เอกชนไม่ขัดขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แต่ให้ก้าวไกลพิจารณาให้รอบคอบ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค.-หอการค้าไทยจับเข่าคุย “พิธา เคลียร์ปมเศรษฐกิจ หวังตั้งรัฐบาลใหม่ราบรื่น พร้อมไม่ขัดขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แต่ให้รัฐบาลใหม่พิจารณาบนพื้นฐานทุกอย่างให้รอบคอบ เพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ และอยากเห็นภาครัฐทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวก บนเวทีการแข่งขันหน้าที่ของเอกชนก็พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ


นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังจากการหารือกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และผู้บริหารพรรค ประกอบด้วย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายนโยบาย ดร.สิทธิพล วิบูลย์ธนากุล นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล นายวรภพ วิริยะโรจน์ และนายศุภโชติ ไชยสัจ ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ว่า ภาคเอกชนมีความยินดีที่การเลือกตั้งที่ผ่านมา ประชาชนเกิดการตื่นตัวและออกมาใช้สิทธิจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ผลการเลือกตั้งที่ออกมาก็สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของประชาชนที่อยากให้ประเทศเกิดการเปลี่ยนแปลงและเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็ต้องขอแสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกลที่ได้รับคะแนนเสียงมาเป็นอันดับ 1 ของการเลือกตั้งในครั้งนี้ 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาหอการค้าไทยให้ความสำคัญและติดตามความคืบหน้านโยบายเศรษฐกิจของว่าที่รัฐบาลชุดใหม่ โดยเฉพาะ MOU 23 ข้อ 5 แนวทาง ของพรรคร่วม รวมถึงมติของ 8 พรรคร่วมที่ได้จัดตั้งคณะทำงานประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่านใน 7 ด้าน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของหอการค้าฯ ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภายใต้แนวทาง 1) Connect หอการค้าฯ พร้อมประสานการทำงานกับทุกรัฐบาลอย่างใกล้ชิด 2) Competitive นโยบายหลายข้อของว่าที่รัฐบาลชุดใหม่ตรงกับหอการค้าฯ โดยเฉพาะเรื่อง Ease of Doing Business การปฏิรูปกฎหมาย กฎระเบียบที่ล้าสมัย การส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อกระจายรายได้ไปยังทุกจังหวัด และ 3) Sustainable ซึ่งหลายประเด็นมีนโยบายที่สามารถร่วมกันผลักดันได้ ทั้งปัญหา PM 2.5 ปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงนโยบายสิ่งแวดล้อมอื่นๆ 


สำหรับประเด็นหารือที่เป็นไฮไลต์สำคัญในครั้งนี้ ได้มีการพูดคุยถึงแนวนโยบายของว่าที่รัฐบาลชุดใหม่และทำความเข้าใจกัน 3 ประเด็นเร่งด่วน คือ 1) ขอให้กระบวนการจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อให้การจัดทำนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรงบประมาณมีความต่อเนื่อง สร้างความเชื่อมั่นให้กับเศรษฐกิจประเทศ โดยเฉพาะแนวทางการจัดทำงบประมาณฐานศูนย์ของว่าที่รัฐบาลชุดใหม่ที่หอการค้าฯ เห็นด้วยที่จะนำเอารูปแบบดังกล่าวมาใช้กับการจัดทำงบประมาณของประเทศ แต่มีข้อกังวลเรื่องกรอบระยะเวลาการจัดทำงบประมาณว่าจะสามารถดำเนินการได้ทันทีหรือไม่ เพราะรูปแบบดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการทำงานของภาครัฐในทุกหน่วยงานและใช้ระยะเวลามาก จึงฝากให้มีการจัดเตรียมแผนต่าง ๆ ให้รอบคอบ เพื่อให้การใช้งบประมาณของประเทศในการขับเคลื่อนมิติต่าง ๆ มีความต่อเนื่อง 

2) การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ด้วย Ease of Doing Business และ Ease of Investment โดยปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง regulatory guillotine ที่ภาครัฐและเอกชนต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพราะที่ผ่านมาไทยมีความพร้อมและมีศักยภาพในการดึงดูดการลงทุนตรงจากต่างประเทศ เพียงการปรับปรุงกฎระเบียบให้มีความทันสมัยและสะดวกขึ้น จะช่วยดึงดูดการลงทุนได้อย่างมหาศาล นอกจากนี้ยังได้หารือในประเด็นนโยบายค่าแรงขั้นต่ำที่พรรคก้าวไกลได้เสนอเป็นนโยบายหลักไว้ 450 บาท/วัน หอการค้าฯ เห็นด้วยที่จะมีการขึ้นค่าแรงอยู่ในระดับที่เหมาะสมตามแต่ละพื้นที่ และควรเพิ่ม Productivity ของแรงงานควบคู่ไปพร้อมกัน

