กรุงเทพฯ 20 เม.ย. – ธ.กรุงเทพ เผยกำไรสุทธิไตรมาส 1/2566 จำนวน 10,129 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4 ปี 2565 มีเงินให้สินเชื่อ 2,640,090 ล้านบาท ลดลง 1.6% จากสิ้นปี 2565 ย้ำดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง รอบคอบ รักษาเสถียรภาพการเงิน
ธ.กรุงเทพ เปิดเผยว่า ไตรมาส 1 ปี 2566 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการจ้างงานและการบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน การส่งออกเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวขึ้นบ้าง จากที่หดตัวในช่วงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ในระยะข้างหน้าเศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับความเสี่ยงจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว อัตราเงินเฟ้อที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ และสถานการณ์ปัญหาสถาบันการเงินในประเทศเศรษฐกิจหลัก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ภายใต้ทิศทางเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน
ทั้งนี้ ธ.กรุงเทพ และบริษัทย่อย รายงานกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 1 ปี 2566 จำนวน 10,129 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4 ปี 2565 โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ในระดับเดียวกับไตรมาสก่อน จากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นตามการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยสุทธิกับค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เงินรับฝาก และการปรับอัตราเงินนำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเข้าสู่ระดับเดิมที่ร้อยละ 0.46 ต่อปี และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 2.84 สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่มาจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเครื่องมือทางการเงิน ซึ่งเป็นไปตามสภาวะตลาด และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สำหรับอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานลดลงเป็นร้อยละ 46.8 ธนาคารตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จำนวน 8,474 ล้านบาท โดยพิจารณาถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า พร้อมย้ำยังดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ พร้อมทั้งรักษาเสถียรภาพฐานะการเงิน สภาพคล่อง และเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2566 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อ จำนวน 2,640,090 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยที่ร้อยละ 1.6 จากสิ้นปี 2565 ส่วนใหญ่จากสินเชื่อลูกค้าธุรกิจและสินเชื่อลูกค้ากิจการต่างประเทศ. – สำนักข่าวไทย