ตลาดหลักทรัพย์ฯ เดินหน้าสถานีขยะล่องหน คุ้งบางกะเจ้า ปี 3 

กรุงเทพฯ 28 เม.ย.-ตลาดหลักทรัพย์ฯ เดินหน้าสถานีขยะล่องหน คุ้งบางกะเจ้า ปี 3 ผนึกกำลังพันธมิตร ขยายผลลัพธ์ทางสังคมต่อเนื่อง ตั้งเป้าปี 66 ให้ชุมชนส่งขยะมาคัดแยกเพิ่มขึ้น 40%  


ตลาดหลักทรัพย์ฯ เดินหน้าสถานีขยะล่องหน คุ้งบางกะเจ้า ปี 3 โครงการ Care the Whale “ขยะล่องหน” จับมือพันธมิตร วัดจากแดง บมจ. สหพัฒนพิบูล  บมจ. โอสถสภา และ บมจ. พริ้นซ์ซิเพิล แคปิตอล ต่อเนื่อง เพื่อสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านการบริหารจัดการขยะ สนับสนุนคุณภาพชีวิต และสร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนโดยในปีนี้ขยายประเภทขยะที่รับเข้าจัดการผ่านโครงการ  พร้อมกับส่งเสริมการมีส่วนร่วมภาคชุมชนโดยเฉพาะโรงเรียน องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ขยายประเภทสินค้าและบริการที่ชุมชนสามารถนำขยะมาแลก ณ พื้นที่คุ้งบางกะเจ้า จ. สมุทรปราการ

พระราชวัชรบัณฑิต (ประนอม ธัมมาลังกาโร) เจ้าอาวาส วัดจากแดง กล่าวว่า วัดจากแดงเป็นศูนย์เรียนรู้การบริหารจัดการขยะในชุมชน และมีการศึกษาและพัฒนากระบวนการนำขยะกลับมาใช้ใหม่อย่างต่อเนื่อง ให้ครอบคลุมขยะประเภทต่าง ๆ ให้มากที่สุด ขณะเดียวกันมีการให้ความรู้ อบรม การคัดแยกขยะผ่านผู้นำชุมชนเป็นประจำเพื่อปลูกฝังพฤติกรรมการจัดการขยะไปในระดับครัวเรือน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและสร้างจิตสำนึกของคนในชุมชนต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมและการจัดการขยะ โดยทางวัดได้มีความร่วมมือกับภาคเอกชน ผ่านสถานีขยะล่องหน เป็นปีที่ 3 ซึ่งได้สร้างประโยชน์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมคนในชุมชนคุ้งบางกะเจ้าเป็นอย่างมาก ให้มีความสนใจและเข้าใจการคัดแยกขยะในปีนี้ สถานีขยะล่องหน วัดจากแดงได้เพิ่มประเภทขยะเศษอาหารเป็นหนึ่งในขยะที่สามารถนำมาขึ้นคะแนนแลกสินค้าในสถานีขยะล่องหนได้ เนื่องจากเป็นขยะที่มีจำนวนมากและเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยังไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง โดยวัดจากแดงจะนำขยะเศษอาหารเข้าสู่กระบวนการผลิตเป็นปุ๋ยหมักอินทรีย์ เพื่อให้ชุมชนสามารถใช้ประโยชน์ในการเพาะปลูกได้ด้วย


นางสาวนพเก้า สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม Care the Whale “ขยะล่องหน” เพื่อลดภาวะโลกร้อนและสร้างคุณภาพชีวิตที่สมดุลโดยในปี 2566 ยังทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาชุมชนคุ้งบางกะเจ้าในเชิงลึก เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างยั่งยืนให้กับชุมชนมากที่สุด ซึ่งมั่นใจว่าจะทำให้ชุมชนคุ้งบางกะเจ้าเป็นชุมชนต้นแบบในการบริหารจัดการขยะที่ดี จากการปลูกฝังพฤติกรรมการจัดการขยะอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องวิสัยทัศน์ “To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone” ปีนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงสนับสนุนแพล์ตฟอร์มคำนวนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Climate Care Platform) เพื่อวัดผลการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกับสถานีขยะล่องหน และจัดทำแคมเปญการสื่อสารเชิงรุกร่วมกับพันธมิตรรณรงค์ให้ชุมชน หน่วยงาน ร้านค้า โรงเรียน ส่งเสริมการคัดแยกขยะประเภทต่าง ๆ อย่างถูกต้องก่อนนำมาส่งให้สถานีขยะล่องหนเพื่อแลกรับสินค้าอุปโภคบริโภค  โดยปี 2565 ที่ผ่านมา มีปริมาณขยะที่ผ่านการคัดแยกถึง 19,724 กิโลกรัม โดยขยะส่วนใหญ่คือ ขวดใส และ ขวดแก้ว สามารถลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกรวมได้ 34,427 กิโลกรัมคาร์บอนไดซ์ออกไซต์เทียบเท่า และเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 3,825 ต้น เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 38% และปีนี้โครงการได้ตั้งเป้า ปริมาณขยะที่ส่งมาที่สถานีขยะล่องหนเพิ่มขึ้นอีก 40% จากปี 2565

นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังสนับสนุนรถสามล้อไฟฟ้าปลอดมลพิษให้กับชุมชนเพื่อเป็น ”สถานีขยะล่องหนทันที” อำนวยความสะดวกให้กับชุมชน ไปรับขยะและแลกสินค้าอุปโภคบริโภคถึงหน้าบ้าน

นางชัยลดา ตันติเวชกุล รองกรรมการผู้อำนวยการบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีความยินดีที่จะสร้างความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ นำศักยภาพขององค์กรเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับชุมชนอย่างยั่งยืนในปีที่ผ่านมา นอกจากการสนับสนุนสินค้าอุปโภคบริโภคสำหรับแลกขยะแล้ว บริษัทฯ ยังลงพื้นที่ให้ความรู้เรื่องปัญหาขยะและการจัดการขยะให้กับ 11 โรงเรียนครอบคลุมนักเรียนกว่า 1,000 คน ในปีนี้ บริษัทฯ จะเน้นการขยายสู่ภาคปฏิบัติ โดยรณรงค์ให้โรงเรียนเป็นจุดเชื่อมที่จะรวบรวมและส่งขยะไปที่สถานีขยะล่องหน วัดจากแดง โดยบริษัทฯ จะมอบสินค้าอุปโภคบริโภคที่เป็นส่วนประกอบสำหรับอาหารกลางวันให้กับนักเรียน รวมทั้งของใช้จำเป็นสำหรับในโรงเรียนต่อไป


นายธานี มณีนุตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า โครงการ Care the Whale สถานีขยะล่องหนได้สอดคล้องกับปณิธานของบริษัทฯ ที่เป็นผู้ให้กับสังคม โดยในปีนี้บริษัทมุ่งสนับสนุนเชิงลึกให้กับชุมชนในด้านการดูแลสุขภาพอย่างเต็มที่ นอกจากการสนับสนุนชุมชนให้มีการคัดแยกขยะเพื่อรับสินค้าและบริการเพื่อสุขภาพให้กับชุมชนแล้ว ยังเพิ่มแผนลงพื้นที่ตรวจคัดกรองสุขภาพเบื้องต้น และมอบตู้ยาสามัญประจำบ้านให้กับ 6 ตำบลในพื้นที่บางกะเจ้า รวมทั้งผลิตและเผยแพร่สื่อความรู้ด้านการจัดการกับขยะติดเชื้อให้กับชุมชนอีกด้วย

นางสุธิดา เสียมหาญ ผู้อำนวยการสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าบริษัทฯ ยังเน้นการจัดการขยะขวดแก้วในรูปแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy โดยคำนึงถึงขยะขวดแก้ว ที่เป็นหนึ่งในบรรจุภัณฑ์ของสินค้าโอสถสภา เพื่อลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาตินำมาผลิตขวดแก้วใหม่ ปีนี้บริษัทยังคงมอบสินค้าสมนาคุณ ตามน้ำหนักรวมของขยะขวดแก้ว และเชื่อมโยงบริษัทรีไซเคิลเพื่อเข้ารับซื้อขยะขวดแก้วจากวัดจากแดงไปรีไซเคิลอีกครั้ง

