยจุดอ่อนของตลาดทุนประเทศไทยมี 2 เรื่อง เรื่องแรกจะทำยังไงให้บริษัทจากต่างประเทศเข้ามาระดมทุนในประเทศไทยมากขึ้น และเรื่องที่ 2 จะทำยังไงให้บริษัทสตาร์ทอัพ และเอสเอ็มอี เข้ามาระดมทุนในตลาดทุนไทยให้ได้มากขึ้น ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงพัฒนาช่องทางเพิ่มเติมต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนกลุ่มสตาร์ทอัพและบริษัทรายย่อย

ส่วนโอกาสในตลาดหุ้นไทยหลังจากนี้ไปยังคงมีโอกาสในส่วนของภาคการท่องเที่ยวการบริการ สอดกับรองรับการเปิดประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจ Well-Being เพราะฉะนั้นธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว การค้าในประเทศ การขนส่ง ภาคอาหาร และการเกษตร ยังมีโอกาสเติบโตได้หลังจากนี้ไป อย่างไรก็ตาม “ปัจจัยเสี่ยง” ในช่วงจากนี้ไปยังคงมี ภาวะเศรษฐกิจโลก ว่าการเติบโตจะเป็นอย่างไร รวมไปถึงอัตราเงินเฟ้อและสภาพคล่อง ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์จะมีจุดอื่นเพิ่มเติมมาอีกหรือไม่ ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงทั้งหมดที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ตลาดทุนไทยจะเร่งพัฒนาตลาด เพื่อเปิดโอกาสทางธุรกิจ และการลงทุนทั้งในสินทรัพย์หลัก รวมทั้งสินทรัพย์ดิจิทัล

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) บรรยายพิเศษ นโยบายรัฐบาลใหม่ ชี้ชะตา Fund Flow ตลาดหุ้นไทย ว่า หลังช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมาเงินไหลออกจากไทยไปเข้าจีน อินเดีย ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา โดยเงินกำลังหมุนเวียนแต่แตกต่างจากปีที่แล้ว ณ สิ้นปี 2565 SET Index ของไทยปรับตัวขึ้น 0.7% เมื่อเปรียบเทียบกับสิ้นปี 2564 


อย่างไรก็ตาม ก่อนการเลือกตั้ง หลายพรรคการเมืองหาเสียงด้วยนโยบายการแจกเงิน และ สร้างความนิยม แต่เราจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยเปลี่ยนจาก สาวอายุ 35 ปี กลับมาเป็นสาววัยรุ่นอายุ 18 ปี เพื่อดึงดูดการลงทุนให้ได้อีกครั้งซึ่งหัวใจของการดึงดูดการลงทุน คือ รัฐบาลจะต้องมีเสถียรภาพ เอกชนจะสามารถเดินหน้าไปข้างหน้าได้ โดยตนเองมองว่า รัฐบาลใหม่ มี 3 เรื่องที่ท้าทาย คือ

 1.รักษาแรงส่งของเศรษฐกิจ เช่น การส่งออกไปจีนมากขึ้นเพราะจีนกำลังเปิดประเทศหลังปิดไปช่วงโควิด ปลดล็อกต่างๆเรื่องการท่องเที่ยวให้มากขึ้น เร่งรัดโครงการลงทุนภาครัฐต่างๆที่อนุมัติไปแล้ว และดูแลค่าเงินบาทให้อ่อนเพื่อการส่งออกที่มากขึ้น

