ราคาพริกที่ขอนแก่นแพง เหตุแรงงานไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

นนทบุรี 23 พ.ค.-รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ติดตามราคาพริกในพื้นที่ขอนแก่น ปรับตัวสูงขึ้นช่วงกลางเดือน พ.ค. เป็นกิโลกรัมละ 150 บาทจากเดิมกิโลกรัมละ 80 บาท เหตุแรงงานเก็บพริกขี้หนูจินดาในพื้นที่ได้หยุดไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และมีฝนตกต่อเนื่อง แต่ขณะนี้ราคาปรับลงมาเหลือกิโลกรัมละ 60-80 บาทแล้ว

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบสถานการณ์สินค้าพริก กรณีมีการนำเสนอข่าวราคาพริกในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 150 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 80 บาท ซึ่งส่งผลต่อต้นทุนของพ่อค้าแม่ค้า โดยเฉพาะร้านส้มตำ ที่ต้องใช้พริกเป็นวัตถุดิบหลักในการประกอบอาหาร

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดขอนแก่น ได้ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบสถานการณ์ราคาพริกในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น พบว่าสาเหตุที่ราคาพริกขี้หนูจินดาในพื้นที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วง 2 – 3 วันที่ผ่านมา เนื่องจากผลผลิตพริกในตลาดจังหวัดขอนแก่นส่วนใหญ่เป็นผลผลิตในพื้นที่ ซึ่งตามข่าวเป็นช่วงที่แรงงานเก็บพริกขี้หนูจินดาในพื้นที่ได้หยุดไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ประกอบกับมีฝนตกอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ แรงงานจึงไม่สามารถออกไปเก็บพริกในสวนได้ อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสถานการณ์ พบว่า ปัจจุบันราคาขายปลีกพริกขี้หนูจินดา (แดง) ณ ตลาดบางลำพูและตลาดศรีเมืองทองจังหวัดขอนแก่น ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยราคาปรับตัวลดลงเหลือกิโลกรัมละ 60 – 80 บาท และปริมาณพริกที่เข้าสู่ตลาดในภาพรวมมีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค 

กรมฯ ได้ติดตามภาวะการค้าสินค้าพืชผักในตลาดค้าส่ง-ปลีกขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่า พืชผักหลายชนิดมีปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดมากขึ้นตามฤดูกาล ส่งผลให้ราคาจำหน่ายปรับตัวลดลงจากช่วงที่ผ่านมา เช่นมะเขือเจ้าพระยาราคา ลดลงเหลือ กก.ละ 25-35 บาท (สัปดาห์ก่อน กก.ละ 35-45 บาท) ผักคะน้าจาก ลดลงเหลือกก.ละ 45-50 บาท (สัปดาห์ก่อน กก.ละ 50-55 บาท) และแตงกวา ลดลงเหลือ กก.ละ 25-30 บาท (สัปดาห์ก่อนกก.ละ 30-35 บาท) 

เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด จะติดตามสถานการณ์ราคาพืชผักอย่างใกล้ชิด และเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน และห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยเด็ดขาด หากตรวจพบจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการจำหน่ายสินค้าหรือบริการที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด.-สำนักข่าวไทย