กรุงเทพฯ 21 เม.ย.- จับตา อนุฯ เอฟทีประชุมบ่ายวันนี้ลดค่าไฟงวดใหม่ 7 สตางค์ต่อหน่วย ด้าน บอร์ด กกพ.รับลูกประชุมนัดพิเศษจันทร์นี้ เอกชน-นักวิชาการประสานเสียงรื้อโครงสร้างค่าไฟ ในขณะที่อากาศร้อนการใช้ไฟฟ้าทำลายสถิติสูงสุดของประเทศแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อากาศร้อนจัดช่วงนี้ คนเปิดแอร์คลายร้อน ส่งผลความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศในระบบ 3 การไฟฟ้า เกิดพีคหรือสูงสุดของปีต่อเนื่องและเมื่อวันที่ 20 เม.ย. เวลา20.50น. ยอดใช้ไฟฟ้าทำลายสถิติสูงสุด หรือนิวไฮ ของประเทศ ที่ 32,323.7 MW ส่งผลสำรองไฟฟ้าเหลือประมาณร้อยละ 36
ส่วนบ่ายวันนี้ ติดตามอนุกรรมการค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที ) คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะพิจารณาเรื่องการปรับลดค่าไฟฟ้าเอฟทีสำหรับ งวดที่2/66 (พ.ค.-ส.ค.66 ) ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เสนอขอยืดหนี้การชำระค่าไฟฟ้าที่รับภาระแทนประชาชนไปก่อนจาก 2 ปี เป็น 2ปี 4 เดือน ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยงวดที่2 ของปีนี้ เดือน พ.ค.-ส.ค. ลดลงจาก 4.77 บาทเป็น 4.70 บาท/หน่วย โดยคาดว่าจะได้รับความเห็นชอบ และบอร์ด กกพ.จะประชุมนัดพิเศษวันจันทร์ ที่ 24 เม.ย. เพื่อมีมติทบทวนค่าไฟ และจะเปิดรับฟังความคิดเห็นอีกรอบ ก่อนประกาศใช้ต่อไป
บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) .วิเคราะห์ว่า หากเอฟทีปรับลด ประเมิน เป็น Sentiment ลบต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าผู้ขายไฟฟ้าอุตสาหกรรม (IU) อย่าง GPSC และ BGRIM ทางตรงข้ามจะเป็น บวกต่อหุ้นที่ใช้ไฟ อาทิ กลุ่มโรงแรม, ร้านอาหาร, กลุ่มค้าปลีก ที่ต้นทุนจะลดลง
นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า กล่าวว่า การทบทวนค่าเอฟทีหวังจะลดลงเหลือต่ำกว่า 4.40 บาท/หน่วย ตามที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.)ได้เสนอต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไปแล้วเมื่อ 10 เม.ย. โดยเสนอให้ ยืดหนี้ จ่ายคืน แก่ กฟผ.จาก 2 ปี เป็น 3 ปี โดยไม่กระทบสถานะทางการเงินของกฟผ.มากเกินไปในช่วงต้นทุนพลังงานขาลง และขอให้ ปรับลดสูตรคำนวณ ค่าก๊าซธรรมชาติเหลว( LNG ) นำเข้า จาก 20 เหรียญต่อล้านบีที (ราคาเฉลี่ยเดือน ม.ค.66) ให้สอดคล้อง กับ ราคาตลาดในปัจจุบัน (ต่ำกว่า 13 เหรียญต่อล้านบีทียู)
นายชาลี เจริญลาภนพรัตน์ นักวิชาการด้านพลังงาน สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ค่าไฟฟ้าจะประกอบไปด้วยค่าไฟฐานและค่าเอฟที วิธีแก้ปัญหาค่าไฟฟ้าแพง ควรจะต้องมีการปรับลดโรงไฟฟ้าส่วนเกินที่เป็นต้นทุน เนื่องจากโรงไฟฟ้าในประเทศไทยมีกำลังการผลิต 52,000 เมกะวัตต์ แต่ใช้จริงเพียง 33,000 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ ยังเห็นควรว่า รัฐบาลควรหยุดซื้อไฟฟ้าจากเอกชนเพิ่มเติมเพราะการซื้อไฟฟ้าจากเอกชน รัฐบาลจะต้องจ่ายค่าพร้อมจ่ายให้กับโรงไฟฟ้าเอกชนถึงปีละ 49,000 ล้านบาท หรือ ควรล้มเลิกการประมูลโรงไฟฟ้าที่ยังไม่ได้เซ็นสัญญา โดยจ่ายค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริงให้กับเอกชน รวมทั้ง ควรใช้ก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยมาผลิตไฟฟ้าให้มากขึ้นและเป็นราคาเดียวกันกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องค่าไฟฟ้าแพงในขณะนี้และในอนาคตได้
นายพรายพล คุ้มทรัพย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน กล่าวว่า สัญญาไฟฟ้าระหว่างรัฐ-เอกชนเป็นสัญญาผูกพันระยะยาว ไม่ใช้ก็ต้องจ่าย มีค่าความพร้อมจ่าย (AP) ซึ่งก็หวังว่ารัฐบาลใหม่จะมีการเจรจากับเอกชนเพื่อปรับสูตรให้เหมาะสม และจากที่ขณะนี้ ต้นทุนค่าไฟฟ้าพลังงานทดแทนลดต่ำลง ก็จะมีการวางรากฐานส่งเสริมด้านนี้มากขึ้น จนไม่จำเป็นต้องประกาศสร้างโรงไฟฟ้าฟอสซิล ส่วนต้นทุนก๊าซธรรมชาติเป็นเรื่องที่ปรับเปลี่ยนได้ยากเพราะขึ้นลงตาม ราคาตลาดโลก ในขณะที่การอุดหนุนค่าไฟฟ้าโดย กฟผ.นั้น สุดท้ายแล้วก็ถือว่าเป็นภาระหนี้ของประเทศ .-สำนักข่าวไทย