EXIM BANK สานพลัง บสย. เปิดตัวโครงการ The S1

3 พ.ค. – EXIM BANK สานพลัง บสย. จัดสินเชื่อพร้อมค้ำประกันภายใต้โครงการ The S1 ยกระดับการบริการสนับสนุนสภาพคล่อง SMEs ไทย สู่ตลาดโลก


SMEs ถือว่าเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนและสร้างรากฐานความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศไทย และมีบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจในสัดส่วน 34% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ทั้งยังสร้างการจ้างงานมากถึง 12.6 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วน 72% ของการจ้างงานทั้งระบบ ขณะที่ในภาวะปัจจุบันตลาดภายในประเทศเริ่มอิ่มตัวด้วยปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการก้าวสู่สังคมสูงวัยหรือหนี้ครัวเรือนที่สูงทำให้กำลังในการจับจ่ายใช้สอยลดลง ผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะ SMEs ซึ่งมีจำนวนถึง 99% ของผู้ประกอบการทั้งระบบ หรือกว่า 3.18 ล้านรายต้องเริ่มมองหาช่องทางในการขยายตลาดสู่ต่างประเทศเพื่อค้นหาลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ

เส้นทางสู่การเป็น “ผู้ส่งออก” อาจจะไม่ได้ง่ายนักสำหรับผู้เริ่มต้น ทั้งเรื่องความรู้ความเข้าใจในการส่งออกและปัจจัยสำคัญอย่างเงินทุนในการพัฒนาสินค้าเพื่อให้ได้มาตรฐานที่ส่งออกได้ ขณะที่การเข้าถึงแหล่งเงินทุนนับเป็นข้อจำกัดสำคัญในการดำเนินธุรกิจที่ผู้ประกอบการรายย่อยต้องเผชิญและปลดล็อกได้ยาก หากไม่มีการช่วยเหลือจากภาครัฐ การให้ผู้ประกอบการ SMEs ต่อสู้เองโดยลำพังคงยากที่จะพาเรือเล็กออกจากฝั่ง


สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 2 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จึงได้ร่วมมือกันเปิดตัวโครงการ The S1 (SMEs One) โดยใช้ความเชี่ยวชาญของทั้ง 2 องค์กรในการออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการให้พร้อมสนับสนุน SMEs ใน Supply Chain การส่งออก ให้ได้รับบริการทั้งสินเชื่อและการออกหนังสือค้ำประกันอย่างรวดเร็วและสอดคล้องกับความต้องการทางธุรกิจภายใต้การบริการผ่านช่องทางสาขาร่วม (Co-branch) และช่องทางออนไลน์ รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลยกระดับประสิทธิภาพการบริการแก่ลูกค้า SMEs

นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับโครงการ The S1 โดยเฉพาะ เพื่อบรรเทาภาระต้นทุนทางการเงินพร้อมทั้งให้สิทธิประโยชน์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการที่เป็นคนตัวเล็กในโลกธุรกิจให้สามารถเริ่มต้นหรือขยายกิจการได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในเวทีการค้าโลกยุคใหม่

บริการใหม่ “สินเชื่อ One SMEs” เป็นสินเชื่อหมุนเวียนทั้งก่อนและหลังการส่งออก วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 5.25% ต่อปี โดยใช้เพียงหนังสือค้ำประกัน บสย. และผู้บริหารหลักค้ำประกัน พร้อมรับสิทธิพิเศษ ส่วนลดดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี สำหรับ 6 เดือนแรก ซึ่งถ้าทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมรับเพิ่มส่วนลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ต่อปี ตลอดระยะเวลา 3 ปี และยกเว้นค่าดำเนินการค้ำประกันจาก บสย. (สมัครและอนุมัติภายใน 31 ก.ค. 2566)


ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า โครงการ The S1 เกิดจากความมุ่งมั่นของ EXIM BANK และ บสย. ที่จะพัฒนาศักยภาพและยกระดับคนตัวเล็กในทุกมิติทั้ง เติมความรู้ เติมโอกาส และเติมเงินทุน เพื่อให้ SMEs แข็งแรง พร้อมเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดย EXIM BANK และ บสย. ร่วมกันพัฒนา Business Model ในการสนับสนุน SMEs ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการส่งออกภายใต้แนวคิด 1 Channel, 1 Process และ 1 Credit Scoring ตอบโจทย์ความต้องการของโลกธุรกิจยุคใหม่ที่เน้นความสะดวก รวดเร็ว สมัครเพียง 1 ครั้ง ได้ทั้งการขออนุมัติวงเงินสินเชื่อและขอออกหนังสือค้ำประกัน ช่วยให้ผู้ประกอบการได้รับเงินทุนไปหมุนเวียนใช้ในกิจการรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ด้านนายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. กล่าวว่า บสย. เป็นกลไกของภาครัฐที่จะเติมเต็มด้านหลักประกันให้กับ SMEs ที่ต้องการเงินทุน โดยยกเว้นค่าดำเนินการหนังสือค้ำประกันเพื่อช่วยลดต้นทุนด้านการเงินและภายใต้ความร่วมมือของโครงการ The S1 นี้จะมีการนำระบบดิจิทัลเข้ามาช่วยลดกระบวนการ ลดเอกสารและจะร่วมกันให้บริการเป็น One Stop Service โดยมีสาขาของ บสย. 11 สาขาและ EXIM BANK 9 สาขา เป็นจุด Touchpoint ที่ SMEs สามารถยื่นขอสินเชื่อพร้อมหนังสือค้ำประกันจาก บสย. ได้ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการและเพิ่มโอกาสให้เข้าถึงเงินทุนในการพัฒนาธุรกิจได้ง่ายขึ้น

นายพิสิฏฐ์ เอี่ยมน้อย CEO บริษัท แคลเอ็กซ์โค่ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นรถยนต์ยี่ห้อ Motoc และน้ำมันหล่อลื่นเกียร์และเครื่องจักร Mitec หนึ่งในผู้ประกอบการที่สนใจขอสินเชื่อภายใต้โครงการ The S1 กล่าวว่า ได้เห็นโครงการนี้ในโซเชียลมีเดีย จึงสนใจและเดินทางมาขอเข้าร่วมโครงการ โดยบริษัทเปิดดำเนินงานมาแล้ว 4 ปี สินค้าที่จำหน่ายอยู่ในกลุ่มตลาดล่างเป็นหลัก เริ่มมีการจำหน่ายแล้วในจังหวัดชายแดน จึงอยากได้ความรู้และเงินทุนสำหรับพัฒนาสินค้าเพื่อเจาะตลาดกลุ่มพรีเมียมมากขึ้น รวมทั้งอยากขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน การได้เข้ามารับทราบรายละเอียดของโครงการ The S1 นับว่าเป็นประโยชน์มาก เพราะเป็น One Stop Service มางานเดียวได้ครบ ทั้งการสมัครเข้าร่วมโครงการ อบรมให้ความรู้เรื่องการส่งออก เงินทุน ปรึกษาเรื่องขั้นตอนการขอสินเชื่อจาก EXIM BANK โดย บสย. จะช่วยเรื่องการค้ำประกัน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการหาหลักทรัพย์ค้ำประกัน

“ผมว่าการร่วมมือกันในลักษณะนี้เป็นสิ่งที่ดี เพราะทั้ง 2 หน่วยงานจะใช้มาตรฐานเดียวกันในการพิจารณาสินเชื่อ หากไม่รวมศูนย์ก็จะต่างคนต่างทำและแต่ละแห่งจะมีวิธีการทำงานและการพิจารณาที่แตกต่างกัน โครงการ The S1 นับว่าเป็นแบบอย่างของการทำงานร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐที่สามารถสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs ได้อย่างเป็นรูปธรรมในทุกมิติ นับเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการอย่างยิ่ง” นายพิสิฏฐ์ กล่าว

ผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการ S1 และโครงการ “คลินิก EXIM เพื่อคนตัวเล็ก” เพื่อรับคำปรึกษาแนะนำทางการเงินจากทั้ง 2 องค์กร เพื่อวางแผนทางธุรกิจ บริหารจัดการหนี้หรือบัญชีภายใน และเพิ่มสภาพคล่องทางธุรกิจได้ สอบถามศูนย์บริการลูกค้า EXIM BANK โทร. 0 2169 9999 หรือ บสย. โทร. 0 2890 9999 และในอนาคตโครงการจะขยายความร่วมมือไปยังธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ซึ่งอยู่ระหว่างร่วมกันพัฒนารูปแบบการทำงาน พัฒนานวัตกรรมทางการเงินที่ขับเคลื่อนการเติบโตของ SMEs และประเทศไทยอย่างยั่งยืน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]