สถานีขยะล่องหน รวมพลังมหาชุมชน คุ้งบางกะเจ้า เปิดให้ชุมชนคุ้งบางกะเจ้านำขยะมาแลกสินค้าส่งที่สถานีขยะล่องหนได้ 3 ช่องทางได้แก่ วัดจากแดง จ.สมุทรปราการ สถานีขยะล่องหนสัญจร ณ ตลาดบางน้ำผึ้งทุกวันเสาร์ เวลาบ่ายโมงและ “สถานีขยะล่องหนทันที” ด้วยสามล้อไฟฟ้าไปรับขยะและมอบสินค้า ณ บ้านประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนในชุมชน นอกจากนี้ยังขอเชิญชวนให้บุคคล หน่วยงาน ร้านค้า นอกชุมชนคุ้งบางกะเจ้า ร่วมปฏิบัติการ“ขยะล่องหน” คัดแยกขยะประเภทต่าง ๆ เพื่อส่งให้วัดจากแดง จ.สมุทรปราการ นำไปรีไซเคิลเพื่อลดการส่งขยะไปฝังกลบหรือ Zero Waste to landfill เพื่อลดภาวะโลกร้อนเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พุทธศาสนิกชนหลั่งไหลทำบุญวันอาสาฬหบูชา

ฉะเชิงเทรา 10 ก.ค.- พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ หลั่งไหลทำบุญตักบาตร เนื่องในวันอาสาฬหบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เนื่องในวันอาสาฬบูชา วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาก่อนถึงวันเข้าพรรษาปี 2568 มีหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ และพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญยืนต่อแถวยาวไปจนถึงศาลาริมแม่น้ำบางปะกงหลังพระอุโบสถ วัดโสธรวรารามวรวิหาร อย่างเนืองแน่น ก่อนสมาทานศีล 5 รับพรจากพระเทพภาวนาวชิรคุณ วิ. เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา และถวายสังฆทาน ถวายไทยธรรม รับพรจากพระสงฆ์ จากนั้นอาวาสวัดโสธรวฯ เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา นำพระภิกษุสามเณร เดินรับบาตรที่พุทธศาสนิกชนนำมาถวายเป็นพุทธบูชา บรรยากาศวันอาสาฬหบูชาในจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะที่วัดราชบูรณะ พระอารามหลวง พุทธศาสนิกชนต่างแต่งกายด้วยชุดขาวหรือชุดสุภาพ นำเทียนพรรษา ดอกไม้ ธูป เทียน และสิ่งของมาทำบุญตักบาตร ฟังธรรม และถวายสังฆทาน เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว บรรยากาศเป็นไปด้วยความสงบ เรียบร้อย และเปี่ยมไปด้วยแรงศรัทธา -สำนักข่าวไทย

จับชายมุดท่อระบายน้ำ ลอบข้ามแดนกลับไทย

สระแก้ว 10 ก.ค.- ทหารคุมเข้มแนวชายแดนอรัญประเทศ ล่าสุดจับชายมุดท่อระบายน้ำ ลอบข้ามแดนกลับไทย อ้างป่วยโรคปอด แม่ชวนไปเป็นบัญชีม้าฝั่งปอยเปต ด้าน 15 แรงงานกัมพูชา อดอยาก ยอมเสี่ยงเดินเท้าเข้าสระแก้ว ชุดเฉพาะกิจอรัญประเทศ ทหารพราน ร่วมกันลาดตระเวนพื้นที่ล่อแหลมชายแดนสกัดกั้นการลักลอบเข้า-ออกโดยผิดกฎหมาย และการขนสิ่งผิดกฎหมาย ต่อมาจับกุมตัวนายอภิรักษ์ อายุ 40 ปี ขณะกำลังมุดท่อระบายน้ำข้างทางรถไฟ ห่างจากด่านพรมแดนบ้านคลองลึกประมาณ 200 เมตร เพื่อลักลอบข้ามพรมแดนกลับเข้าประเทศไทย โดยพบข้อมูลเบื้องหลังการจับกุม เผยเรื่องราวสุดสะเทือนใจ เมื่อผู้ต้องหาอ้างว่าคนที่ชักชวนให้เขามาทำงานผิดกฎหมายนี้ คือ “แม่ของเขาเอง” นายอภิรักษ์ ให้การว่า ตนป่วยเป็นโรคปอด สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง ต่อมาแม่ของตนซึ่งเคยทำงานลักษณะนี้มาก่อน ชักชวนให้ไป “รับจ้างเปิดบัญชีและสแกนใบหน้า” ที่ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ถูกนำตัวข้ามแดนไปพักในห้องสังกะสี และสั่งให้ไปเปิดบัญชีธนาคาร 1 บัญชี พร้อมคอยสแกนใบหน้าเป็นเวลา 4-5 วัน เมื่องานเสร็จ นายจ้างชาวไทยให้คนนำทางพามาส่งทิ้งไว้ที่แนวชายแดนและชี้ทางให้มุดท่อระบายน้ำกลับมาไทย จนถูกจับ เจ้าหน้าที่นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก เพื่อดำเนินคดีในข้อหาลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย และจะมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการในข้อหาอื่น ๆ […]

ยิงดับ 2 ศพ คาวัดดังย่านเพชรเกษม

10 ก.ค.- ลูกเจ้าของโรงเรียนคลั่งยา ชักปืนยิงดับ 2 ศพ คาวัดดังย่านเพชรเกษม ตำรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว เกิดเหตุยิงกันเสียชีวิต 2 คน โดยบริเวณข้างโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซ.เพชรเกษม 20 พบ 1 ศพ เป็นหญิง และบริเวณข้างวัดแห่งหนึ่ง แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ พบอีก 1 ศพเป็นผู้ชาย เบื้องต้นจากการสอบถามเพื่อนบ้าน คาดผู้ก่อเหตุมีอาการคลั่งยา หลอนฝันว่าผู้ตายรายแรกที่เป็นหญิงทำคุณไสยใส่ จึงเดินไปใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่กกหู ขณะที่กำลังซักผ้าเสียชีวิตทันที หลังจากนั้นเดินออกมาหน้าวัด พบนายติ่ง จึงใช้ปืนกระบอกเดียวกัน ยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิตคาที่เป็นศพที่ 2 ขณะนี้ตำรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว เป็นลูกเจ้าของโรงเรียนใกล้เคียงกับวัดดังกล่าว ถูกนำตัวไปสอบสวนที่ สน.ภาษีเจริญ – สำนักข่าวไทย

หนึ่งเดียวในโลก! ทำบุญตักบาตรบนหลังช้างสุรินทร์

สุรินทร์ 10 ก.ค.- สุรินทร์จัดยิ่งใหญ่! ทำบุญตักบาตรบนหลังช้าง เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ประจำปี 2568 ยิ่งใหญ่หนึ่งเดียวในโลก ประชาชนและนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ หลั่งไหลร่วมทำบุญตักบาตรบนหลังช้างสุรินทร์ เนื่องในวันอาสาฬหบูชา และเข้าพรรษา ประจำปี 2568 บริเวณลานหน้าอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีพระสงฆ์ สามเณร 64 รูป นั่งรับบิณฑบาตบนหลังช้างแสนรู้ และช้างงายาว 64 เชือก โดยนำอัฒจันทร์เหล็กมาตั้งรอบอนุสาวรีย์ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนมายืนใส่บาตรข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อความเป็นสิริมงคล ช้างที่มีพระสงฆ์นั่งบนหลังจะเดินเข้าไปรับบาตร. – สำนักข่าวไทย