 2.สร้างอนาคตให้ประเทศ ลดอุปสรรคต่างๆทางกฎหมาย-Regulatory Guillotine ดึงดูด FDIs และ Startups-Hub for ASEAN การก้าวขึ้นไปบน New S-Curve และเดินหน้า EEC กับ SEC เช่น ไทยจะต้องพัฒนาทางออกทางทะเลให้ได้ครบ 2 เส้นทางทั้งทะเลอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ที่ผ่านมาเรามีท่าเรือแหลมฉบัง เวลาจะส่งออกไปประเทศอินเดียจะใช้เวลาเดินทางราว 3 สัปดาห์ หากพัฒนาท่าเรือน้ำลึกในฝั่งอันดามัน เราจะใช้เวลาขนส่งไปประเทศอินเดียเพียง 1 สัปดาห์เป็นต้น ซึ่งจะเป็นจุดแข็งของไทย เพราะเวียดนามมีทางออกทางทะเลเพียงแค่แห่งเดียวในมหาสมุทรแปซิฟิก 

3.การพัฒนาอย่างสมดุล ลดความขัดแย้งระหว่างเมืองชนบท ถ้าข้างบนทะเลาะกัน แต่ข้างล่างคือชนบทยังแข็งแกร่งประเทศก็เดินหน้าต่อไปได้ ลดส่วนภาระที่ไม่จำเป็น Empower ส่งเสริมประชาชน พัฒนาให้เขายืนบนขาของตนเองได้และที่สำคัญคือการแจกเงินไม่ใช่คำตอบ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คุมได้แล้ว! เพลิงไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร

สมุทรสาคร 7 ก.ค. – คุมได้แล้ว! ไฟไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร พบต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมัน หวั่นอาคารพังถล่ม หลังโหมไหม้รุนแรง ภาพจากมุมสูงจะเห็นอาคารที่เกิดเหตุมีขนาดใหญ่เนื้อที่ราวๆ 3-4 ไร่ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ของบริษัทประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยาง เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำของ อบต.บ้านเกาะ และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 20 คัน ฉีดน้ำสกัดเพลิงที่โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ควันสีดำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า มีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ จุดต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมันที่ใช้ในกระบวนการผลิตภายในโรงงาน เนื่องจากมีเชื้อเพลิงไวไฟ ประกอบกับภายในมีสินค้าประเภทยางที่ผลิตแล้วเป็นจำนวนมาก ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วจนอาคารเริ่มทรุดตัว มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงงาน 1 คน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1 คน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ไฟยังดับไม่สนิท เนื่องจากภายในมีทั้งเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิต วัตถุดิบไวไฟ และสินค้ายางยืดที่ผลิตเสร็จแล้วจำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไปเรื่อยๆ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงนำอุปกรณ์เข้าไปดับไฟด้านใน ทั้งนี้ ต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยจากตัวอาคารที่อาจพังถล่มลงมาได้ เนื่องจากถูกไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงจนเสียหายเกือบทั้งหมด คนงานเล่าว่าเพลิงลุกที่ท่อส่งน้ำมันที่ส่งไปยังเครื่องจักร ซึ่งใช้ในกระบวนการผลิตสินค้าประเภทยาง แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร […]

หนุ่มวัย 24 สารภาพผลักลูกเลี้ยงหัวฟาดพื้นดับ คุมทำแผนฯ

นนทบุรี 7 ก.ค. – ตำรวจคุมตัวพ่อเลี้ยงโหด ผลักลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบ ล้มศีรษะฟาดพื้นเสียชีวิต ทำแผนฯ หลังเค้นสอบกว่า 6 ชั่วโมง จนยอมรับ อ้างโมโหเด็กส่งเสียงดังรบกวน ตำรวจ สภ.บางบัวทอง คุมตัวนายธนวัฒน์ อายุ 24 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพทำร้ายร่างกาย “น้องขงเบ้ง” อายุ 2 ขวบ 5 เดือน ลูกเลี้ยง จนเสียชีวิตภายในบ้านพัก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมให้การว่า เด็กส่งเสียงดังรบกวนจึงเกิดความโมโหผลักจนล้ม ทำให้บริเวณท้ายทอยกระแทกกับพื้น กระทั่งแน่นิ่งไป เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 18.00-20.00 น. เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) ส่วนบาดแผลรอยจ้ำตามร่างกายและบาดแผลอื่นๆ นายธนวัฒน์ยังไม่รับสารภาพ ต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบอีกครั้ง แม่ของเด็ก อายุ 25 ปี เล่าว่า ตนออกไปทำงานทุกวัน เวลา 4 โมงเย็น […]

