IMF คาดเศรษฐกิจโลกขยายตัวร้อยละ 2.8

เมืองอินชอน สาธารณรัฐเกาหลี 2 พ.ค. – IMF คาดเศรษฐกิจโลกขยายตัวร้อยละ 2.8 ภูมิภาคเอเชียจะขยายตัวร้อยละ 4.6 ขณะที่ 3 องค์กร IMF, ADB, คลังอาเซียน+3 เตือนเงินเฟ้อ หนี้สาธารณะสูงขึ้น และความผันผวนการเงินโลก


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+3 (ASEAN+3 Finance Ministers’ and Central Bank Governors’ Meeting: AFMGM+3) ครั้งที่ 26 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมหารือและแสดงความเห็นในประเด็นเศรษฐกิจและความร่วมมือทางการเงินของภูมิภาคอาเซียน+3 สรุปได้ ดังนี้

  1. ที่ประชุมได้หารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นด้านเศรษฐกิจโลกและภูมิภาค โดยผู้แทนจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) และสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 (ASEAN+3 Macroeconomic Research Office: AMRO) ต่างเห็นพ้องว่า เศรษฐกิจโลกและภูมิภาคอาเซียน+3 ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง สืบเนื่องจากการเปิดเศรษฐกิจของสาธารณรัฐประชาชนจีน และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดย IMF คาดการณ์ว่า ในปี 2566 เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวร้อยละ 2.8 ในขณะที่เศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียจะขยายตัวที่ร้อยละ 4.6 และคาดว่าในปี 2567 เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.0 และร้อยละ 4.4 ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 องค์กร ได้ให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน+3 ยังคงเผชิญความท้าทาย โดยเฉพาะจากอัตราเงินเฟ้อ หนี้สาธารณะที่เพิ่มสูงขึ้น และความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเงินโลก ด้วยเหตุนี้ อาเซียน+3 ต้องมีการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ครอบคลุมและยั่งยืน การดำเนินนโยบายการคลัง เพื่อสนับสนุนกลุ่มเปราะบาง รวมทั้งความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการระดมทุนสำหรับโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้นำเสนอที่ประชุมให้ทราบถึงสถานการณ์และทิศทางเศรษฐกิจไทย โดยคาดว่า ในปี 2566 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.6 ปรับตัวดีขึ้นจากร้อยละ 2.6 ในปี 2565 สืบเนื่องจากโครงการโครงสร้างพื้นฐานและการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวที่เข้ามามากกว่า 6 ล้านคน ในไตรมาสแรกของปี 2566 นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงสู่เป้าหมายที่ร้อยละ 2.8 จากร้อยละ 1-3 ในเดือนมีนาคม 2566 ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 15 เดือน

  1. ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าของการปรับปรุงมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคี (Chiang Mai Initiative Multilateralisation: CMIM) เพื่อให้สมาชิกสามารถให้ความช่วยเหลือทางการเงินภายใต้ CMIM ด้วยเงินสกุลท้องถิ่นและสกุลเงินอื่นๆ ของประเทศสมาชิกได้ และให้การรับรองแผนงานการทบทวนความตกลง CMIM (Periodic Review) ครั้งที่ 2 นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าในการปรับปรุงโครงสร้างความช่วยเหลือทางการเงินของภูมิภาค (Regional Financial Architecture) เพื่อบรรเทา ป้องกัน และแก้ไขวิกฤตการณ์ในอนาคต โดยที่ประชุมสนับสนุนการพัฒนากลไกการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแบบเร่งด่วน เพื่อให้ประเทศสมาชิกสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือทางการเงินได้มากขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังและธนาคารกลางอาเซียน+3 จัดทำข้อเสนอรูปแบบของกลไกความช่วยเหลือทางการเงินแบบเร่งด่วนและแผนงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
  2. ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานของ AMRO และได้เห็นชอบนโยบายความคิดริเริ่มต่างๆ ที่จะดำเนินการในอนาคต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ AMRO อาทิ แผนการดำเนินงานระยะกลาง (Medium-term Implementation Plan: MTIP) สำหรับปี 2566-2568 การจัดตั้งศูนย์ความรู้ระดับภูมิภาค เครือข่ายคลังสมองอาเซียน+3 การสนับสนุนงานด้านเลขานุการให้แก่ความร่วมมือทางการเงินอาเซียน+3 และแนวทางการเสริมสร้างธรรมาภิบาลของผู้บริหาร เพื่อยกระดับการกำกับดูแลของ AMRO ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต
  3. ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินการตามแผนระยะกลางของมาตรการริเริ่มพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย (Asian Bond Markets Initiative: ABMI) สำหรับปี 2562-2565 และให้การรับรองแผนงานระยะกลางใหม่ของ ABMI สำหรับปี 2566-2569 ที่ประกอบด้วย 5 เสาหลัก ได้แก่ (1) การส่งเสริมการเงินที่ยั่งยืนในระดับภูมิภาค (2) การปรับปรุงการกำกับดูแลตลาดและพัฒนากฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมข้ามพรมแดน (3) การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อส่งเสริมการรวมตัวของตลาดการเงินอาเซียน+3 (4) การส่งเสริมสภาพคล่องของตลาดตราสารหนี้ โดยใช้สกุลเงินท้องถิ่น เพื่อลดความเสี่ยงจากธุรกรรมข้ามพรมแดน และ (5) การสนับสนุนการพัฒนาตลาดตราสารหนี้สกุลเงินท้องถิ่น
  4. ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าทิศทางการดำเนินการในอนาคตของกรอบความร่วมมือทางการเงินอาเซียน+3 ได้แก่ การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนากลไกเพื่อรองรับปัญหาด้านมหภาคและปัญหาเชิงโครงสร้าง การเสริมสร้างความเข้มแข็งทางการเงินเพื่อรับมือกับภัยธรรมชาติ และการส่งเสริมความร่วมมือด้านนโยบายเพื่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบเรื่องการทำธุรกรรมและชำระเงินข้ามพรมแดนด้วยสกุลเงินท้องถิ่นในภูมิภาค การพัฒนาหนี้ภาคธุรกิจที่มีความเสี่ยง การพัฒนาฐานข้อมูลหนี้ครัวเรือน และการปฏิรูปนโยบายเพื่อรองรับการเงินเพื่อความยั่งยืนในภูมิภาค เป็นหัวข้อในการศึกษาภายใต้ความร่วมมือทางการเงินใหม่ของอาเซียน+3

นอกจากนี้ ในช่วงเช้าของวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน-ญี่ปุ่น ในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น เพื่อหารือถึงการยกระดับความร่วมมือทางการเงินระหว่างอาเซียนและญี่ปุ่นให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น รวมทั้งได้เข้าร่วมกล่าวปาฐกถาในงานเปิดตัวรายงาน เรื่อง “แนวทางการจัดหาเงินทุนใหม่ๆ เพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนและยืดหยุ่นในอาเซียน+3” (Reinvigorating Financing Approaches for Sustainable and
Resilient Infrastructure in ASEAN+3) ที่จัดทำโดย ADB ซึ่งรายงานดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ในการกำหนดแนวทางการจัดทำนโยบายเพื่อพัฒนากลไกและนวัตกรรมทางการเงิน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนของประเทศสมาชิกอาเซียน+3 ในระยะยาวต่อไป

จากนั้น ในช่วงบ่ายของวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้หารือทวิภาคีกับ H.E. Indranee Thurai Rajah รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนที่สอง สาธารณรัฐสิงคโปร์ และนาย Phouthanouphet Saysombath รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเงิน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในประเด็นเศรษฐกิจและการยกระดับความร่วมมือระหว่างกัน อาทิ การส่งเสริมการค้าการลงทุน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และพัฒนาความร่วมมือด้านความเชื่อมโยงทางกายภาพและดิจิทัล. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ภรรยาหมอบุญมอบตัว

“ภรรยา-ลูก” หมอบุญ อ้างถูกปลอมลายเซ็น ไม่เคยรู้การกระทำใดๆ

ทนายความภรรยา-ลูก หมอบุญ เผยถูกปลอมลายเซ็นเอกสาร ไม่เคยรับรู้การกระทำใดๆ ของหมอบุญ โดยภรรยาได้หย่าร้างกับหมอบุญ ก่อนปี 66

น้ำผุดเชียงดาว

น้ำใต้ดินผุดท่วมอ่วม “บ้านเรือน-พื้นที่เกษตร” อ.เชียงดาว

มวลน้ำมหาศาลผุดขึ้นจากใต้ดิน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนประชาชน หลายหมู่บ้าน ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำบางจุด ท่วมบ้านเกือบถึงหลังคา พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 400 ไร่

เลือกตั้ง อบจ.

“แสวง” ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี

“เลขาฯ แสวง” ลงพื้นที่ตรวจรับ-มอบอุปกรณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมสังเกตการณ์เลือกตั้งพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) วอนประชาชนออกมาใช้สิทธิ 8.00-17.00 น.