ชัยภูมิ 11 มิ.ย.-ปีนี้กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าเพิ่มหมู่บ้านเกษตรอินทรีย์ที่ นครพนม ชัยภูมิ ลพบุรี และเชียงใหม่
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปีนี้ กระทรวงพาณิชย์มีแผนจัดตั้งหมู่บ้านเกษตรอินทรีย์เพิ่มอีก 4 แห่ง ได้แก่ จังหวัดนครพนม ชัยภูมิ ลพบุรี และจังหวัดเชียงใหม่ และได้ลงพื้นที่สำรวจและประเมินภาพรวมการจัดตั้งไปมากแล้ว เชื่อว่าจะสามารถจัดตั้งเป็นหมู่บ้านอินทรีย์ (Organic Village) ได้ครบตามเป้าหมายโดยในช่วงที่ผ่านมาได้นำร่องหมู่บ้านตัวอย่างไปแล้ว 2 แห่ง ได้แก่หมู่บ้านหนองสะโน ตำบลดอนนางหงส์ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม และหมู่บ้านหนองหอย ตำบลกุดชุมแสง อำเภอหนองบัวแดง และในการนำคณะลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ เมื่อวานนี้ ( 10 มิ.ย.) ได้มีการหารือร่วมกับภาคเอกชนและกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อินทรีย์ อำเภอหนองบัวแดง และอำเภอเกษตรสมบูรณ์ ที่จะร่วมกันเดินหน้าตามแนวนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่จะสนับสนุนชัยภูมิโมเดล “Organic Valley” ให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม ซึ่งทุกฝ่ายพร้อมที่ร่วมมือกันผลักดันและจัดตั้งให้เกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าวและพื้นที่ในจังหวัดเป้าหมายที่เหลืออยู่กันต่อไป
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้แผนการส่งเสริมภาคธุรกิจดังกล่าวเป็นแผนส่งเสริมยั่งยืนในระยะยาว กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาตลาดสินค้าอินทรีย์ของกระทรวงพาณิชย์ ปี 2560 – 2564 ภายใต้วิสัยทัศน์ ไทยเป็นผู้นำด้านการผลิต การค้าและการบริโภคสินค้าอินทรีย์ในภูมิภาคอาเซียน โดยกำหนดไว้ 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1.การสร้างการรับรู้ของผู้เกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่อุปทาน 2.ผลักดันมาตรฐานและระบบการรับรองเกษตรอินทรีย์ 3.พัฒนาและขยายตลาดสินค้าและบริการอินทรีย์ และ 4.พัฒนาสร้างมูลค่าสินค้าและบริการอินทรีย์โดยเห็นว่าสินค้าเกษตรอินทรีย์เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย จึงเชื่อว่าแนวทางการจัดตั้งหมู่บ้านเกษตรอินทรีย์ตามจังหวัดต่างๆได้จะส่งผลให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเกษตรอินทรีย์ของอาเซียน และในกลุ่ม CLMVT ได้ ซึ่งจะผ่านความร่วมมือโครงการสร้างเครือข่ายเกษตรกรอินทรีย์ในกลุ่มประเทศ CLMVT ( CLMVT Organic Farmer Network Development Programme) เพื่อสร้างเครือข่ายระหว่างกลุ่มเกษตรกรอินทรีย์ของไทยกับเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่จะร่วมกันส่งเสริมแลกเปลี่ยนความรู้ต่อเกษตรอินทรีย์ของกลุ่ม CLMVT ให้ดีขึ้นด้วยการจัดประชุมเชิงสัมมนาและลงมือปฏิบัติในแปลงสาธิต และการเรียนรู้ระบบบริหารจัดการอีกด้วย และอีกโครงการ คือ ความร่วมมือกับภาคเอกชนไทย และเอกชนกลุ่มประเทศอาเซียนจัดตั้งสหพันธ์เกษตรอินทรีย์อาเซียน ( ASEAN Organic Federation) ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยจะมีการหารือกันในครั้งแรกระหว่างจัดงาน Organic & Natural Expo วันที่ 27-30 กรกฎาคม 2560 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้มีการสำรวจสินค้าเกษตรอินทรีย์เป็นตลาดที่มีอัตราการขยายตัวสูงผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญรักษาสุขภาพและหันมาบริโภคสินค้าดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยมูลค่าตลาดเกษตรอินทรีย์ทั่วโลกมีมากถึง 72,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเป็นเงินบาทกว่า 2.3 ล้านล้านบาท ซึ่งมีอัตราการขยายตัวต่อปีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 โดยประเทศไทยมูลค่าตลาดเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งมีมูลค่ากว่า 2,300 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตร้อยละ 10 ต่อปี โดยในปีที่ผ่านมาประเทศไทยส่งออกสินค้าเกษตรอินทรีย์ไปตลาดต่างประเทศปีละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท โดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่น สหรัฐ และคาดหวังกรอบความร่วมมือดังกล่าวสินค้าเกษตรอินทรีย์ไทยจะเพิ่มมากขึ้นในตลาด CLMVT ได้อย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย