กรมศุลกากร 25 เม.ย.- กรมศุลกากรเผยครึ่งปีงบประมาณ ยอดภาษีกว่า 6 หมื่นล้านบาท ยอมรับนำเข้ากระเป๋าแบรนด์เนม ยาเสริมความงามยอดพุ่งร้อยละ 20-30 คนนิยมหมูกระทะ ชาบู หมูเถื่อนลักลอบภาษีระบาดหนัก
นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร รักษาการ ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า การจัดเก็บรายได้กรมศุลกากรในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2566 (ตุลาคม 2565 – มีนาคม 2566) จัดเก็บรายได้รวม 60,416 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 274 ล้านบาท (ปีก่อน 60,141 ล้านบาท) หรือร้อยละ 0.5 โดยเป็นรายได้ศุลกากร 11,187 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 21.6 เนื่องจากได้รับเงินจากรายได้พิเศษ ตามคำพิพากษาของศาลฏีกา จากโตโยต้าพริอุส 7,600 ล้านบาท
โดยสินค้านำเข้าหลักจัดเก็บอากรได้สูง ได้แก่ รถยนต์นั่ง ส่วนประกอบยานยนต์ ยารักษาโรคขยายตัวร้อยละ 26.7 มูลค่า 1,800 ล้านบาท เครื่องสำอางขยายตัวร้อยละ 32.4 มูลค่า 1,685 ล้านบาท และกระเป๋าแบรนด์เนมขยายตัวร้อยละ 21.5 มูลค่า 1,991 ล้านบาท เนื่องจากยุคนี้คนดูแลสุขภาพ จึงนำเข้ายารักษาโรค รวมถึงการเสริมความงามโบท็อป ยาฟิลเลอร์ นับว่าสินค้าทั้ง 3 กลุ่มเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะกระเป๋าแบรนด์เนม ยุคนี้ซื้อตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ราคาไม่แตกต่างจากการเดินทางไปเลือกซื้อในต่างประเทศ จึงทำให้ได้รับความนิยมมากขึ้น
ทั้งนี้ กรมศุลกากร ยังร่วมกับ ทหาร กอ.รมน. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) จับกุมยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท 98 คดีน้ำหนัก 32,773 กิโลกรัม มูลค่า 893 ล้านบาท นับว่าเป็นยอดคดีที่สูงขึ้นมาก โดยเฉพาะการหลบเลี่ยงนำเข้าสารประกอบ เพื่อทำยาเสพติด เช่น โซเดียมไซยาไนด์ (SODIUM CYANIDE BRIQUETTE 98%) กรดซัลฟิวริก(SULFURIC ACID 98%) เป็นวัตถุอันตรายประเภทที่ 3 และสารเคทีอีกหลายประเภท ที่ใช้ผลิตสินค้าต่างๆ แต่ได้นำมาดัดแปลงผลิตยาเสพติด เพราะออกฤทธิมากกว่าเดิมถึง 5 เท่า และยังมีราคาถูก จึงทำให้การผลิตยาเสพติดจากสารเคมี มีความรุนแรงและราคาถูก ไทยจึงต้องคุมเข้ม เพราะถูกใช้เป็นทางผ่านส่งออกยาเสพติดไปยังประเทศที่ 3 หากปล่อยให้มียอดคดีสูงขึ้นจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศผู้นำเข้าสินค้าจากไทย และเชื่อเสียงของประเทศ
นอกจากนี้ กรมศุลกากร ยังจับกุมเนื้อสุกรแช่แข็ง ได้ถึง 13 คดี น้ำหนัก 4.6 ล้านกิโลกรัม มูลค่า 240 ล้านบาท เพราะได้แอบลักลอบนำเข้ามายังท่าเรือโดยไม่สำแดงการนำเข้า ด้วยการขนเนื้อสุกรผ่านเรือสินค้า นำมาวางไว้ทิ้งไว้ตามด่านชายแดนและท่าเรือ นับเป็นการลักลอบนำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หลายตู้คอนเทนเนอร์แช่เย็น นำเข้ามาจากบราซิล และอีกหลายประเทศ อีกทั้งเมื่อได้ เปิดตรวจตู้คอนเทนเนอร์ ตกค้างอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จนถึงวันที่ 21 เมษายน 2566 ได้ทำการตรวจตูคอนเทนเนอร์ไปทั้งสิ้น จำนวน 220 ตู้ ส่วนใหญ่สุกร 161 ตู้ น้ำหนัก 4.50 ล้านกิโลกรัม จึงส่งมอบให้กรมปศุสัตว์ฝังกลบทำลาย การลักลอบนำเข้าโดยไม่ยอมเสียภาษี เนื่องจากคนไทยนิยมทานหมูกระทะ ชาบู จึงทำให้มีความต้องการเนื้อสุกรสูงมาก
อย่างไรก็ตาม กรมศุลกากรขอแจ้งเตือนโปรดอย่าหลงเชื่อกรณีแอบอ้างชื่อกรมศุลกากรในการหลอกลวงประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ กรณีหลอกให้รัก หลอกให้โอนเงิน ในกรณีที่ชาวต่างชาติหรือบุคคลที่ทำความรู้จักกับผู้เสียหายผ่านทางสื่อออนไลน์ แจ้งว่าได้ส่งของขวัญหรือของมีค่าต่าง ๆ มาให้ และขอให้ผู้เสียหายโอนเงิน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายและค่าภาษีศุลกากรสำหรับสิ่งของดังกล่าวทำให้ผู้เสียหายต้องโอนเงินไปให้ และยังมีกรณีที่มิจฉาชีพโทรมาแจ้งว่ามีพัสดุติดค้างที่ศุลกากรและให้โอนเงินค่าภาษีศุลกากร เนื่องจากปัจจุบัน การซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์กำลังได้รับความนิยม สินค้าบางประเภทถูกส่งมาจากต่างประเทศ จึงเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพทำการหลอกลวงว่า ได้สั่งซื้อพัสดุมาจากต่างประเทศและมีภาระค่าภาษีศุลกากร ให้โอนเงินชำระค่าภาษี ไม่เช่นนั้นจะทำการยึดสินค้าดังกล่าว
หากมีข้อสงสัย ท่านสามารถสอบถามข้อมูล เพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมศุลกากร 1164 หรือศูนย์บริการศุลกากร(Customs Care Center) โทรศัพท์ 02-667-6000, 02-667-7000 ต่อ 205844-8 หรือ website: ccc.customs.go.th หรือติดต่อด้วยตนเอง หรือโทรศัพท์สอบถามไปยัง สำนักงานหรือด่านศุลกากรทุกแห่ง ในวันและเวลาราชการ .-สำนักข่าวไทย