นนทบุรี 26 เม.ย.-พาณิชย์เผยยอดส่งออกในเดือน มี.ค.66 มูลค่าการส่งออกทะลุ 27,000 ล้านเหรียญสหรัฐ สูงสุดในรอบ 12 เดือน ได้รับอานิสงส์จากการส่งออกผลไม้ และสินค้าอุตสาหกรรมหลายรายการที่กลับมาขยายตัว แต่ในภาพรวมยังหดตัวที่ 4.2% ตามฐานที่สูงเมื่อช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รายงานตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือนมีนาคม 2566 พบว่า มีมูลค่าสูงถึง 27,654 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ถือว่าสูงสุดในรอบ 12 เดือน เนื่องจากฐานสูง ในเดือนมีนาคม 2565 มูลค่าการส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 28,858 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้การส่งออกเดือนมีนาคม ยังหดตัวที่4.2% แต่ถือว่าหดตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ และดีกว่าหลายประเทศ เช่น เวียดนาม หดตัว 14.4% อินเดีย หดตัว13.9% ญี่ปุ่น หดตัว 7.5% และไต้หวัน หดตัวถึง 19.1%
ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกที่สูงขึ้น มาจากการส่งออกสินค้ากลุ่มเกษตร และอุตสาหกรรมเกษตรที่ขยายตัว โดยเฉพาะผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง ที่บวกถึง 94.5% ตามฤดูกาลผลไม้ รวมไปถึงน้ำตาลทรายที่ขยายตัว 73.9% ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรม แม้ในภาพรวมจะหดตัวที่ 5.9% แต่หลายสินค้ากลับมาเป็นบวก หลังปัญหาการขาดแคลนชิฟคลี่คลาย เช่น รถยนต์ เครื่องปรับอากาศอากาศ และรถจักรยานยนต์ ส่วนตลาดส่งออกสำคัญส่วนใหญ่ก็ปรับตัวดีขึ้นทั้งสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และอาเซียน สะท้อนความต้องการจากประเทศคู่ค้าที่เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ส่งผลให้ในไตรมาสแรก ของปีนี้ ภาพรวมการส่งออก ยังหดตัวที่ 4.5% แต่กระทรวงพาณิชย์ ยังคงเป้าหมายการทำงานเพื่อผลักดันให้การส่งออกของไทยในปีนี้ ขยายตัวเป็นบวกที่ 1-2% ซึ่งในช่วง 9 เดือนที่เหลือ มูลค่าการส่งออกต้องเฉลี่ยเดือนละ 24,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามแนวทางการเปิดตลาดใหม่ และทำงานใกล้ชิดร่วมกับภาคเอกชน ซึ่งในเดือนพฤษภาคมนี้ จะประชุมทูตพาณิชย์ทั่วโลก เพื่อเดินหน้าบุกตลาด และทบทวนแนวทางผลักดันการส่งออกให้ปีนี้ให้ขยายตัว
ขณะที่ มูลค่าการนำเข้าในเดือนมีนาคม 2566 รวมกว่า 24,935 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้ในเดือนมีนาคม ไทย กลับมาเกินดุลการค้าในรอบ 12 เดือน มูลค่า 2,718 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ ในไตรมาสแรกของปี 2566 การนำเข้ารวม73,324 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งไทย ยังขาดดุลการค้า ที่ 3,044 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ส่วนตัวเลขการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เดือนมีนาคม 2566 มีมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดน 163,714 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.57% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยการส่งออกผ่านแดนไปจีนขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน (+99.66%) คิดเป็นมูลค่า 17,610 ล้านบาท
1. การค้าชายแดนและผ่านแดน เดือนมีนาคม 2566 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 163,714 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.57% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 95,992 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.93% และการนำเข้ามูลค่า67,722 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.94% โดยไทยได้ดุลการค้าในเดือนมีนาคม 2566 ทั้งสิ้น 28,269 ล้านบาท โดยการค้าชายแดนกับ 4 ประเทศ (มาเลเซีย สปป.ลาว เมียนมา และกัมพูชา มีมูลค่าการค้ารวม 88,673 ล้านบาท ลดลง 5.53% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 56,521 ล้านบาท ลดลง 0.47% และการนำเข้ามูลค่า32,151 ล้านบาท ลดลง 12.82% โดยไทยได้ดุลการค้าชายแดนรวม 24,370 ล้านบาท
นอกจากนี้ มาเลเซีย มูลค่าส่งออก 15,411 ล้านบาท (-6.32%) สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ อื่นๆ น้ำยางข้น และส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ สปป.ลาว มูลค่าส่งออก 14,719 ล้านบาท (+14.19%) สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันสำเร็จรูปอื่น ๆ และสินค้าอุตสาหกรรมอื่น ๆ เมียนมา มูลค่าส่งออก 12,818 ล้านบาท (+1.50%) สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันสำเร็จรูปอื่น ๆ และโทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟน กัมพูชา มูลค่าส่งออก 13,573 ล้านบาท (-8.42%) สินค้าสำคัญได้แก่ รถยนต์นั่งที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องสันดาปภายใน เครื่องดื่มอื่นๆ และรถปิคอัพ รถบัสและรถบรรทุกที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องสันดาปภายใน
ส่วนการค้าผ่านแดนไปประเทศที่สาม (จีน สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศอื่น ๆ) เดือนมีนาคม 2566 มีมูลค่ารวม75,042 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.62% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 39,471 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 43.71% และการนำเข้ามูลค่า 35,571 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.79% โดยจีนยังเป็นตลาดส่งออกหลัก โดย จีนมูลค่าส่งออก 17,610 ล้านบาท (+99.66%) สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ทุเรียนสด ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ และผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ สิงคโปร์ มูลค่าส่งออก 7,132 ล้านบาท (+51.29%) สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ อื่นๆ และเครื่องตัดต่อและป้องกันวงจรไฟฟ้า เวียดนาม มูลค่าส่งออก 4,523 ล้านบาท(+29.81%) สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ น้ำแร่น้ำอัดลมที่ปรุงรส และผ้าผืนทำจากเส้นใยประดิษฐ์ และประเทศอื่น ๆ (เช่น ฮ่องกง สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ) มูลค่าส่งออก 10,206 ล้านบาท (-2.31%) เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ยังสนับสนุนการค้าชายแดน โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค อาทิ การผลักดันเปิดจุดผ่านแดนเพื่อขนส่งสินค้าภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดย ณ วันที่ 20 มีนาคม 2566 มีจุดผ่านแดนฝั่งไทยเปิด 87 แห่ง จากทั้งหมด 97 แห่ง ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านเปิด 74 แห่ง (สถานะคงเดิมตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566) การดำเนินโครงการ “จับคู่กู้เงิน” สถาบันการเงินกับ SMEs ส่งออก โดยร่วมมือกับ EXIM Bank และ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ในการปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่อยู่ในห่วงโซ่การส่งออก รวมถึงผู้ประกอบการค้าชายแดน ซึ่ง ณ วันที่ 21 เมษายน 2566 มีผู้ประกอบการยื่นขอสินเชื่อ 1,534 ราย วงเงินรวม 6,353.0 ล้านบาท อนุมัติวงเงินแล้ว 1,511 รายวงเงินรวม 6,235.9 ล้านบาทอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย