ราคาหมูอาจปรับขึ้นต่อเนื่องอีก 2 สัปดาห์ แต่ยังต่ำกว่าทุน

กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ คาดราคาหมูหน้าฟาร์มจะปรับขึ้นต่อเนื่องอีก 2 สัปดาห์ ครั้งละ 4 บาท ส่งผลให้ราคาอยู่ที่ 82-88 บาท/กก. เนื่องจากคำสั่งซื้อมีเข้ามาเพิ่มขึ้น ขณะที่ “หมูเถื่อน” ในตลาดเริ่มลดลง รวมถึงการระบาดของโรค ASF ในเวียดนามที่ทำให้ราคาทั้งเอเชียสูงขึ้น แต่ราคาจำหน่ายที่จะปรับใหม่ยังคงต่ำกว่าต้นทุนการผลิต


นายนิพัฒน์ เนื้อนิ่ม อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะทำงานจัดการแก้ปัญหาหมูเถื่อน กล่าวว่า สถานการณ์ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มมีแนวโน้มดีขึ้น หลังจากที่ทรงตัวในระดับต่ำมานาน เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ปรับขึ้นกิโลกรัมละ 4 บาท ส่งผลให้ราคาอยู่ที่ 74-79 บาท/กิโลกรัม ขึ้นอยู่แต่ละพื้นที่ คาดว่าราคาจะทยอยขยับขึ้นอีกสัปดาห์ละ 4 บาท/กิโลกรัม ต่อเนื่องอีก 2 สัปดาห์

สำหรับสาเหตุที่ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มปรับเพิ่มขึ้น เป็นเพราะปริมาณเนื้อสุกร (supply) ส่วนเกินที่มาจาก “หมูเถื่อน” ซึ่งลักลอบนำเข้า เริ่มหมดไปจากตลาด นอกจากนี้ สุกรน้ำหนักเกินคือ 120 กิโลกรัมขึ้นไปที่ผู้เลี้ยงไม่ได้จับขาย ได้ระบายออกไปแล้ว ล่าสุดความต้องการและคำสั่งซื้อสุกรขุนหน้าฟาร์มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ กรมการค้าภายในยังหนุนให้เกษตรกรปรับราคาหน้าฟาร์มเข้าหาต้นทุน เพื่อลดความเสียหายจากสภาวะขาดทุน


ทั้งนี้ หากปรับขึ้นอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 4 บาท จากที่ปรับขึ้นเมื่อวันพระที่ 27 พฤษภาคม 2566 เฉลี่ยที่ 74-79 บาท/กิโลกรัม จะเป็น 78-84 บาท/กิโลกรัม ในวันพระ (วันวิสาขบูชา) ที่ 3 มิถุนายน 2566 แล้วปรับขึ้นอีกครั้งในวันพระที่ 11 มิถุนายน 2566 เป็น 82-88 บาท/กิโลกรัม ซึ่งจะใกล้เคียงกับระดับต้นทุนการเลี้ยงที่ 96.52 บาท มากขึ้น ส่วนการประเมินต้นทุนการผลิตสุกรของคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ต้นทุนการผลิตสุกรของคณะกรรมการนโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ (Pig Board) ในเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 98.93 บาท/กิโลกรัม

หลังจากปรับราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มรวม 3 ครั้งแล้ว จะขยับขึ้นอีกหรือไม่ ผู้เลี้ยงสุกรทุกภูมิภาคจะดูตลาดในช่วงนั้นอีกครั้ง เพื่อความเหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยมองว่าสภาวะการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ที่หนาแน่นในเวียดนามในปัจจุบันเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาสุกรมีชีวิตทั้งเอเชียสูงขึ้น โดยการส่งออกสุกรมีชีวิตไปประเทศรอบบ้านที่ราคาขยับขึ้น จะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้การปรับซัพพลายส่วนเกิน เพื่อจัดการกับราคาสุกรหน้าฟาร์มให้ใกล้เคียงกับต้นทุนทำได้ดีขึ้น

ทั้งนี้ ในการประชุมคณะทำงานจัดการแก้ปัญหาหมูเถื่อน ซึ่งประกอบด้วย กรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ครั้งล่าสุดนั้น นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร ให้ความมั่นใจว่า นับจากนี้จะไม่มี “หมูเถื่อน” เข้าประเทศอีก เพราะมาตรการที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้รัดกุมและเข้มงวดอย่างยิ่ง โดยที่ประชุมกำหนดมาตรการดำเนินการ ดังนี้


1. ต่อไปสินค้าสุกรแช่แข็งกลุ่มที่ได้รับอนุญาต เช่น เครื่องใน ตับ ไส้หมักเกลือ หนังหมู อุตสาหกรรมหนังสัตว์ แคบหมู จะต้องเข้าที่ท่าเรือแหลมฉบังเท่านั้น เพื่อง่ายในการตรวจสอบ และลดโอกาสหลุดรอดไปที่ท่าเรืออื่น

2. รายชื่อของบริษัทนำเข้าที่ถูกดำเนินคดีจากตู้คอนเทนเนอร์ตกค้าง 161 ตู้ ที่แหลมฉบังนั้น ทางสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติสามารถติดตามได้ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้เลย ซึ่งการเปิดเผยรายชื่อขึ้นอยู่กับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

3. ระเบียบมาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standard Operating Procedure-SOP) ต่างๆ นั้นทำอยู่แล้ว แต่เมื่อมีความเดือดร้อนของเกษตรกร กรมศุลกากรต้องเพิ่มความเข้มข้นจากสุ่มตรวจเดิมที่ 20% เป็น 100%

4. ตามที่สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติขอให้ขึ้นบัญชีผู้นำเข้าเนื้อสุกรที่ได้รับอนุญาตจากกรมปศุสัตว์ เข้าลักษณะต้องตรวจสอบการผ่านพิธีการแบบ Red Line ทั้งหมด จนกว่าจะจับกุมดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดลักลอบนำเข้าจนถึงที่สุด ทางกองสารวัตรฯ กรมปศุสัตว์ รับเรื่องและส่งรายชื่อให้อธิบดีกรมปศุสัตว์ลงนามเพื่อส่งต่อกรมศุลกากรแล้ว

นายนิพัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้คดี “หมูเถื่อน” เป็นคดีพิเศษที่รับผิดชอบโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว เชื่อมั่นว่าจะสามารถปราบปรามได้อย่างจริงจัง และดำเนินคดีผู้กระทำผิดทั้งขบวนการได้อย่างเด็ดขาด ตลอดจนการดำเนินคดีต่อขบวนการลักลอบนำเข้าและค้า “หมูเถื่อน” ในส่วนที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ตามที่ได้ร้องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษไว้นั้น ขอให้กระบวนการยุติธรรมพิจารณาโทษผู้กระทำความผิดต่อหน้าที่ราชการ ตามบทกำหนดโทษสูงสุด คือ ประหารชีวิต ที่กำหนดบทลงโทษไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา ลักษณะ 2 หมวด 2 ในมาตรา 148 และ 149 เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง สำหรับผู้ที่ยังกระทำ หรือคิดที่จะกระทำอีกในอนาคต ได้แก่

  • มาตรา 148 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตําแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจ หรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเอง หรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 5-20 ปี หรือจําคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 2,000-40,000 บาท หรือประหารชีวิต
  • มาตรา 149 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสําหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทําการหรือไม่กระทําการอย่างใดในตําแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 5-20 ปี หรือจําคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 2,000-40,000 บาท หรือประหารชีวิต.-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย