หุ้นไทยร่วงแรง ไม่มั่นใจจัดตั้งรัฐบาลใหม่ 

กรุงเทพฯ  15 พ.ค. – ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายร่วงลงต่อไปเป็นกว่า 20 จุด ไม่มั่นใจการจัดตั้งรัฐบาลใหม่กังวลผลกระทบจากนโยบายหาเสียง ทั้งค่าแรง รื้อสัญญาโรงไฟฟ้า 


หุ้นไทย เมื่อเวลา 15.52 น. ร่วง 23.71 จุด หลังหลุดแนวรับ 1,550 จุด ผลกระทบทางจิตวิทยาระยะสั้น จากความไม่มั่นใจว่าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่นำโดยพรรคก้าวไกล รวมทั้งกังวลผลกระทบจากนโยบายหาเสียงของพรรคแกนนำหลักที่จะจัดตั้งรัฐบาล ในขณะที่ช่วงเช้าปรับตัวลงกว่า 10 จุด จากแรงขายหุ้นใหญ่ (Big cap) เพื่อลดความเสี่ยงกังวลการจัดตั้งรัฐบาลที่ยังมีความไม่แน่นอน 

แม้ว่าพรรคก้าวไกลจะชนะการเลือกตั้ง และประกาศรวม 6 พรรคจัดตั้งรัฐบาล คือ พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย และพรรคเป็นธรรม ราว 309 เสียง แต่ยังไม่ถึง 376 เสียง จึงยังต้องลุ้นเสียงโหวตของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 250 เสียง ตลาดประเมินจะเห็นความชัดเจนในช่วงปลายเดือน ก.ค. ถึงต้น ส.ค. และยังต้องติดตามการรับรองผลการเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้วยว่าจะทำให้คะแนนเสียงเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่  


นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุภาพรัฐบาลใหม่ อาจมีจำนวน ส.ส. 307-370 เสียง ซึ่งเป็นระดับที่มีเสถียรภาพ น่าจะหนุนให้ทิศทางเป็นไปตาม Base Case คือปลายปี ลุ้น 1,748-1,780 จุด ถือเป็นภาพบวกในส่วนการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ในระยะกลาง อิงสถิติ SET มักบวกหลังการเลือกตั้งราว 1 สัปดาห์-1 เดือน เฉลี่ยราว 2.77% และหลังจากนั้นจะอิงพัฒนาการจัดตั้งรัฐบาลที่จะมีผลต่อเรื่องการอนุมัติงบประมาณประจำปี 2567 และความเชื่อมั่นต่อทีมเศรษฐกิจเป็นหลัก

ทั้งนี้ นโยบายหลักพรรคแกนนำก้าวไกลที่มีแนวโน้มสนับสนุนรัฐสวัสดิการ รวมถึงการเติบโตธุรกิจขนาดกลาง-เล็กกลุ่มมองบวก คือ กลุ่มหุ้นที่อิงเศรษฐกิจภายในจากการกระจายตัวของเศรษฐกิจมากขึ้น แต่เป็นจิตวิทยาลบต่อหุ้นใหญ่ที่มีการแข่งขันในอุตสาหกรรมน้อย จากทิศทางนโยบายของพรรคผู้ชนะการเลือกตั้งที่เคยให้ความเห็นไว้

ส่วนค่าแรงขั้นต่ำตามที่ก้าวไกลประกาศไว้ คือขึ้นเป็น 450 บาท ทันทีในปีนี้ เพิ่ม 33.5% จากค่าแรงปัจจุบัน นับเป็นผลกระทบด้านลบต่อกลุ่มอิงแรงงานสูง อาทิ ร้านอาหาร, รับเหมา, โรงแรม, อสังหาฯ และสถานีบริการน้ำมัน ทั้งนี้ ภายใต้สมมติฐานปรับเพิ่มตั้งแต่ปีหน้า โดยให้ปัจจัยอื่นคงที่ จึงประเมินทุกๆ 10% ที่ปรับขึ้นจะกระทบกำไรตลาดราว 2.3 พันล้านบาท การขึ้น 33.5% จะกระทบราว 7.7 พันล้านบาท กระทบกำไรตลาดต่อหุ้นน้อยกว่า 1 บาท นอกจากนี้แรงขับเคลื่อนหลักตลาดจะมาจากผลการเลือกตั้งในประเทศที่มีแนวโน้มเห็นการ 


นายธนิต โสรัตน์ ประธานกรรมการสภาที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาแรงงานแห่งชาติ ประธานสภาที่ปรึกษาพัฒนาแรงงานแห่งชาติ ก.แรงงาน กล่าวว่า ทั้งพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ประกาศเรื่องค่าแรงไว้ในช่วงหาเสียง เพราะกลุ่มลงคะแนนเป็นกลุ่มผู้ใช้แรงงานไม่ต่ำกว่า 23-24 ล้านคน แต่อยากให้ทำความเข้าใจว่าเมื่อเป็นรัฐบาลแล้วก็ต้องดูทั้งเรื่องกฏหมายที่ค่าแรงจะต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการไตรภาคี พ.ร.บ.แรงงานฯ ในขณะที่สถานประกอบการ 8.5 แสนราย ที่จ้างแรงงานกว่าร้อยละ 90 เป็นผู้ประกอบการขนาดกลาง-เล็ก และรายได้จากการส่งออกของประเทศ คิดเป็นสัดส่วนจีดีพี ร้อยละ 54 ส่วนใหญ่จ้างแรงงานเข้มข้น  

“ผลกระทบจะตามมาอีกมากหากขึ้นค่าแรงแบบฮวบๆ ทั้งแข่งขันไม่ได้ และหากขึ้นจริงอีก 6 เดือน อาจจะเห็นการย้ายฐานครั้งใหญ่ ดังนั้น หากจะขึ้นขอให้เป็นไปตามกฏหมาย มองบริบทเศรษฐกิจ และกำหนดเพดานเหมือนกับที่พรรคเพื่อไทยมองไว้ว่าอีก 5 ปี จะปรับอย่างไร เพราะหากพรรคการเมืองใช้แค่ค่าแรงงานมาจูงใจ แล้วขึ้นค่าแรงมาจริงๆ ประเทศอื่นๆ คงขึ้นค่าแรงกันหมด โดยไม่ต้องเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ซึ่งขอยกตัวอย่างค่าแรง กทม. ขั้นต่ำ 353 บาท/วัน หากขึ้นเป็น 450 บาท/วัน ทันที ค่าจ้างต่อคนก็จูงขึ้นทันที 2,900 บาท/เดือน“ นายธนิต กล่าว 

นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งนี้จะส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งแต่ละพรรคมีนโยบายด้านเศรษฐกิจที่ดีอยู่แล้ว เรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะเรืองปากท้องของประชาชน ดังนั้น เชื่อว่าไม่ว่าใครก็ตามที่มาเป็นรัฐบาลใหม่จะให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้อย่างแน่นอน

ส่วนหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าในวันนี้ปรับตัวลงรับความกังวลนโยบายรัฐบาลใหม่จะรื้อสัญญาซื้อขายไฟฟ้า โดยมุ่งเป้าหมายลดค่าไฟฟ้า โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าทำได้ยากเพราะเป็นสัญญาระหว่างเอกชนและรัฐบาลที่ดำเนินการร่วมกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จับมือปืน

ล้อมจับมือปืนอันดับ 1 ประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9

ตำรวจล้อมจับมือปืนอันดับ 1 มีประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9 มีหมายจับติดตัว 9 หมาย ทั้งคดีฆ่า รับจ้างทวงหนี้ ยิงบ้าน และค้ายาเสพติด

สู้งูจงอาง

สาวใจเด็ด! สู้งูจงอางด้วยมือเปล่าจนรอดตาย

สาวใจเด็ด! เข้าไปหาเห็ดเจองูจงอาง ถูกฉกเป็นแผลเหวอะ ตัดสินใจฮึดสู้ด้วยมือเปล่า เตะก้านคองูแล้วกระทืบซ้ำ ก่อนจับกดพื้นลากไปหาหมอพร้อมกัน ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว

บริจาคอวัยวะ

หนุ่มวัย 26 ปี บริจาคอวัยวะช่วยต่ออายุ 9 ชีวิต

ชื่นชมหนุ่มพนักงานช่วยเหลือคนไข้ รพ.ภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ บริจาคอวัยวะ แม้ต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร อายุเพียง 26 ปี แต่อวัยวะสามารถต่อชีวิตให้กับผู้อื่นได้อีก 9 ชีวิต

ข่าวแนะนำ

ไฟไหม้ “ดาราเทวี” เป็นไปได้ทั้งระบบไฟ และฝีมือคน

เจ้าหน้าที่ยังสำรวจความเสียหายและเร่งหาสาเหตุเพลิงไหม้อาคารสปาของโรงแรมดาราเทวี ซึ่งเคยเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว หรูหราที่สุดแห่งหนึ่งของไทย จนกลุ่มอาคารไม้และของสะสมวอดวายอย่างน้อย 7 หลัง ล่าสุดพบจุดที่คาดเป็นต้นเพลิงแล้ว ตำรวจระบุสาเหตุเป็นไปได้ทั้งระบบไฟฟ้าและฝีมือคน

ทองคำผันผวน 37 ครั้ง ปิดตลาดลดลง 1,750 บาท คนกังวลเริ่มขายทอง

ราคาทองผันผวนตลอดทั้งวัน 37 ครั้ง ปิดตลาดลดลง 1,750 บาท ทองรูปพรรณ 53,500 บาท คนกังวลนำทองออกมาขาย ด้านกรมการค้าภายใน ตรวจเครื่องชั่งร้านทอง หลังราคาขึ้นลงแรง

เร่งตรวจวงจรปิดหาสาเหตุรถหรูชนกัน 3 คันรวด วอดเหลือแต่ซาก

ตำรวจยังไม่ยืนยัน “ซูเปอร์คาร์-เบนซ์” ซิ่งแข่งกันมาหรือไม่ เร่งหาวงจรปิด หลังรถชนกัน 3 คัน เพลิงลุกไหม้เผาวอดซูเปอร์คาร์ “เฟอร์รารี่-เบนซ์” เหลือแต่ซาก

ผลตรวจเหล็ก สตง.รอบ 2 พบเหล็กเส้นข้ออ้อย 20 มม. “ซิน เคอ หยวน” ตกมาตรฐาน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก สตง.ถล่ม ชุดเก็บตัวอย่างเมื่อ 11 เม.ย.68 พบเหล็กเส้นข้ออ้อย 20 มม. ของ “ซิน เคอ หยวน” ตกค่ามวลต่อเมตรเหมือนเดิม ก.อุตสาหกรรม ส่งผลตรวจให้ DSI ประกอบสำนวนคดีตึก สตง.ถล่ม