กรุงเทพฯ 15 พ.ค. – ภาคเอกชนหวังตั้ง “รัฐบาลใหม่” ที่มีเสถียรภาพให้ได้โดยเร็ว เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ชี้ควรเร่งแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นอันดับแรก
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า แม้วันนี้จะเริ่มได้เห็นเค้ารางหน้าตารัฐบาลแล้ว แต่ยังต้องรอความชัดเจน เพราะขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการต่อรอง ซึ่งแต่ละพรรคการเมืองต่างมีเงื่อนไข อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่ายังหวั่นตัวแปรอย่าง ส.ว. ซึ่งไม่เฉพาะภาคเอกชน คนทั้งประเทศก็จับตาดูอยู่ ย้ำสิ่งที่ภาคเอกชนอยากเห็นคือ การจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด หรือช้าไม่ควรเกินเดือนสิงหาคม หากช้ากว่านั้นถือว่าแย่ เพราะหากยังจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุน อีกทั้งไม่ให้เกิดช่วงสุญญากาศหรือเว้นว่างในการบริหารประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อการอนุมัติงบประมาณต่างๆ
จากผลการเลือกตั้งที่ทั่วประเทศเทคะแนนเสียงให้พรรคก้าวไกล ส่วนตัวเชื่อว่าเพราะนโยบาย และเชื่อว่าคนที่เลือกคาดหวังอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงจากคนรุ่นใหม่ ที่สำคัญคือต้องการให้แก้ปัญหาปากท้อง เพราะปัจจุบันค่าครองชีพบ้านเราสูง หนี้ภาคครัวเรือนพุ่งไปถึงร้อยละ 90 เช่นเดียวกับภาคเอกชนที่ต้องการเห็นรัฐบาลแก้ปัญหาเร่งด่วนคือ เรื่องปากท้อง ช่วยเหลือ SME ที่ได้รับผลกระทบจากช่วงโควิด
ส่วนข้อเสนอ 6 ข้อ ที่ทาง กกร. ได้ยื่นให้กับพรรคการเมืองก่อนการเลือกตั้ง เชื่อว่าทางพรรคก้าวไกลจะเร่งดำเนินการ ซึ่งเอกชนพร้อมให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ยั่งยืน อย่างไรก็ตาม อีกสิ่งหนึ่งที่ภาคเอกชนต้องการคือ ความร่วมมือในการจัดตั้งกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ด้านพลังงาน เพื่อแก้ไขปัญหาราคาพลังงาน กรอ.น้ำ เพื่อป้องกันปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และอีอีซี.-สำนักข่าวไทย