เปิดตัว PEA SOLAR ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านครบวงจร

นนทบุรี 1 มิ.ย.-การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบไฟฟ้าที่ได้รับความเชื่อมั่นมาอย่างยาวนาน จัดงานเปิดตัวบริการธุรกิจเสริมการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บน A หรือ PEA SOLAR ทางเลือกไฟฟ้าอัจฉริยะพลังงานสะอาดและปลอดภัย ตอบสนองชีวิตของผู้คนในปัจจุบันให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น สร้างความเชื่อมั่นด้วยทีมงานวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพที่พร้อมมอบบริการที่ดีและมีคุณภาพด้วยมาตรฐานจาก PEA ทั้งยังมีสาขาบริการลูกค้าครอบคลุมทั่วประเทศสามารถให้บริการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว พร้อมดึงธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่หลายแห่งร่วมปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าที่สนใจอีกด้วย


นายศุภชัย เอกอุ่น ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิกาค กล่าวว่า “PEA ให้ความสำคัญในเรื่องของการส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยกระแสรักษ์โลกและการคำนึงถึงการประหยัดพลังงานในปัจจุบันมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่าง รวมถึงโซลาร์เซลล์จึงได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐทำให้การติดตั้งมีค่าใช้จ่ายที่ลดน้อยลง หลายบ้านหันมาติดตั้งเพื่อเป็นพลังงานทางเลือก ช่วยลดค่าไฟฟ้า เพราะประเทศเมืองร้อนที่มีแดดจัดแบบไทยเรานั้นเหมาะกับการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์เป็นอย่างยิ่ง PEA SOLAR ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา หรือ Solar Rooftop จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สอดคล้องกับการใช้ชีวิตในปัจจุบัน บริการของเรามีขั้นตอนที่สะดวก รวดเร็ว เป็นการให้บริการแบบครบวงจร

“ประชาชนสนใจโครงการนี้อย่างมากๆๆเท่าที่ได้รับรายงานสาขา 74 จังหวัดมีประชาชนเข้ามาติดต่อสอบถามและขึ้นทะเบียนติดตั้งไว้เยอะมาก และได้ติดตั้งเสร็จไปแล้วนับพันหลังคาเรือน ดังนั้น ขอให้ประชาชนที่ติดต่อที่จะติดตั้งเบาใจทางเราในแต่ละสาขาจะเน้นติดตั้งให้ตามคิวทุกรายด้วยกัน” นายศุภชัยกล่าว


นอกจากนี้ ด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านระบบไฟฟ้า สาขาบริการลูกค้าที่ครอบคลุมทุกพื้นทั่วประเทศ เรามีพาร์ทเนอร์ด้านผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้งาน พร้อมให้คำแนะนำและช่วยดำเนินการในทุกขั้นตอน

หลักการทำงานของ PEA SOLAR ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา(Solar  Rooftop) เมื่อดิดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ เพื่อรับและเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้ากระแสตรง(DC) แล้วส่งเข้าเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (Inverter) และเชื่อมต่อเข้ากับลายจำหน่ายของการไฟฟ้าที่เป็นระบบไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) โดยผ่านตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า (MDB) จะทำหน้าที่ในการควบคุมและจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ภายในบ้านเพื่อใช้งานกับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้านได้ ซึ่งเป็นการจ่ายกระแสไฟฟ้าร่วมกันระหว่างระบบจากพลังงานแสงอาทิตย์และระบบจำหน่ายของกาไฟฟ้า หากระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานกระแสไฟฟ้าให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านไม่เพียงพอ ระบบจำหน่ายไฟฟ้าก็จะร่วมจ่ายกระแสให้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านด้วย

อย่างไรก็ตาม PEA SOLAR มีขั้นตอนที่สะดวก รวดเร็ว และเป็นการให้บริการแบบครบวงจร โดยมี 7 ขั้นตอน ให้ลูกค้าได้ติดตั้ง Solar Rooftop กับ PEA ดังนี้ คือ