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลชุดใหม่ควรมีการตัดสินใจอย่างรอบด้านร่วมกันก่อน ทั้งในส่วนของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนในฐานะนายจ้าง และลูกจ้างซึ่งเป็นผู้ได้รับประโยชน์บนพื้นฐานของกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันมีกลไกคณะกรรมการไตรภาคีฯ แต่ละจังหวัดในการพิจารณาและเสนอปรับค่าแรงขั้นต่ำ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ หากมีการขึ้นค่าแรงอย่างทันทีจะได้ไม่คุ้มเสีย เพราะวันนี้ต้องยอมรับว่า เศรษฐกิจเพิ่งฟื้นตัวและยังมีความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจอีกหลายด้าน หากผู้ประกอบการมีต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น บางส่วนอาจจะรับไม่ไหว ซึ่งเป็นไปได้ทั้งการชะลอการจ้างงาน ปรับลดจำนวนพนักงาน หรือแม้แต่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานจำนวนมาก อาจพิจารณาย้ายฐานการผลิต รวมถึงนักลงทุนใหม่ที่หวังจะเข้ามา คงมีการปรับแผนลงทุนไปประเทศอื่นแทน 


รวมทั้งส่วนนี้จะกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง หากไม่สร้างความชัดเจน ดังนั้น การจะปรับขึ้นค่าแรงจึงเป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกันหลายส่วน และหวังว่าจะมีการทบทวนเพื่อให้เกิดรูปแบบที่ทุกภาคส่วนยอมรับได้ นอกจากนี้ยังเห็นด้วยกับแนวทางการปรับโครงสร้างพลังงานของประเทศ โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าที่กระทบค่าครองชีพประชาชน และต้นทุนผู้ประกอบการทั่วประเทศ 3) เสริมสร้างความเข้มแข็งผู้ประกอบการ และ SMEs หอการค้าฯ ได้เสนอให้รัฐบาลชุดใหม่พิจารณานโยบายที่ช่วยเอื้อและสนับสนุนให้ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน Soft Loan ได้ง่ายขึ้น ทั้งการปรับกฎเกณฑ์ให้สอดคล้องกับความเป็นจริง มาตรการพักหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย รวมถึงพิจารณามาตรการที่เกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างหนี้ เพราะเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว เพราะ SMEs ถือเป็นผู้ประกอบการส่วนใหญ่ของประเทศ และยังเป็นกลุ่มเปราะบางที่สุดที่รัฐต้องเข้ามาสร้างความเข้มแข็ง 

ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการเข้าร่วมหารือกับหอการค้าฯ ในวันนี้ว่า ตนมี 3 วาระหลัก ในการมานำเสนอและหารือกับหอการค้าฯ คือ 1) ความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล ภายใต้แนวทาง 23 ข้อหลักใน MOU ของพรรคร่วม และการเตรียมความพร้อมในการเปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐบาลชุดใหม่ของคณะทำงาน 7 ด้าน ซึ่งจำเป็นต้องจัดลำดับความสำคัญของนโยบายต่าง ๆ ของพรรคที่จะจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน เพราะทั้งงบประมาณและเวลามีจำกัด 2) มุมมองเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ มองว่าเป้าหมายเศรษฐกิจประเทศไทยในอีก 4 ปีข้างหน้า จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตและไม่มีความเหลื่อมล้ำ ในระยะสั้นเศรษฐกิจโลกยังคงเติบโตช้า ดังนั้นจะต้องหาทางให้ประเทศไทยสามารถเติบโตต่อไปได้โดยไม่พึ่งพาเศรษฐกิจโลกมากจนเกินไป รวมถึงธุรกิจใหม่ ๆ อาทิ Power electronics จาก Silicon Carbide และเรื่องการพัฒนาด้านดิจิทัล เป็นต้น 

3) นโยบายเศรษฐกิจที่เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจและการเติบโตอย่างเป็นธรรม ผ่านโครงสร้างพื้นฐานให้เข้มแข็ง โดยการทำ Ease of Doing Business และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การสร้างการแข่งขันที่เป็นธรรม ทั้งการยกเครื่องกฎหมายแข่งขันทางการค้าฉบับใหม่ การจัดสรรและใช้งบประมาณที่มีประสิทธิภาพ และกระจายอำนาจท้องถิ่นให้มีส่วนร่วมมากขึ้น ซึ่งนโยบายทั้งหมดจะต้องหา Scenario ร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน โดยดึงเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม โดยเฉพาะเรื่องการปรับแก้กฎหมายที่ล้าสมัย 

“ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า ภาคเอกชนไทยมีความเข้มแข็งและปรับตัวอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าจะเจอกับหลายวิกฤติทางเศรษฐกิจ วันนี้สิ่งที่เราพูดคุยกับพรรคก้าวไกล เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า ภาคเอกชนและผู้ประกอบการอยากเห็นภาครัฐทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวก บนเวทีการแข่งขันหน้าที่ของเอกชนก็พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ การพูดคุยในวันนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่รัฐและเอกชนจะได้ปรึกษาหาทางออกร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ประเทศขับเคลื่อนและเติบโตได้อย่างยั่งยืน” นายสนั่น กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เผยไทยมีฝนเพิ่ม เตือนตะวันออก รับมือฝนถล่ม

กทม. 22 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักบางแห่ง เตือนภาคตะวันออก เตรียมรับมือฝนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

โผ ครม. แพทองธาร 2 หลังภูมิใจไทยถอนตัว

21 มิ.ย. – สะพัดโผ ครม. แพทองธาร ชุดใหม่ “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” นั่ง มท.1 พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ หรือ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นั่งกลาโหม ภายหลังพรรคภูมิใจไทย ประกาศถอนตัวไปเป็นฝ่ายค้าน ส่งผลให้ ครม. ว่างลง 8 ตำแหน่ง โผการปรับคณะรัฐมนตรีล่าสุด ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย มีชื่อของ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะไปนั่งเก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แทนนายอนุทิน ชาญวีรกูล โดยก่อนหน้านี้ นายประเสริฐ ยืนยันว่า พร้อมไปทำงานในทุกตำแหน่งที่นายกรัฐมนตรี มอบหมาย ส่วน รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย (มท. 2) มีชื่อ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช และ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข จากพรรคประชาธิปัตย์ จะสลับมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย (มท. 3) ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม […]

เลขาฯ เพื่อไทย ยัน นายกฯ ไม่ลาออก-ยุบสภา

กทม. 21 มิ.ย.-เลขาฯ พรรคเพื่อไทย ยืนยันนายกฯ ไม่ลาออก-ยุบสภา หลังงบฯ 69 ผ่านวาระสาม ตามที่มีกระแสข่าว เดินหน้าทำงานแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ภาษีทรัมป์ และนโยบายต่างๆ ขออย่าให้การเมืองมาบดบังเป้าหมายสำคัญ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลฯ ว่า “จากกระแสข่าวลือที่ว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อาจตอบรับข้อเสนอจากพรรคการเมืองบางพรรค ด้วยการลาออกหรือยุบสภาหลังผ่านการลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ในวาระที่สามนั้น ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ขอเรียนชี้แจงอย่างชัดเจนว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และนายกรัฐมนตรี ได้ยืนยันกับพวกเราชัดเจนว่า จะเดินหน้าทำหน้าที่แก้ไขวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่ประเทศกำลังเผชิญอย่างเต็มความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการตอบโต้ที่เข้มข้นขึ้น ทั้งในมิติการทูตและด้านความมั่นคง รวมถึงปัญหาวิกฤตภาษีทรัมป์ ที่รัฐบาลได้เร่งผลักดันการเจรจาอย่างจริงจัง และได้รับการตอบรับอย่างดีจากคู่เจรจา รัฐบาลยังมุ่งมั่นใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่จนครบวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ในการผลักดันนโยบายที่วางไว้ให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม อาทิ -การเดินหน้านโยบายปราบปรามยาเสพติด-การปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้น-มาตรการลดค่าครองชีพ ผ่านโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย-การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ผ่านการพัฒนาโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่-การสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ (man-made destination) […]

เปิดด่านรับผู้ป่วยฉุกเฉิน หญิงชาวกัมพูชาติดเชื้อในกระแสเลือด

จันทบุรี 21 มิ.ย. – น้ำใจคนไทย! เปิดด่านรับผู้ป่วยฉุกเฉิน หญิงชาวกัมพูชา วัย 67 ปี ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด ส่งรักษา รพ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ 20 มิ.ย. เวลา 21.00 น. กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด (กปช.จต.) โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ชุดเคลื่อนที่เร็วทหารผ่านนาวิกโยธินที่ 4 (ชค.ทพ.นย.4) หมวดอาวุธสนับสนุนที่ 4 จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ได้รับการประสานจาก นปพท.จันทบุรี ให้อำนวยความสะดวกในการผ่านแดนให้กับนางหยาง ทัช อายุ 67 ปี ผู้ป่วยฉุกเฉินชาวกัมพูชา พร้อมผู้ร่วมเดินทาง รวมจำนวน 4 คน เนื่องจากผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสโลหิต มีไข้สูง หนาวสั่น และปวดศีรษะรุนแรง เพื่อไปรักษาตัวที่ รพ.กรุงเทพจันทบุรี เนื่องจากทาง รพ.กัมพูชา ไม่สามารถรักษาได้ เพราะเครื่องมือทางการแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ไม่มี จึงขอประสานส่งตัวที่บริเวณสะพานคลองตะเคียน […]