กรุงเทพฯ 24 พ.ค. – ส.อ.ท. เผยยอดผลิตรถยนต์ 4 เดือน ทะลุ 6.2 แสนคัน ห่วงทั้งปีหลุดเป้า เหตุตั้งรัฐบาลช้า ขณะส่งออกโต 18.38% มูลค่ากว่า 2.1 แสนล้านบาท ขณะที่ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าเดือน เม.ย.พุ่ง 882%
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เปิดเผยว่า ยอดการผลิตรถยนต์ในเดือน เมษายน 2566 มีทั้งสิ้น 117,636 คัน ลดลงจาก ช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 0.13 เนื่องจากมีวันหยุดยาว แต่ในช่วง 4 เดือนแรกของปี มียอดผลิตรวมจำนวนทั้งสิ้น 625,423 คัน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.61 แต่ทั้งนี้ต้องจับตาว่าการผลิตจะทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 1,950,000 คันหรือไม่ เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลที่ยังไม่แล้วเสร็จอาจมีผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการผลิตภายในประเทศ เนื่องจากสถาบันการเงินจะปล่อยสินเชื่อยากขึ้น จึงมีผลต่อยอดการผลิตและยอดขายในประเทศ โดยยอดขายรถยนต์ภายในประเทศช่วงเดือนเมษายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 59,530 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 6.14 จากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน เนื่องจากหนี้ครัวเรือนอยู่ในอัตราสูงและอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น และในช่วง 4 เดือนแรกของปี มียอดขาย 276,603 คัน ลดลงร้อยละ 6.11 และสำหรับการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือนเมษายน 2566 ส่งออกได้ 79,940 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 43.53 เพราะผลิตรถยนต์นั่งและรถกระบะเพื่อส่งออกได้เพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย ออสเตรเลีย ตะวันออกออกกลาง แอฟริกา และยุโรป โดยมีมูลค่าการส่งออกกว่า 65,482.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.40 และในช่วง 4 เดือนแรกของปี ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป มีจำนวน 353,632 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.38 คิดเป็นมูลค่ากว่า 218,286.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.88
ขณะที่ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์นั่งไม่เกิน 7 คนในเดือนเมษายน 2566 จำนวน 3,820 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปี 2565 ถึงร้อยละ 882 และมีสัดส่วนถึงร้อยละ 7.73 ของยอดจดทะเบียนทั้งหมด
รถยนต์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊กมีจำนวน 782 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันของปี 2565 ร้อยละ 6.57 และมีสัดส่วนร้อยละ 1.58 ของยอดจดทะเบียนทั้งหมด
รถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมมีจำนวน 6,160 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.57 จากเดือนเดียวกันของปี 2565 และมีสัดส่วนร้อยละ 12.47 ของยอดจดทะเบียนรวม ซึ่งเห็นได้ว่ายอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยมีสัดส่วนสูงเทียบเคียงกับประเทศอื่นๆ .-สำนักข่าวไทย