อัจฉริยะนำสมาคมหมูร้อง DSI ปราบขบวนการหมูเถื่อน

กรุงเทพฯ 16 พ.ค.- “อัจฉริยะ” นำสมาคมหมูและเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูจากทุกภูมิภาค​เข้าร้อง DSI ให้รับคดีปราบปรามขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนเป็นคดีพิเศษ เผยแจ้งเอาผิดเจ้าหน้าที่ทั้งที่ด่านนำเข้าและผู้บริหารส่วนกลางกว่า 50 คนฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบและทุจริต ย้ำทำเป็นขบวนการใหญ่ สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อผู้เลี้ยงหมูทั่วประเทศ 


นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติและผู้แทนเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรจากทุกภูมิภาค​เข้าร้องทุกข์ต่อพ.ต.ต. สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อให้รับคดีการปราบปรามขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนเป็นคดีพิเศษ โดยระบุว่า ผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศเดือดร้อนจากการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนเป็นอย่างมาก โดยหมูเถื่อนที่ลักลอบนำเข้ามีความเสี่ยงที่จะนำโรคระบาดสัตว์เข้ามาสู่ประเทศไทยและทำลายโครงสร้างราคาที่เกษตรกรจะจำหน่ายได้เนื่องจากราคาต่ำกว่าต้นทุนการเลี้ยงในประเทศ

ทั้งนี้สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติเป็นตัวแทนยื่นร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนที่สถานีตำรวจภูธรแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรีซึ่งเป็นท้องที่ของด่านศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังที่มีตู้เย็นคอนเทนเนอร์บรรจุหมูเถื่อนตกค้าง 161 ตู้น้ำหนักรวม 4.5 ล้านกิโลกรัม มูลค่า 225 ล้านบาท


นอกจากนี้สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติยังนำข้อมูลตัวเลขการนำเข้าปลาแช่แข็งปี 2565 ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดโดยเมื่อตรวจสอบในปี 2562 2563 และ 2564 ปริมาณนำเข้าใกล้เคียงกัน แต่ในปี 2565 พบว่า การนำเข้าปลาแช่แข็งที่เพิ่มขึ้นเป็นรวม 77,393 ล้านบาท เปรียบเทียบแล้ว เพิ่มขึ้นกว่า 30% สวนทางกับข้อมูลของสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทยที่ระบุว่า การนำเข้าปลาแช่แข็งในปี 2565 ลดลงกว่าปีก่อนหน้า 2% นอกจากนี้ยังพบว่า การนำเข้าปลาแช่แข็งตามข้อมูลการผ่านด่านศุลกากร พบว่า ปริมาณที่เพิ่มขึ้นมาจากประเทศผู้ส่งออกเนื้อหมูหลักของโลกเช่น จากบราซิลเพิ่มขึ้น 14 เท่า สเปน 8 เท่า ฝรั่งเศส 5 เท่า จึงสงสัยว่า เป็นหมูแช่แข็ง (HS Code 0203) แต่แสดงพิกัดบันทึกว่าเป็นปลาแช่แข็ง (HS Code 0303) 

ผู้แทนสมาคมผู้เลี้ยงสุกรกล่าวว่า จากการที่สมาคมและกลุ่มผู้เลี้ยงหมูรวมตัวกันที่หน้าทำเนียบรัฐบาล จนเป็นผลให้ได้พบกับผู้บริหารกรมศุลกากร ทางกรมศุลกากรไม่ได้ปฏิเสธข้อมูลปริมาณการนำเข้าปลาแช่แข็งที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวแต่ระบุว่า จะปรับปรุงขั้นตอนการปฏิบัติพิธีการนำเข้าสินค้าทางเรือ จากปกติการตรวจปล่อยสินค้าจะมีกลุ่มใบขนสินค้าเป็น 2 กลุ่มคือ ให้เปิดตรวจ (Red Line) หรือให้ยกเว้นการตรวจ (Green Line) โดยจะจัดกลุ่มอาหารแช่แข็ง(frozen food) ที่จะผ่านพิธีศุลกากร เข้าอยู่ในกลุ่ม Red Line หรือต้องเปิดตรวจทั้งหมด จึงคาดว่า หมูเถื่อนทะลักเข้าไทยได้เป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมาเป็นเพราะถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม Green Line นั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีคำกล่าวอ้างของผู้บริหารบริษัทให้เช่าตู้เย็นคอนเทนเนอร์แห่งหนึ่งที่มีตู้ตกค้างว่า มีเนื้อหมูที่ติดโรคและสำแดงเอกสารเท็จผ่านระบบคอมพิวเตอร์ผ่านท่าเรือแหลมฉบังและอื่นๆ 


