กรุงเทพฯ 14 มิ.ย.-เดือนพฤษภาคม 2560 ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีการเปิดตัวโครงการใหม่
23
โครงการเท่ากับเดือนเมษายนที่ผ่านมา จำนวนหน่วยขายรวม 7,063 หน่วย
และมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 25,591 ล้านบาท
นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัทเอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท
แอฟแฟร์ส ซึ่งเป็นผู้สำรวจตลาดอสังหาริมทรัพเปิดเผยว่า เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดตัวใหม่มีจำนวนโครงการเปิดใหม่ลดลง 14 โครงการ หรือร้อยละ38
มีจำนวนหน่วยขายลด 334 หน่วย หรือร้อยละ 5
แต่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 2,745 ล้านบาท หรือร้อยละ 12
มีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยเพิ่มขึ้นด้วยจาก 3.089 ล้านบาท โดยโครงการที่เปิดขายเป็นระดับราคา
1-2 ล้านบาท จำนวน
1,121 หน่วย มูลค่าโครงการ
1,940 ล้านบาท ระดับราคา
2-3 ล้านบาท จำนวน
2,282 หน่วย
มูลค่าโครงการ 5,635 ล้านบาท
ระดับราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน
3,011 หน่วย
มูลค่าโครงการ 12,096 ล้านบาท ส่วนที่มีระดับราคาเกิน
5 ล้านบาทขึ้นไป
จำนวน 647
หน่วยและมีมูลค่าโครงการ 5,920
ล้านบาทของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดขายใหม่ทั้งหมดในเดือนพฤษภาคม
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาอัตราการขายได้ พบว่า ในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ร้อยละ
36เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนที่มีอัตราการขายได้ที่ร้อยละ
15 ต่อเดือน
โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราการขายได้สูงสุดและมีจำนวนหน่วยขายเป็นส่วนใหญ่ของตลาด
อันดับ 1 คือ
อาคารชุดราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน
2,448 หน่วย
ขายได้แล้ว 1,522 หน่วยคิดเป็นร้อยละ
62 รองลงมาคือ
อาคารชุดระดับราคา 2-3 ล้านบาท จำนวน 1,304 หน่วย ขายได้แล้ว 651 หน่วย คิดเป็นร้อยละ
50 และอันดับ 3
คืออาคารชุดระดับราคา 5-10 ล้านบาท จำนวน 349 หน่วย ขายได้แล้ว 139 หน่วยคิดเป็นร้อยละ
40
ด้านทำเลที่ตั้ง
มีโครงการที่เปิดตัวใหม่และตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพชั้นในจำนวน 5 โครงการ
ตั้งอยู่ในเขตเมืองชั้นกลางและส่วนต่อขยายของเมือง 15 โครงการ เช่น ถนนเพชรเกษม
ถนนราชพฤกษ์ ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ถนนศรีนครินทร์ ถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง
และถนนกาญจนาภิเษก ถนนวัดลาดปลาดุก นอกจากนี้ยังมีอีก 3
โครงการที่อยู่ในพื้นที่รอบนอกซึ่งเป็นย่านชุมชนที่อยู่อาศัยหรือแหล่งงานในย่านนั้น
เช่น รังสิต-นครนายก
หากพิจารณาภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดใหม่เดือนพฤษภาคมของปีนี้กับเดือนพฤษภาคมปี
2559 จะพบว่าในปีนี้มีจำนวนโครงการเปิดใหม่ลดลง
14 โครงการ (-38%) มีจำนวนหน่วยขายลด
334 หน่วย (-5%) แต่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น
2,745 ล้านบาท (12%) มีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยเพิ่มขึ้นด้วยจาก
3.089 ล้านบาท เป็น 3.623 ล้านบาท (17%) ในรอบ 5 เดือนแรกที่ผ่านมาการเปิดตัวก็ถดถอยลงกว่าปีก่อนหน้านี้ ดร.โสภณ
จึงขอเตือนให้ผู้ประกอบการทำการศึกษาวิจัยให้ดีก่อนการพัฒนาโครงการเพื่อความมั่นใจในความสำเร็จ-สำนักข่าวไทย