ผู้จัดการ ตลท.มองไทยไม่จำเป็นต้องปรับดอกเบี้ยรวดเร็วเหมือนประเทศอื่นๆ

กรุงเทพ 15 มิ.ย.-ผู้จัดการ ตลท.มองไทยไม่จำเป็นต้องปรับดอกเบี้ยรวดเร็วเหมือนประเทศอื่นๆแต่อธปท.ใช้นโยบายการเงินเหมาะสม หนุนเศรษฐกิจไทยเติบโต ขณะที่”กอบศักดิ์”ย้ำทำอย่างไรให้ประเทศไทยกลับมาเป็นสาววัยรุ่นอายุ18 ปีอีกครั้งเพื่อดึงดูดต่างชาติ ชี้หัวใจของการดึงดูดการลงทุน คือ รัฐบาลจะต้องมีเสถียรภาพ 


นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปาฐกถาพิเศษ ตลาดหุ้นไทย.. เชื่อมตลาดหุ้นโลก ในเวทีสัมมนา Investment Forum : New Chapter, New Opportunity ว่า ตลาดทุนไทยในปีนี้ยังคงมีความเสี่ยง จากภาวะเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง ที่เริ่มส่งผลกระทบทำให้สภาพคล่องในตลาดโลกปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบาย และอัตราเงินเฟ้อของประเทศไทย ก็เริ่มเห็นที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ที่ผ่านมา ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมาเน้นย้ำว่าไม่มีความจำเป็นที่ประเทศไทยจะต้องปรับอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วเหมือนประเทศอื่นๆ ถือได้ว่าการขยับดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไปของทางธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ใช้อยู่ถือว่าดำเนินมาถูกทาง 

สำหรับ ตลาดทุนไทย ในปัจจุบัน ยังสามารถระดมทุนได้ดี โดยเป็นอันดับหนึ่งในอาเซียน ช่วงระยะเวลา 4-5 ปีติดต่อกัน โดยยังสามารถให้ช่องทางการระดมทุนกับบริษัทต่างๆได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีการระดมทุนประมาณ 25% ของมาร์เก็ตแคปถือได้ว่าตลาดทุนยังคงมีความเข้มแข็ง รวมทั้งปริมาณสภาพคล่องซื้อขายต่อวัน ยังอยู่ในระดับดีเคยขึ้นไปสูงสุดอยู่ที่เฉลี่ยวันละ 90,000 ล้านบาทในช่วงปี 2564 และในปัจจุบันมีอัตราการซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่ 60,000 ล้านบาทโดยอัตราที่ลดลงมาจากสภาพคล่องที่ลดลงโดยได้รับแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับตัวสูงขึ้น


โดยจุดอ่อนของตลาดทุนประเทศไทยมี 2 เรื่อง เรื่องแรกจะทำยังไงให้บริษัทจากต่างประเทศเข้ามาระดมทุนในประเทศไทยมากขึ้น และเรื่องที่ 2 จะทำยังไงให้บริษัทสตาร์ทอัพ และเอสเอ็มอี เข้ามาระดมทุนในตลาดทุนไทยให้ได้มากขึ้น ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงพัฒนาช่องทางเพิ่มเติมต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนกลุ่มสตาร์ทอัพและบริษัทรายย่อย

ส่วนโอกาสในตลาดหุ้นไทยหลังจากนี้ไปยังคงมีโอกาสในส่วนของภาคการท่องเที่ยวการบริการ สอดกับรองรับการเปิดประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจ Well-Being เพราะฉะนั้นธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว การค้าในประเทศ การขนส่ง ภาคอาหาร และการเกษตร ยังมีโอกาสเติบโตได้หลังจากนี้ไป อย่างไรก็ตาม “ปัจจัยเสี่ยง” ในช่วงจากนี้ไปยังคงมี ภาวะเศรษฐกิจโลก ว่าการเติบโตจะเป็นอย่างไร รวมไปถึงอัตราเงินเฟ้อและสภาพคล่อง ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์จะมีจุดอื่นเพิ่มเติมมาอีกหรือไม่ ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงทั้งหมดที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ตลาดทุนไทยจะเร่งพัฒนาตลาด เพื่อเปิดโอกาสทางธุรกิจ และการลงทุนทั้งในสินทรัพย์หลัก รวมทั้งสินทรัพย์ดิจิทัล

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) บรรยายพิเศษ นโยบายรัฐบาลใหม่ ชี้ชะตา Fund Flow ตลาดหุ้นไทย ว่า หลังช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมาเงินไหลออกจากไทยไปเข้าจีน อินเดีย ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา โดยเงินกำลังหมุนเวียนแต่แตกต่างจากปีที่แล้ว ณ สิ้นปี 2565 SET Index ของไทยปรับตัวขึ้น 0.7% เมื่อเปรียบเทียบกับสิ้นปี 2564 


อย่างไรก็ตาม ก่อนการเลือกตั้ง หลายพรรคการเมืองหาเสียงด้วยนโยบายการแจกเงิน และ สร้างความนิยม แต่เราจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยเปลี่ยนจาก สาวอายุ 35 ปี กลับมาเป็นสาววัยรุ่นอายุ 18 ปี เพื่อดึงดูดการลงทุนให้ได้อีกครั้งซึ่งหัวใจของการดึงดูดการลงทุน คือ รัฐบาลจะต้องมีเสถียรภาพ เอกชนจะสามารถเดินหน้าไปข้างหน้าได้ โดยตนเองมองว่า รัฐบาลใหม่ มี 3 เรื่องที่ท้าทาย คือ

 1.รักษาแรงส่งของเศรษฐกิจ เช่น การส่งออกไปจีนมากขึ้นเพราะจีนกำลังเปิดประเทศหลังปิดไปช่วงโควิด ปลดล็อกต่างๆเรื่องการท่องเที่ยวให้มากขึ้น เร่งรัดโครงการลงทุนภาครัฐต่างๆที่อนุมัติไปแล้ว และดูแลค่าเงินบาทให้อ่อนเพื่อการส่งออกที่มากขึ้น

 2.สร้างอนาคตให้ประเทศ ลดอุปสรรคต่างๆทางกฎหมาย-Regulatory Guillotine ดึงดูด FDIs และ Startups-Hub for ASEAN การก้าวขึ้นไปบน New S-Curve และเดินหน้า EEC กับ SEC เช่น ไทยจะต้องพัฒนาทางออกทางทะเลให้ได้ครบ 2 เส้นทางทั้งทะเลอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ที่ผ่านมาเรามีท่าเรือแหลมฉบัง เวลาจะส่งออกไปประเทศอินเดียจะใช้เวลาเดินทางราว 3 สัปดาห์ หากพัฒนาท่าเรือน้ำลึกในฝั่งอันดามัน เราจะใช้เวลาขนส่งไปประเทศอินเดียเพียง 1 สัปดาห์เป็นต้น ซึ่งจะเป็นจุดแข็งของไทย เพราะเวียดนามมีทางออกทางทะเลเพียงแค่แห่งเดียวในมหาสมุทรแปซิฟิก 

3.การพัฒนาอย่างสมดุล ลดความขัดแย้งระหว่างเมืองชนบท ถ้าข้างบนทะเลาะกัน แต่ข้างล่างคือชนบทยังแข็งแกร่งประเทศก็เดินหน้าต่อไปได้ ลดส่วนภาระที่ไม่จำเป็น Empower ส่งเสริมประชาชน พัฒนาให้เขายืนบนขาของตนเองได้และที่สำคัญคือการแจกเงินไม่ใช่คำตอบ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]