“บิ๊กเต่า” เผย “สีกา ก.” ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ เลือกเหยื่อรวย-เข้าถึงง่าย

7 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เรียกประชุมแบ่งภารกิจให้กองใต้สังกัด สืบสวนสอบสวนหาข้อมูลเพิ่ม เผยคืบหน้ากรณี “ทิดอาชว์” และนางสาว ก. เจ้าตัวยอมรับเลือกแต่คนรวย-เข้าถึงง่าย อ้างสำนึกผิด ยอมร่วมมือกับตำรวจ พร้อมจี้สำนักพุทธฯ ทำงานให้มากกว่านี้ เพื่อเรียกศรัทธาวงการสงฆ์กลับมา ความคืบหน้าในประเด็น อดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ ทิดอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เจ้าคณะภาค 14-15 สายธรรมยุต มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนางสาว ก. จนถูกแบล็กเมล์รีดไถ่เงิน 7.3 ล้านบาท ล่าสุดวันนี้ เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ได้เรียกคณะทำงานเข้าประชุมวางแผนการทำงานในกรณีของทิดอาชว์และนางสาว ก. ซึ่งใช้เวลาประมาณกว่า 3 ชั่วโมง โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้ออกมาเผยความคืบหน้าว่า วันนี้เป็นการเรียกประชุมกองงานต่าง ๆ เพื่อแบ่งสายงานมอบหมายภารกิจให้แต่ละกองไปสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ทำการสอบสวนนางสาว ก. และได้ข้อมูลมามากพอสมควร […]

Cambodia strongly rejects Thailand’s baseless claim over Ta Krabei Temple

กัมพูชาโต้ไทยอ้างปราสาทตาควายอยู่ในไทย

พนมเปญ 7 ก.ค.- กัมพูชาคัดค้านอย่างหนักว่า ไทยอ้างโดยไร้มูลว่า ปราสาทตาควายอยู่ในดินแดนไทย และตำหนิไทยว่าห้ามชาวกัมพูชาคล้องผ้าขาวม้าขึ้นปราสาทตาควาย เว็บไซตขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า กระทรวงกลาโหมแห่งชาติของกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์แสดงความคัดค้านอย่างหนักต่อการกล่าวอ้างอย่างไร้มูลและโอหังของสื่อไทย เจ้าหน้าที่ทหารไทย และพลเรือนชาวไทยบางกลุ่มที่ว่า ปราสาทตาควายตั้งอยู่ในดินแดนอธิปไตยของไทย แถลงการณ์ของกัมพูชาระบุว่า การกล่างอ้างดังกล่าวเป็นการบิดเบือนความจริงอย่างสิ้นเชิง เพราะไทยอ้างแผนที่ฝ่ายเดียวที่ไม่มีคุณค่าทางกฎหมายตามหลักการกฎหมายสากล กัมพูชายืนยันว่า ในทางภูมิศาสตร์แล้วปราสาทตาควายตั้งอยู่ในเทือกเขาดงรัก อำเภอบันเตียอัมปึล จังหวัดอุดรเมียนเจยหรืออุดรมีชัย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในดินแดนและอธิปไตยของกัมพูชา โดยเป็นไปตามกฎหมายที่ได้รับการรับรองจากสากล แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชายังระบุว่า ทหารไทยห้ามนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาคล้องผ้ากรอมาหรือผ้าขาวม้าติดธงชาติกัมพูชาขึ้นปราสาทตาควาย แต่กลับอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวไทยสวมเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับติดธงชาติไทย ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงทวิภาคีที่เคยตกลงกันไว้.-814.-สำนักข่าวไทย