กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – ซีพีเอฟคาด สถานการณ์ธุรกิจอาหารและสินค้าเกษตรในครึ่งหลังของปี 2566 ทรงตัวและมีแนวโน้มดีขึ้น เชื่อต้นทุนการผลิตจะไม่สูงไปกว่านี้ เผยมีแผนขยายแบรนด์ CP Authentic Asia ไปยังยุโรปและอเมริกา เล็งบุกตลาดมิดเดิลอีสต์ ส่วนการซื้อหุ้นคืนเป็นไปการสร้างความมั่นใจแก่ผู้ถือหุ้น
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหารบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟกล่าวถึงสถานการณ์ธุรกิจอาหารและสินค้าเกษตรของซีพีเอฟในครึ่งหลังของปี 2566 ว่า จะทรงตัวและมีแนวโน้มดีขึ้นเนื่องจากเชื่อว่า ต้นทุนการผลิตจะไม่สูงไปกว่านี้ เช่น ธัญญาพืชที่เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ พลังงาน เป็นต้น
ทั้งนี้ ซีพีเอฟวางแผนจะขยายตลาดสินค้าภายใต้แบรนด์ CPAuthentic Asia ไปยังยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยเป็นผลิตภัณฑ์อาหารรสชาติดั้งเดิมของเอเชียซึ่งได้รับความนิยมจากชาวยุโรปและอเมริกามากขึ้น
นอกจากนี้กำลังเล็งจะรุกขยายธุรกิจไปยังกลุ่มประเทศตะวันออกกลางโดยจะเริ่มที่ซาอุดีอาระเบียเป็นฐานสำคัญ ขณะนี้กำลังติดตามว่า จะมีข้อตกลงดีๆ อะไรเกิดขึ้นได้บ้าง ขณะเดียวกันจะเพิ่มผลิตภัณฑ์จากกุ้งซึ่งได้รับความนิยมจากจีน โดยให้มีความหลากหลายมากขึ้น
สำหรับการซื้อหุ้นคืนตามที่ซีพีเอฟรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2566ว่ามีจำนวนซื้อหุ้นคืน 4,221,700 หุ้น โดยราคาที่ซื้อต่อหุ้นสูงสุด 21.00 บาท และราคาต่ำสุด 20.60 บาท มูลค่า 87.99 ล้านบาท ทำให้จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบันทั้งหมดแล้ว 123,743,900 หุ้น ซึ่งมีสัดส่วนของจำนวนซื้อหุ้นคืนต่อจำนวนหุ้นชำระแล้ว 1.44% มูลค่ารวมที่ซื้อคืนแล้วทั้งหมด 2,652.53 ล้านบาทโดยจำนวนหุ้นคงเหลือที่ต้องซื้อหุ้น คืนจากโครงการอีก 76,256,100 หุ้น นายประสิทธิ์กล่าวว่า เป็นไปตามมติของบอร์ดมาเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 ตามโครงการซื้อหุ้นคืน จำนวน 200,000,000 หุ้นเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ถือหุ้น เนื่องจากในระยะที่ผ่านมาราคาหุ้น under value แต่ไม่ได้มาจากการดำเนินงานของบริษัท เป็นเพราะปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงหวังว่า ปัจจัยเหล่านี้จะหมดไปโดยเร็ว .-สำนักข่าวไทย