นายอัจฉริยะกล่าวว่า แม้กรมศุลกากรจะเข้าร้องต่อกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางให้เอาผิดผู้นำเข้าหมูเถื่อน แต่ไม่มั่นใจว่า จะนำหลักฐานไปมอบให้ตำรวจทั้งหมด เนื่องจากขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนเป็นขบวนการใหญ่อาจโยงใยกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ดังนั้นจึงต้องการร้อง DSI ให้รับเป็นคดีพิเศษเพื่อให้ตรวจสอบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยต้นน้ำ DSI มีอำนาจสอบสวนถึงต่างประเทศต้นทางหมูเถื่อน ผู้ส่งออกและผู้นำเข้า กลางน้ำ สามารถตรวจสอบการทุจริตแก้ไขข้อมูลระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งระบบ Green Line กับ Manifest หรือรายการสินค้าที่บริษัทเรือในต่างประเทศต้องออกอย่างเข้มงวดและถูกต้อง ส่วนปลายน้ำ DSI มีกองภาษีที่จะตรวจสอบการเสียภาษีและเลี่ยงภาษีได้ 

สำหรับวันนี้ร้องให้ DSI เอาผิดทั้งเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรจนถึงผู้บริหารส่วนกลาง ทั้งฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่กระทำการทุจริต รวมถึงเอาผิดชิปปิ้งและบริษัทผู้นำเข้าที่สำแดงเท็จรวมกว่า 50 คน

ล่าสุดราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มอยู่ที่ 70-79 บาทต่อกิโลกรัม​ตามแต่ละภูมิภาค แต่จากการประชุมเพื่อคาดการณ์ต้นทุนการผลิตเฉลี่ยไตรมาสที่ 2 ปี 2566 ของคณะอนุกรรมการต้นทุนการผลิตสุกร คณะกรรมการนโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ประชุมพบว่า ต้นทุนการผลิตเฉลี่ยไตรมาสที่ 2 ปี 2566 อยู่ที่ 96.52 บาทต่อกิโลกรัม​ ซึ่งผู้เลี้ยงยังขาดทุน แต่ค่าเฉลี่ยต้นทุนไตรมาสที่ 2 ลดลงจากค่าเฉลี่ยไตรมาส 1 ปรับปรุงที่ 100.99 บาทต่อกิโลกรัม เป็นผลมาจากต้นทุนลูกสุกรพันธุ์ปรับตัวลงตามราคาสุกรขุนที่มีราคาลดลงกว่า 30% จากราคาต้นทุนของไตรมาสที่ 4 ปี 2565 และไตรมาส 1 ปี 2566

นายสมพร กมลพรสิน อนุกรรมการซึ่งเป็นผู้แทนจากสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติระบุว่า การคาดการณ์ต่างๆ ที่คณะอนุกรรมการร่วมทำงานแต่ละไตรมาส เป็นเพียงแค่ต้นทุน แต่ราคาตลาดที่ผ่านมาไม่สะท้อนต้นทุนแต่ประการใดเพราะปัจจุบันราคาตลาดสุกรขุนต่ำกว่าต้นทุนกว่า 30% โดยราคาจำหน่ายสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มยังคงได้รับแรงกดดันจาก Supply ส่วนเกินในตลาด ในขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ ยังไม่มีทางท่าทีที่จะอ่อนตัวลง.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% ไม่พอใจเข้มปราบแก๊งคอลฯ

กระทรวงวัฒนธรรม 26 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดใจ ขอคนไทยรักกัน หันไปทะเลาะกับคนนอกประเทศก่อน ชี้ขัดแย้งกันเองยังรอได้ แฉกัมพูชาไม่พอใจไทยร่วมมือลาว – เมียนมา ปราบคอลเซ็นเตอร์ เผยสื่อนอกยังตั้งข้อสังเกต “กพช.” สั่งปิด รร.ยิงวันแรก เหมือนรู้ล่วงหน้าจะมีการรบ ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมติดตามมาตรการการรับมือ และช่วยช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 4 จังหวัด ที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยนางสาวแพทองธารได้ยืนยันแถลงการณ์ของรัฐบาล ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แถลงไปเมื่อวานนี้ ที่ระบุว่ากัมพูชาถือว่าเป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง วิธีการต่าง ๆ ขัดต่อหลักสันติวิธีของกฎหมายระหว่างประเทศ และขัดหลักมนุษยธรรมที่ได้ปฏิบัติมาตลอด สถานการณ์ความรุนแรง เป็นสิ่งที่รัฐบาลได้ย้ำตลอดว่าไม่อยากให้เกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุด คือชีวิตของประชาชน เป็นสิ่งที่เรายึดถือ และพยายามไม่ให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อ จนฝ่ายกัมพูชาได้ยิงก่อน ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา นางสาวแพทองธารยังกล่าวว่า มีสำนักข่าวต่างประเทศตั้งข้อสังเกตว่า จริงๆ แล้วเรามีหลักฐาน มีดิจิทัลฟุตปริ้นท์ที่สามารถทำให้เห็นว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน และมีการตั้งข้อสังเกตว่าในวันนั้นนักเรียนของเราที่อยู่ชายแดนไปโรงเรียนตามปกติ […]

“เสธ.เบิร์ด” ชี้เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” ถือเป็นภัยคุกคาม

26 ก.ค.- “เสธ.เบิร์ด” ชี้ เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ถือเป็นภัยคุกคาม มองไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากกรณีกองทัพภาคที่ 2 เตือนเฝ้าระวังกัมพูชายิงขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. เพื่อพุ่งเป้าหมายพื้นที่ยุทธศาสตร์และที่ตั้งทหารนั้น ล่าสุด พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวว่า การขยับขีปนาวุธ PHL-03 เป็นการขู่ และถือเป็นภัยคุกคาม ดังนั้นถ้าไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากการที่กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ปฏิบัติการทางอากาศเกินกว่าเหตุนั้น เราไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สิ่งที่เราทำนี้เป็นเหตุผล เพราะฝ่ายกัมพูชา เคลื่อนกำลังจำนวนมากมาประชิดชายแดน ใช้อาวุธยิงระยะไกลทำร้ายประชาชนของไทย ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ทำให้ประชาชนชาวไทยบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากการมีภาพข่าวการเคลื่อนอาวุธยิงระยะไกล ถือว่าเป็นการข่มขู่คุกคามความมั่นคงของไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นการปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การปฏิบัติการทางอากาศของไทยทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และมีความแม่นยำ -สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านลดต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย

น่าน 26 ก.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองน่าน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายจุดยังอ่วม ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย ย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญของเมืองน่าน บริเวณถนนสุมณเทวราช ซึ่งเคยน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ แต่ตอนนี้น้ำลดลงเหลือประมาณหน้าขา เท่ากับลดไปราว 1 เมตร แต่บริเวณโดยรอบยังมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงแรงแห่งหนึ่งกลางเมืองน่าน ซึ่งสภาพภายในเต็มไปด้วยคราบโคลน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดไว้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของร้านค้าย่านนี้ เริ่มสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือที่โรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมสูงเต็มพื้นที่ 40 ไร่ บางจุดท่วมเกือบมิดหัว ตอนนี้น้ำลดแล้ว แต่ตามอาคารต่างๆ น้ำทะลักท่วมยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ผู้ป่วยใน ราว 3 ร้อยคน ยังปลอดภัย คุณหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมาเปิดบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ช่วงสายที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายใจกลางเขตเศรษฐกิจเมืองน่านด้วย -สำนักข่าวไทย