1) ลูกค้าสนใจติดตั้ง ช่องทางติดต่อที่สะดวก จากสาขาของ PEA ทั่วประเทศ

2) สำรวจและออกแบบ: โดยทีมวิศวกรของ PEA ที่มีความเชี่ยวชาญ

3) ชำระเงินสด หรือ PEA ได้เพิ่มทางเลือกโดยร่วมกับพันธมิตรซึ่งเป็นสถาบันการเงิน ในการให้บริการสินเชื่อให้กับลูกค้า โดยจะอนุมัติรวดเร็วแถมคิดดอกเบี้ยไม่สูงมาก พร้อมขออนุญาตหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดย PEA ดำเนินการให้ทุกขั้นตอนติดตั้งระบบ Solar และเชื่อมต่อกับระบบจำหน่ายของ PEA ทีมงานมืออาชีพของ PEA ดูแลการติดตั้งให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด

6) เริ่มใช้งาน

7) การบำรุงรักษาระบบ: PEA ดูแลแบบครบวงจรจนถึงบำรุงรักษา

ทั้งนี้ราคาแพ็กเกจ PEA SOLAR เป็นราคาที่คิดจากอุปกรณ์ของผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผงเซลล์แสงอาทิดย์ และ Inverter ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์กับ PEA เรียบร้อย ซึ่งผู้ประกอบการดังกล่าวเป็นผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์โดยตรง โดยเป็นการนำแสงอาทิตย์ และ Inverter มาจับคู่ให้เป็นทางเลือก

สำหรับลูกค้าที่สนใจจะติดตั้ง Solar Rooftop ตามแบรนด์ของแต่ละผลิตภัณฑ์ ซึ่งแบ่งราคาแพ็คเกจออกเป็น 2 กลุ่ม มีขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้า แบ่งออกเป็น 3kW 5kW 10kW 15kW และ 20kW ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามกลุ่มแพ็คเกจและระดับราคาตามที่ลูกค้าต้องการ โดยรายละเอียดของทั้ง 2 กลุ่มแพ็กเกจ มีดังนี้

1)  กลุ่ม Standard แพ็คเกจ เป็นผลิตภัณฑ์แผงและ Inverter ที่มีมาดรฐานตามที่ PEA กำหนด มีราคาเริ่มตั้งแต่ประมาณ 130,000 บาท ไปจนถึง 680,000 บาท

2)  กลุ่ม Premium แพ็คเกจ เป็นผลิตภัณฑ์แผงและ Inverter ที่มีมาตรฐานตามที่ PEA กำหนด และสามารถเพิ่มเติมอุปกรณ์ Power optimizer และ Micro Inverter ได้ โดยจะมีราคาเริ่มดั้งแต่ประมาณ150,000 บาท ไปจนถึง 840,000 บาท

ทั้งนี้ PEA SOLAR พร้อมให้บริการแบบครบวงจร วางแผงแล้ววันนี้ทั่วประเทศ โดยสามารถชำระได้ทั้งแบบเงินสุด และบริการสินเชื่อผ่านสถาบันการเงินพันธมิตรของ PEA ได้แก่ บมจ.ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงเทพ,ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย, ธนาคารทหารไทยธนชาต, ธนาดารยูโอบีประเทศไทย และธนาคารออมสิน สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจเฟซบุ๊ก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค PEA หรือเว็บไซต์ www.peasolar.pea.co.th (เปิดใช้งาน 15 มิ.ย.66) และ 1129 PEA Contact Center .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]

“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ชายแดนสันติ

จีน 15 ส.ค.-“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ปัญหาชายแดนอย่างสันติ พร้อมขอบคุณที่เห็นความจำเป็นในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เห็นพ้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบรับคำเชิญของ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ในการเข้าร่วมจิบน้ำชาและหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ไทย และกัมพูชา ในห้วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายมาริษ ได้แสดงความขอบคุณต่อบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีน ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ผ่านกลไกทวิภาคีต่างๆ และการบังคับใช้ให้เกิดการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนของอาเซียน พร้อมยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วน ที่ไทย-กัมพูชา ต้องร่วมมือกันในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันถึงความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล เนื่องจากเป็นก้าวสำคัญในการลดความตึงเครียด และฟื้นฟูความเป็นปกติสุขในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ นายมาริษ ยังได้กล่าวขอขอบคุณ นายหวัง อี้ […]