ก.ล.ต. สั่ง STARK จัดส่ง special audit ใน 30 วัน

กรุงเทพฯ 17 พ.ค.- ก.ล.ต. สั่งการ STARK ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงและจัดให้มีการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษภายใน 30 วันหลังผู้สอบบัญชีตรวจพบการทำธุรกรรมที่อาจมีความผิดปกติ


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่าได้สั่งการให้บริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) ชี้แจงข้อเท็จจริงและความคืบหน้าในการดำเนินการต่าง ๆ รวมทั้งจัดให้มีการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special audit) เกี่ยวกับการขาย ลูกหนี้ รายการบัญชีอื่นที่เกี่ยวข้อง และการรับโอนเงินของกลุ่มบริษัทโดยให้นำส่งคำชี้แจงภายใน 7 วัน และนำส่งผลการตรวจสอบเพิ่มเติมภายใน 30 วัน พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วย

สืบเนื่องจาก STARK ไม่สามารถจัดทำและส่งงบการเงินงวดประจำปี 2565 ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยต่อมา ก.ล.ต. พบข้อเท็จจริงว่า ผู้สอบบัญชีของ STARK ได้ตรวจพบการทำธุรกรรมที่อาจมีความผิดปกติ โดย STARK อยู่ระหว่างให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงตามประเด็นข้อสังเกตของผู้สอบบัญชีเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ (special audit) อย่างไรก็ดี เนื่องจากกรณีข้างต้นอาจทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความถูกต้องของงบการเงินรวมของ STARK และอาจมีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหลักทรัพย์หรือต่อการตัดสินใจลงทุน ก.ล.ต. จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 58 (2) แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 สั่งการให้บริษัทชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องและความคืบหน้าของการดำเนินการต่าง ๆ ต่อ ก.ล.ต. ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2566


นอกจากนี้ เนื่องจากขอบเขตการตรวจสอบ special audit ที่ผู้เชี่ยวชาญอยู่ระหว่างการตรวจสอบอาจยังไม่เพียงพอที่จะสามารถสรุปผลกระทบต่อความถูกต้องของงบการเงินรวมของ STARK หรือการทำธุรกรรมที่อาจไม่เหมาะสมได้ ก.ล.ต. จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 58 (3) แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน สั่งการให้ STARK ขยายขอบเขตการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special audit) เพิ่มเติม โดยทีมผู้เชี่ยวชาญที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ special audit หรือให้ผู้สอบบัญชีรายอื่นที่สังกัดสำนักงานสอบบัญชีหนึ่งในสำนักงานสอบบัญชีขนาดใหญ่ ยกเว้นสำนักงานสอบบัญชีที่เคยเป็นผู้สอบบัญชีของ STARK ในปี 2564 และให้นำส่งรายงานผลการตรวจสอบต่อ ก.ล.ต. ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2566

ทั้งนี้ การนำส่งคำชี้แจงข้อเท็จจริงและผลตรวจสอบเพิ่มเติมต่อ ก.ล.ต. ตามที่กล่าวข้างต้น ให้ดำเนินการพร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วย .-สำนักข่าว​ไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

นายกฯพบสีจิ้นผิง

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง”

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง” ย้ำความสัมพันธ์ทางการทูตและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ด้านจีนหนุนไทยมีบทบาทในเวที ระดับโลกและภูมิภาค

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟเมื่อวาน

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ขอทำไปประเมินไป อย่าทำให้เป็นประเด็น มองเป็นสิทธิฝั่งเมียนมาซื้อไฟฟ้าจากลาว ลั่นเดี๋ยวต้องคุยอีก ย้ำตัดไฟครั้งนี้ไม่ได้ใช้อารมณ์ รู้อยู่กระทบเศรษฐกิจบ้าง แต่แค่ 0.1%

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี