ราคาหมูอาจปรับขึ้นต่อเนื่องอีก 2 สัปดาห์ แต่ยังต่ำกว่าทุน

กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ คาดราคาหมูหน้าฟาร์มจะปรับขึ้นต่อเนื่องอีก 2 สัปดาห์ ครั้งละ 4 บาท ส่งผลให้ราคาอยู่ที่ 82-88 บาท/กก. เนื่องจากคำสั่งซื้อมีเข้ามาเพิ่มขึ้น ขณะที่ “หมูเถื่อน” ในตลาดเริ่มลดลง รวมถึงการระบาดของโรค ASF ในเวียดนามที่ทำให้ราคาทั้งเอเชียสูงขึ้น แต่ราคาจำหน่ายที่จะปรับใหม่ยังคงต่ำกว่าต้นทุนการผลิต


นายนิพัฒน์ เนื้อนิ่ม อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะทำงานจัดการแก้ปัญหาหมูเถื่อน กล่าวว่า สถานการณ์ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มมีแนวโน้มดีขึ้น หลังจากที่ทรงตัวในระดับต่ำมานาน เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ปรับขึ้นกิโลกรัมละ 4 บาท ส่งผลให้ราคาอยู่ที่ 74-79 บาท/กิโลกรัม ขึ้นอยู่แต่ละพื้นที่ คาดว่าราคาจะทยอยขยับขึ้นอีกสัปดาห์ละ 4 บาท/กิโลกรัม ต่อเนื่องอีก 2 สัปดาห์

สำหรับสาเหตุที่ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มปรับเพิ่มขึ้น เป็นเพราะปริมาณเนื้อสุกร (supply) ส่วนเกินที่มาจาก “หมูเถื่อน” ซึ่งลักลอบนำเข้า เริ่มหมดไปจากตลาด นอกจากนี้ สุกรน้ำหนักเกินคือ 120 กิโลกรัมขึ้นไปที่ผู้เลี้ยงไม่ได้จับขาย ได้ระบายออกไปแล้ว ล่าสุดความต้องการและคำสั่งซื้อสุกรขุนหน้าฟาร์มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ กรมการค้าภายในยังหนุนให้เกษตรกรปรับราคาหน้าฟาร์มเข้าหาต้นทุน เพื่อลดความเสียหายจากสภาวะขาดทุน


ทั้งนี้ หากปรับขึ้นอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 4 บาท จากที่ปรับขึ้นเมื่อวันพระที่ 27 พฤษภาคม 2566 เฉลี่ยที่ 74-79 บาท/กิโลกรัม จะเป็น 78-84 บาท/กิโลกรัม ในวันพระ (วันวิสาขบูชา) ที่ 3 มิถุนายน 2566 แล้วปรับขึ้นอีกครั้งในวันพระที่ 11 มิถุนายน 2566 เป็น 82-88 บาท/กิโลกรัม ซึ่งจะใกล้เคียงกับระดับต้นทุนการเลี้ยงที่ 96.52 บาท มากขึ้น ส่วนการประเมินต้นทุนการผลิตสุกรของคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ต้นทุนการผลิตสุกรของคณะกรรมการนโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ (Pig Board) ในเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 98.93 บาท/กิโลกรัม

หลังจากปรับราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มรวม 3 ครั้งแล้ว จะขยับขึ้นอีกหรือไม่ ผู้เลี้ยงสุกรทุกภูมิภาคจะดูตลาดในช่วงนั้นอีกครั้ง เพื่อความเหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยมองว่าสภาวะการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ที่หนาแน่นในเวียดนามในปัจจุบันเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาสุกรมีชีวิตทั้งเอเชียสูงขึ้น โดยการส่งออกสุกรมีชีวิตไปประเทศรอบบ้านที่ราคาขยับขึ้น จะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้การปรับซัพพลายส่วนเกิน เพื่อจัดการกับราคาสุกรหน้าฟาร์มให้ใกล้เคียงกับต้นทุนทำได้ดีขึ้น

ทั้งนี้ ในการประชุมคณะทำงานจัดการแก้ปัญหาหมูเถื่อน ซึ่งประกอบด้วย กรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ครั้งล่าสุดนั้น นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร ให้ความมั่นใจว่า นับจากนี้จะไม่มี “หมูเถื่อน” เข้าประเทศอีก เพราะมาตรการที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้รัดกุมและเข้มงวดอย่างยิ่ง โดยที่ประชุมกำหนดมาตรการดำเนินการ ดังนี้


1. ต่อไปสินค้าสุกรแช่แข็งกลุ่มที่ได้รับอนุญาต เช่น เครื่องใน ตับ ไส้หมักเกลือ หนังหมู อุตสาหกรรมหนังสัตว์ แคบหมู จะต้องเข้าที่ท่าเรือแหลมฉบังเท่านั้น เพื่อง่ายในการตรวจสอบ และลดโอกาสหลุดรอดไปที่ท่าเรืออื่น

