เป็ดไทยรุกตลาดออสเตรเลีย ดีเดย์ส่งตู้ปฐมฤกษ์

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – กรมปศุสัตว์-ซีพี​เอฟร่วมปล่อยตู้คอนเทนเนอร์บรรจุผลิตภัณฑ์เนื้อเป็ดแปรรูปปรุงสุกแช่แข็งไทยไปยังเครือรัฐออสเตรเลีย คาดสามารถส่งออกไปเครือรัฐออสเตรเลียปีละ 400 ล้านบาท ส่งผลให้ภาพรวมการส่งออกสินค้าเนื้อเป็ดและผลิตภัณฑ์เป็ดมากกว่า 2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมากว่าร้อยละ 20


นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานในพิธีส่งออกเป็ดแปรรูป “ตู้ปฐมฤกษ์” ของไทย ไปออสเตรเลีย ณ โรงงานแปรรูปมีนบุรี 2 บริษัท​เจริญ​โภคภัณฑ์​อาหาร​ จำกัด (มหาชน) หรือ​ซีพี​เอฟ​กรุงเทพมหานคร โดยระบุว่า ความสำเร็จครั้งนี้ เกิดจากการที่กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เจรจาเปิดตลาดเป็ดปรุงสุกจากไทยไปยังออสเตรเลีย ซึ่งใช้เวลาเจรจานานกว่า 7 ปี จนประสบความสำเร็จ จากการที่ประเทศไทยสามารถเปิดตลาดส่งออกเป็ดสุกไปออสเตรเลียได้ จะเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ดมีรายได้เพิ่มขึ้นและส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์ให้ความสำคัญต่อการสนับสนุนการส่งออกตามนโยบายของดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อส่งเสริมรายได้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีฟาร์มเลี้ยงเป็ดเนื้อ 556 ฟาร์ม มีเป็ดเนื้อ 13,292,275 ตัว โดยดำเนินการควบคู่กับการกำกับการผลิตสินค้าปศุสัตว์ให้มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค


ความสำเร็จในการเปิดตลาดเป็ดแปรรูปไปยังเครือรัฐออสเตรเลีย เกิดจากการประสานความร่วมมือของหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมุ่งเน้นการผลิตเนื้อเป็ดแปรรูปปรุงสุกที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และความปลอดภัย ผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ที่ได้มีระบบการควบคุมการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ระดับฟาร์ม กระทั่งถึง โรงฆ่าและการแปรรูป ตลอดจนมาตรการควบคุมป้องกัน และเฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์ที่เข้มงวด ทำให้ไทยไม่มีรายงานการพบโรคไข้หวัดนกในประเทศนับตั้งแต่ ปี 2551 เป็นต้นมา ส่งผลให้ประเทศคู่ค้ามีความเชื่อมั่นในคุณภาพการผลิตเนื้อเป็ดแปรรูปปรุงสุกของไทย

“สินค้าตู้ปฐมฤกษ์นี้ เป็นสินค้าเนื้อเป็ดแปรรูปปรุงสุกแช่แข็ง ปริมาณ 5,052 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 1,310,000 บาท ซึ่งคาดว่า จะมีผู้ผลิตส่งออกไปเครือรัฐออสเตรเลีย ประมาณไม่ต่ำกว่าปีละ 1,200 ตัน คิดเป็นมูลค่า 400 ล้านบาท โดยผ่านมาประเทศไทยมีการส่งออกเป็ดและผลิตออกไปต่างประเทศได้แก่ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร เป็นต้น ในปี 2564 มีปริมาณการส่งออก 8,012,202.84 กิโลกรัม มูลค่า 1,106,523,412.35 บาท ส่วนในปี 2565 มีปริมาณการส่งออก 10,279,907.73 กิโลกรัม มูลค่า 1,767,369,373 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 59.72” นายสัตวแพทย์สมชวนกล่าว

สำหรับผู้ประกอบการไทยที่มีความประสงค์ขอขึ้นทะเบียนโรงงานแปรรูปเนื้อเป็ดปรุงสุกเพื่อการส่งออกไปต่างประเทศ สามารถสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องผ่านทางสำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ (สพส.) กรมปศุสัตว์ โดยสามารถติดต่อที่กลุ่มตรวจสอบมาตรฐานด้านการปศุสัตว์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-653-4444 ต่อ 3134


นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธาน​คณะผู้บริหาร​บริษัท​ เจริญ​โภคภัณฑ์​อาหาร​ จำกัด​ (มหาชน)​ หรือ​ซีพี​เอฟ​เปิดเผยว่า การส่งเป็ดปรุงสุกล็อตแรกไปออสเตรเลียครั้งนี้ เป็นการขยายตลาดผลิตภัณฑ์เนื้อเป็ดปรุงสุกของบริษัทฯ ยังสะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการของไทยมีศักยภาพในการพัฒนาการผลิตสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐานในระดับโลก ออสเตรเลียเป็นตลาดที่มีศักยภาพ บริโภคเนื้อเป็ดประมาณ 50,000 ตันต่อปี และมีความต้องการเป็ดปรุงสุกพร้อมทานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซีพีเอฟเล็งเห็นโอกาสในตลาดดังกล่าว สินค้าเป็ดปรุงสุกตู้แรกวันนี้จะขนส่งทางอากาศไปยังออสเตรเลียเพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคได้ภายในสัปดาห์นี้ โดยตั้งเป้าประมาณ 500-600 ตันต่อปี สำหรับสินค้าที่ส่งออกได้แก่ เป็ดย่าง เป็ดฉีก เป็ดย่างพร้อมแผ่นแป้ง เป็นต้น ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวออสเตรเลีย นอกจาก​นี้ ซีพีเอฟ ยังมองหาโอกาสเปิดตลาดเนื้อเป็ดปรุงสุกไปยังตลาดอื่นๆที่มีศักยภาพต่อไป

สำหรับ​ผลิตภัณฑ์เนื้อเป็ด และเป็ดปรุงสุกของซีพีเอฟได้รับการยอมรับจากลูกค้าห้างค้าปลีกชั้นนำในยุโรปและทั่วโลก และเชื่อมั่นตลอดห่วงโซ่การผลิตสินค้าอาหารของบริษัทฯ มีการควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยอาหารตั้งแต่ อาหารสัตว์ ฟาร์มเลี้ยง การแปรรูปเนื้อเป็ดเป็นผลิตภัณฑ์พร้อมทาน ได้รับรองมาตรฐานระดับโลก อาทิ BRC SEDEX SMETA พร้อมทั้งทุกผลิตภัณฑ์อาหารของซีพีเอฟสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิต ในปีที่ผ่านมา ซีพีเอฟ ส่งออก ไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ได้แก่ เยอรมนี อังกฤษ กลุ่มอียู ญี่ปุ่น สิงคโปร์ นิวซีแลนด์ เป็นต้น .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง