ผู้จัดการ ตลท.มองไทยไม่จำเป็นต้องปรับดอกเบี้ยรวดเร็วเหมือนประเทศอื่นๆ

กรุงเทพ 15 มิ.ย.-ผู้จัดการ ตลท.มองไทยไม่จำเป็นต้องปรับดอกเบี้ยรวดเร็วเหมือนประเทศอื่นๆแต่อธปท.ใช้นโยบายการเงินเหมาะสม หนุนเศรษฐกิจไทยเติบโต ขณะที่”กอบศักดิ์”ย้ำทำอย่างไรให้ประเทศไทยกลับมาเป็นสาววัยรุ่นอายุ18 ปีอีกครั้งเพื่อดึงดูดต่างชาติ ชี้หัวใจของการดึงดูดการลงทุน คือ รัฐบาลจะต้องมีเสถียรภาพ 


นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปาฐกถาพิเศษ ตลาดหุ้นไทย.. เชื่อมตลาดหุ้นโลก ในเวทีสัมมนา Investment Forum : New Chapter, New Opportunity ว่า ตลาดทุนไทยในปีนี้ยังคงมีความเสี่ยง จากภาวะเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง ที่เริ่มส่งผลกระทบทำให้สภาพคล่องในตลาดโลกปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบาย และอัตราเงินเฟ้อของประเทศไทย ก็เริ่มเห็นที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ที่ผ่านมา ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมาเน้นย้ำว่าไม่มีความจำเป็นที่ประเทศไทยจะต้องปรับอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วเหมือนประเทศอื่นๆ ถือได้ว่าการขยับดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไปของทางธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ใช้อยู่ถือว่าดำเนินมาถูกทาง 

สำหรับ ตลาดทุนไทย ในปัจจุบัน ยังสามารถระดมทุนได้ดี โดยเป็นอันดับหนึ่งในอาเซียน ช่วงระยะเวลา 4-5 ปีติดต่อกัน โดยยังสามารถให้ช่องทางการระดมทุนกับบริษัทต่างๆได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีการระดมทุนประมาณ 25% ของมาร์เก็ตแคปถือได้ว่าตลาดทุนยังคงมีความเข้มแข็ง รวมทั้งปริมาณสภาพคล่องซื้อขายต่อวัน ยังอยู่ในระดับดีเคยขึ้นไปสูงสุดอยู่ที่เฉลี่ยวันละ 90,000 ล้านบาทในช่วงปี 2564 และในปัจจุบันมีอัตราการซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่ 60,000 ล้านบาทโดยอัตราที่ลดลงมาจากสภาพคล่องที่ลดลงโดยได้รับแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับตัวสูงขึ้น


โดยจุดอ่อนของตลาดทุนประเทศไทยมี 2 เรื่อง เรื่องแรกจะทำยังไงให้บริษัทจากต่างประเทศเข้ามาระดมทุนในประเทศไทยมากขึ้น และเรื่องที่ 2 จะทำยังไงให้บริษัทสตาร์ทอัพ และเอสเอ็มอี เข้ามาระดมทุนในตลาดทุนไทยให้ได้มากขึ้น ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงพัฒนาช่องทางเพิ่มเติมต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนกลุ่มสตาร์ทอัพและบริษัทรายย่อย

ส่วนโอกาสในตลาดหุ้นไทยหลังจากนี้ไปยังคงมีโอกาสในส่วนของภาคการท่องเที่ยวการบริการ สอดกับรองรับการเปิดประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจ Well-Being เพราะฉะนั้นธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว การค้าในประเทศ การขนส่ง ภาคอาหาร และการเกษตร ยังมีโอกาสเติบโตได้หลังจากนี้ไป อย่างไรก็ตาม “ปัจจัยเสี่ยง” ในช่วงจากนี้ไปยังคงมี ภาวะเศรษฐกิจโลก ว่าการเติบโตจะเป็นอย่างไร รวมไปถึงอัตราเงินเฟ้อและสภาพคล่อง ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์จะมีจุดอื่นเพิ่มเติมมาอีกหรือไม่ ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงทั้งหมดที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ตลาดทุนไทยจะเร่งพัฒนาตลาด เพื่อเปิดโอกาสทางธุรกิจ และการลงทุนทั้งในสินทรัพย์หลัก รวมทั้งสินทรัพย์ดิจิทัล

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) บรรยายพิเศษ นโยบายรัฐบาลใหม่ ชี้ชะตา Fund Flow ตลาดหุ้นไทย ว่า หลังช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมาเงินไหลออกจากไทยไปเข้าจีน อินเดีย ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา โดยเงินกำลังหมุนเวียนแต่แตกต่างจากปีที่แล้ว ณ สิ้นปี 2565 SET Index ของไทยปรับตัวขึ้น 0.7% เมื่อเปรียบเทียบกับสิ้นปี 2564 


อย่างไรก็ตาม ก่อนการเลือกตั้ง หลายพรรคการเมืองหาเสียงด้วยนโยบายการแจกเงิน และ สร้างความนิยม แต่เราจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยเปลี่ยนจาก สาวอายุ 35 ปี กลับมาเป็นสาววัยรุ่นอายุ 18 ปี เพื่อดึงดูดการลงทุนให้ได้อีกครั้งซึ่งหัวใจของการดึงดูดการลงทุน คือ รัฐบาลจะต้องมีเสถียรภาพ เอกชนจะสามารถเดินหน้าไปข้างหน้าได้ โดยตนเองมองว่า รัฐบาลใหม่ มี 3 เรื่องที่ท้าทาย คือ

 1.รักษาแรงส่งของเศรษฐกิจ เช่น การส่งออกไปจีนมากขึ้นเพราะจีนกำลังเปิดประเทศหลังปิดไปช่วงโควิด ปลดล็อกต่างๆเรื่องการท่องเที่ยวให้มากขึ้น เร่งรัดโครงการลงทุนภาครัฐต่างๆที่อนุมัติไปแล้ว และดูแลค่าเงินบาทให้อ่อนเพื่อการส่งออกที่มากขึ้น

 2.สร้างอนาคตให้ประเทศ ลดอุปสรรคต่างๆทางกฎหมาย-Regulatory Guillotine ดึงดูด FDIs และ Startups-Hub for ASEAN การก้าวขึ้นไปบน New S-Curve และเดินหน้า EEC กับ SEC เช่น ไทยจะต้องพัฒนาทางออกทางทะเลให้ได้ครบ 2 เส้นทางทั้งทะเลอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ที่ผ่านมาเรามีท่าเรือแหลมฉบัง เวลาจะส่งออกไปประเทศอินเดียจะใช้เวลาเดินทางราว 3 สัปดาห์ หากพัฒนาท่าเรือน้ำลึกในฝั่งอันดามัน เราจะใช้เวลาขนส่งไปประเทศอินเดียเพียง 1 สัปดาห์เป็นต้น ซึ่งจะเป็นจุดแข็งของไทย เพราะเวียดนามมีทางออกทางทะเลเพียงแค่แห่งเดียวในมหาสมุทรแปซิฟิก 

3.การพัฒนาอย่างสมดุล ลดความขัดแย้งระหว่างเมืองชนบท ถ้าข้างบนทะเลาะกัน แต่ข้างล่างคือชนบทยังแข็งแกร่งประเทศก็เดินหน้าต่อไปได้ ลดส่วนภาระที่ไม่จำเป็น Empower ส่งเสริมประชาชน พัฒนาให้เขายืนบนขาของตนเองได้และที่สำคัญคือการแจกเงินไม่ใช่คำตอบ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระบะชนต้นไม้

สังเวย 7 ศพ กระบะหักหลบรถรับ-ส่งนักเรียน พุ่งชนต้นไม้

รถกระบะเสียหลักจะชนรถตู้รับ-ส่งนักเรียน คนขับตัดสินใจหักหลบ ทำให้รถพุ่งชนต้นไม้ เสียชีวิต 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 4 คน

สลด! รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยวเบตง ชนต้นไม้ ดับ 8 ราย

รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยว อ.เบตง จ.ยะลา เสียหลักไถลลงร่องกลางถนนชนต้นไม้บนถนนสาย 41 อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

ตักบาตรปีใหม่

ปชช.ร่วมตักบาตรวันปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล

ประชาชนร่วมกิจกรรมตักบาตร​ รับปีใหม่ 2568 เนืองแน่น​ “สุดาวรรณ” เผยตัวเลขสวดมนต์ข้ามปี กว่า 12 ล้านคน พร้อมเชิญชวนสักการะพระเขี้ยวแก้ว ถึง 14 ก.พ.นี้

ข่าวแนะนำ

ผบก.น.3 เผยมี 26 คนจีนเข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง

ผบก.น.3 เผยมีคนจีน 26 คน เข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง กำลังไล่สอบเส้นเงินเข้ากระเป๋าใคร ส่วนตำรวจที่ไปอบรมน่าจะได้เงินค่าจ้างจริง

ดีเอสไอประชุมนัดแรกร่วม ตร.นครบาล 1 คดี “นพ.บุญ”

ดีเอสไอรับคดี “นพ.บุญ” กับพวกเป็นคดีพิเศษ เปิดประชุมนัดแรกร่วมตำรวจนครบาล 1 แย้มรู้พิกัด “หมอบุญ” ที่หลบหนีแต่ยังไม่ขอเปิดเผย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจตั้งด่าน เจ็บ 6 นาย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจขณะตั้งด่าน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี บาดเจ็บ 6 นาย เด็ก 3 ขวบ เจ็บ 1 ราย เชื่อสร้างสถานการณ์ ก่อนครบรอบ 21 ปี ไฟใต้