2. รายชื่อของบริษัทนำเข้าที่ถูกดำเนินคดีจากตู้คอนเทนเนอร์ตกค้าง 161 ตู้ ที่แหลมฉบังนั้น ทางสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติสามารถติดตามได้ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้เลย ซึ่งการเปิดเผยรายชื่อขึ้นอยู่กับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

3. ระเบียบมาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standard Operating Procedure-SOP) ต่างๆ นั้นทำอยู่แล้ว แต่เมื่อมีความเดือดร้อนของเกษตรกร กรมศุลกากรต้องเพิ่มความเข้มข้นจากสุ่มตรวจเดิมที่ 20% เป็น 100%

4. ตามที่สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติขอให้ขึ้นบัญชีผู้นำเข้าเนื้อสุกรที่ได้รับอนุญาตจากกรมปศุสัตว์ เข้าลักษณะต้องตรวจสอบการผ่านพิธีการแบบ Red Line ทั้งหมด จนกว่าจะจับกุมดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดลักลอบนำเข้าจนถึงที่สุด ทางกองสารวัตรฯ กรมปศุสัตว์ รับเรื่องและส่งรายชื่อให้อธิบดีกรมปศุสัตว์ลงนามเพื่อส่งต่อกรมศุลกากรแล้ว

นายนิพัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้คดี “หมูเถื่อน” เป็นคดีพิเศษที่รับผิดชอบโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว เชื่อมั่นว่าจะสามารถปราบปรามได้อย่างจริงจัง และดำเนินคดีผู้กระทำผิดทั้งขบวนการได้อย่างเด็ดขาด ตลอดจนการดำเนินคดีต่อขบวนการลักลอบนำเข้าและค้า “หมูเถื่อน” ในส่วนที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ตามที่ได้ร้องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษไว้นั้น ขอให้กระบวนการยุติธรรมพิจารณาโทษผู้กระทำความผิดต่อหน้าที่ราชการ ตามบทกำหนดโทษสูงสุด คือ ประหารชีวิต ที่กำหนดบทลงโทษไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา ลักษณะ 2 หมวด 2 ในมาตรา 148 และ 149 เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง สำหรับผู้ที่ยังกระทำ หรือคิดที่จะกระทำอีกในอนาคต ได้แก่

  • มาตรา 148 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตําแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจ หรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเอง หรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 5-20 ปี หรือจําคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 2,000-40,000 บาท หรือประหารชีวิต
  • มาตรา 149 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสําหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทําการหรือไม่กระทําการอย่างใดในตําแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 5-20 ปี หรือจําคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 2,000-40,000 บาท หรือประหารชีวิต.-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

มวลชนไม่ท้อ! ฝนถล่มกางร่มฟังปราศรัย

28 มิ.ย.- ไม่ท้อ! อนุสาวรีย์ชัยฯ ฝนตกหนัก มวลชนกางร่มฟังปราศรัย ปักหลักชุมนุมต่อเนื่อง เตรียมร่วมกิจกรรมร้องเพลงชาติไทย เวลา 18.00 น. วันนี้ (28 มิ.ย. 68) เวลาประมาณ 16.30 น. ฝนตกหนักบางช่วงในพื้นที่ชุมนุมของกลุ่ม “รวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตยไทย” บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขณะที่ แกนนำสลับกันขึ้นเวทีปราศรัย พร้อมประกาศ 3 ข้อเรียกร้องหลัก คือ ให้นายกรัฐมนตรีลาออก พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว และประชาชนลุกขึ้นปกป้องอธิปไตย สำหรับไฮไลท์ช่วงเย็นวันนี้ หลังร้องเพลงชาติ เวลา 18.00 น.​ จะมีการอ่านแถลงการณ์และมีแกนนำขึ้นปราศรัยใหญ่ ก่อนยุติการชุมนุมในเวลา 21.00 น. -สำนักข่าวไทย

แนวร่วมเริ่มปราศรัย! จนท.เข้มปลอดภัย-จราจรหนึบ

กทม. 28 มิ.ย.- กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ปักหลักชุมนุมอนุสาวรีย์ชัยฯ จับตาไฮไลท์ช่วงเย็นแกนนำขึ้นปราศรัย ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด กิจกรรมเวทีชุมนุมกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตยไทย​ เริ่มตั้งแต่ 10.00 น.​ เป็นพิธีทางศาสนาอุทิศส่วนกุศลให้กับวีรบุรุษชาติทหาร​ ก่อนที่ในช่วงเที่ยงจะมีการปราศรัยจากแนวร่วมผู้ชุมนุม ขึ้นสลับสับเปลี่ยนกัน​ แต่ไฮไลท์ของกิจกรรมจะอยู่ช่วงเย็น​ หลังร้องเพลงชาติ 18.00 น.​ จะมีการอ่านแถลงการณ์ จากนั้นระดับแกนนำจะสลับกันขึ้นปราศรัย อาทิ นายสนธิ​ ลิ้มทองกุล​ นายปานเทพ​ พัวพงษ์พันธ์ นายสมชาย​ แสวงการ นายเจษ โทณวณิก​ นายนิธร​ ล้ำเหลือ และปิดท้ายด้วยนายจตุพร​ พรหมพันธุ์ โดยจะปิดเวทีเวลา 21.00 น. นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. นำคณะเดินทางจากสะพานชมัยมารุเชฐ แถวทำเนียบรัฐบาล มาสมทบที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พร้อมกล่าวถึงภาพรวมการชุมนุม โดยยอมรับว่าได้รับรายงานเรื่องการตั้งด่านสกัด เพื่อไม่ให้เดินทางเข้ามาร่วม พร้อมย้ำการชุมนุมครั้งนี้เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ ไม่ใช่การชุมนุมทางการเมือง แต่เป็นการชุมนุมของบ้านเมือง รักประเทศ และย้ำว่าการชุมนุมไม่มีท่อน้ำเลี้ยงจากกลุ่มองค์กรใด แต่เป็นท่อน้ำเลี้ยงที่มาจากเงินบริจาคของประชาชน ขณะเดียวกันไม่กังวลกลุ่มที่จะมาป่วน ด้าน […]

น้ำท่วมพญาเม็งรายเริ่มลด แต่ชาวบ้านยังเดือดร้อน

เชียงราย 28 มิ.ย.- เริ่มคลี่คลาย! สถานการณ์น้ำท่วมพญาเม็งราย จ.เชียงราย เช้านี้ระดับน้ำลดลงแล้วกว่า 80% แต่ชาวบ้านยังเดือดร้อน ไม่สามารถประกอบอาหารเองได้ สถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ตำบลแม่เปา อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย เช้าวันนี้ เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำลดลงไปแล้วกว่า 80% เหลือเพียงคราบโคลนจำนวนมากที่ยังปกคลุมที่อยู่อาศัยและถนนหลายสาย เช้านี้มีฝนตกโปรยปรายต่อเนื่อง  ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ยังคงเดือดร้อน ไม่สามารถประกอบอาหารเองได้ เนื่องจากขาดแคลนสิ่งจำเป็น เช่น น้ำสะอาด อุปกรณ์ทำครัว และแหล่งพลังงาน จึงขอรับการสนับสนุนอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงฟื้นฟูพื้นที่ โดยก่อนหน้านี้มณฑลทหารบกที่ 37 ลงพื้นที่แจกจ่ายถุงยังชีพและสิ่งของจำเป็นเบื้องต้นแล้ว ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากเกิดฝนตกหนักอีกครั้ง -สำนักข่าวไทย

นายกฯ บินเชียงรายตรวจน้ำท่วม ไม่กังวลม็อบขับไล่ ชี้เป็นสิทธิ

บน.6 ดอนเมือง 28 มิ.ย.- นายกฯ นำคณะตรวจน้ำท่วมเชียงราย ไม่กังวลม็อบชุมนุมขับไล่ ชี้เป็นสิทธิ ยินดีคุยด้วยสันติวิธี เช้านี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ หลังฝนตกหนัก ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และให้กำลังใจกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้รับสัญชาติไทย ก่อนออกเดินทาง นายกรัฐมนตรีได้ตอบคำถามสื่อมวลชน กรณีกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน นัดชุมนุมใหญ่ วันนี้ ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เรียกร้องให้ตนเองลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า ได้ขอให้หน่วยงานความมั่นคงช่วยดูแลให้สงบเรียบร้อย ผู้สื่อข่าวถามว่ามีรายงานอะไรที่น่าเป็นห่วงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ยังไม่มีอะไรนะคะ” ก่อนย้อนถามว่า “มีอะไรแล้วหรือคะ” เป็นปกติ ก็เป็นสิทธิอยู่แล้ว ซึ่งได้บอกให้ดูให้เรียบร้อย ไม่อยากให้มีความรุนแรง ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าคิดว่าการชุมนุมนี้จะบานปลายหรือไม่ เพราะเป็นการรวมพลังกันของหลายกลุ่ม นายกฯ กล่าวว่า ก็หวังว่าจะไม่มี ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า ธงของการชุมนุมครั้งนี้คือต้องการให้นายกรัฐมนตรี ลาออก […]