รร.พูลแมนฯ 20 เม.ย.- ตัวแทนพรรคการเมือง โชว์วิสัยทัศน์แก้ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน ระบุชัดต้องบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด ป้องกันทำผิดซ้ำ พร้อมแก้ปัญหาทุจริตงบประมาณ ให้ประชาชนร่วมตรวจสอบ
ในเวทีแสดงวิสัยทัศน์ “พรรคการเมืองเพื่อนโยบายความปลอดภัยทางถนน” จากผู้แทนพรรคการเมืองต่างๆ จัดโดยภาคีความปลอดภัยทางถนน โดยในเวทีฯ มีการตั้งคำถามหลักว่า หากได้เป็นรัฐบาลจะทำหรือไม่ทำอะไรในเรื่องความปลอดภัยบนถนน และจะบริหารงบประมาณอย่างไรเพื่อแก้ปัญหาอุบัติเหตุ
นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า หากได้เป็นรัฐบาลจะให้ความสำคัญในการแก้ไขอุบัติเหตุทางถนน สิ่งที่เป็นมิติใหม่ที่จะทำคือ ในการทำรายงานเพื่อแก้ไขปัญหา จะต้องระบุให้ชัดเจนว่าจะแล้วเสร็จเมื่อใด จะต้องระบุให้ชัดว่าแก้ปัญหาที่จุดใด ไม่ใช่ให้แต่ละหน่วยฯ เสนอเข้ามาแล้วดึงงบไป เพราะหากชี้ปัญหาได้ถูกจุด จะทำให้ประหยัดเงินได้มหาศาล ขณะเดียวกัน ต้องทำให้ทุกคนได้เข้าถึงขนส่งสาธารณะมากขึ้น เพื่อแก้ปัญหารถติด ผลพลอยได้คือจะช่วยลดอุบัติเหตุ ส่วนการแก้ปัญหาอุบัติเหตุต้องมาจากการเปลี่ยนพฤติกรรม ย้ำหากเป็นรัฐบาลกล้าชนกับปัญหา เช่น เรื่องส่วย ต้องทำให้คนเคร่งครัดปฏิบัติตามกฎหมายดีขึ้น และให้เข้าใจกับพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้คนอื่นเดือดร้อน
นายนิกร จำนง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ตนเคยบอกไว้ว่า ชีวิตนี้จะอุทิศให้กับการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุ และช่วยชีวิตคนบนถนนให้ได้มากที่สุด โดยทำเรื่องนี้มานานกว่า 20 ปี บรรลุเป้าหมายในหลายเรื่อง แต่เรื่องที่สำคัญที่ใกล้สำเร็จ คือ ศาลจราจร หากตั้งแล้วเสร็จ จะช่วยให้คดีที่เกี่ยวกับการจราจร พิจารณาได้เร็ว ทำให้คนกลัวการทำความผิดมากขึ้น ขณะที่ในแต่ละปีมีการสูญเสียจากอุบัติเหตุ คิดเป็นเงิน 5 แสนล้านบาท/ปี ถือเป็นความบกพร่องของภาครัฐที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ และประเทศไทยยังได้ชื่อว่าเป็นประเทศสุสานจักรยานรอบโลก เพราะนักปั่นทั่วโลกรอดมาจากหลายประเทศ แต่กลับมาจบชีวิตที่ประเทศไทย
นายณัฐวัฒน์ พอใช้ได้ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ถนนหลายเส้นทางเป็นหลุมเป็นบ่อ รถจักรยานยนต์มีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเกิดอุบัติเหตุ ถ้าได้เป็นรัฐบาล จะผลักดันนโยบายไม่ให้มีการทุจริต เพราะเชื่อว่าจะทำให้ถนนแข็งแรงขึ้น ขณะที่กฎหมายที่มีบทลงโทษไม่รุนแรง ทำให้คนฝ่าฝืนกฎหมาย เช่น การไม่สวมหมวกกันน็อก ควรเพิ่มค่าปรับให้มากขึ้น และต้องบังคับใช้อย่างจริงจัง และจะเสนอเอาโดรนทำซีมูเลเตอร์ด้านการจราจร เอาผลจากการถ่ายทั้งหมดมาวิเคราะห์แก้ปัญหาลดอุบัติเหตุ ทั้งนี้ ต้องจัดการแก้กฎหมายที่ล้าหลังให้ทันสมัยมากขึ้น จัดงบประมาณลงในส่วนที่สำคัญก่อน
พ.ต.อ.ทศพล โชติคุตร์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า หากเป็นรัฐบาล เชื่อว่ามีนโยบายที่ลดการเกิดอุบัติเหตุได้ร้อยละ 50 เพราะมีประสบการณ์เรื่องการจราจร ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังต่อเนื่อง รวมถึงใช้โทษสูงสุด ขณะที่ระบบขนส่งชานเมืองต้องทำอย่างทั่วถึงและเชื่อว่าทำได้แน่นอน และเสนอแก้กฎหมายที่ล้าหลัง
น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ต้องดูว่าเหตุของปัญหาที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมี 3 อย่าง คือ คน ถนน และรถยนต์ เมื่อวิเคราะห์ที่มาของปัญหาแล้ว แก้ให้ตรงจุด หากเป็นคนควรมีการบันทึกความประพฤติความเสี่ยงก่อให้เกิดอุบัติเหตุ พบปัญหาเดิมๆ บ่อยครั้งให้ดำเนินการห้ามขับขี่อย่างเด็ดขาด หากเป็นถนน ต้องดูจุดตัดจุดเสี่ยง รวมถึงรถยนต์ที่เก่าก็เป็นปัญหาได้ แต่ต้องยอมรับว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยไม่สามารถทำให้ประชาชนซื้อรถใหม่ได้ตลอด เหมือนกับต่างประเทศที่มีระบบกำจัดรถเก่า
น.ส.ศณิศา จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า อยากให้ทุกคนรู้ปัญหาจริงๆ ก่อน เพราะปัญหาอุบัติเหตุไม่ได้มีแค่ชน หรือเมา รถติดก็เป็นปัญหาหลัก หากเราทำบัตรแมงมุม ให้ครอบคลุมกับการใช้รถสาธารณะ และลดราคาลงเรื่อยๆ จะดึงประชาชนมาใช้มากขึ้น และนำเทคโนโลยีเข้ามา สร้างการเรียนรู้ให้ประชาชนเข้าใจกฎหมายจราจร ว่าหากผิดเจอปรับ จ่ายจริง
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ปัญหาอุบัติเหตุใน กทม.มีเป็นจำนวนมาก ควรมีมาตรการลงโทษ รวมถึงการช่วยเหลือแจ้งเตือนในจุดเสี่ยง และในอนาคตอาจพิจารณาย้ายเมือง เพราะปัจจุบันเมืองมีการขยายตัว เพื่อลดปัญหา อย่างไรก็ตาม การออกแบบโครงสร้างที่จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุ และจูงใจให้คนใช้รถสาธารณะเพิ่มมากขึ้น ฝึกจิตใจคนในเวลาขับรถไม่ให้เป็นเหมือนปีศาจ รวมถึงเมาไม่ขับ ต้องมีมาตรการลงโทษอย่างเด็ดขาด เพื่อลดปัญหาเชิงระบบ.-สำนักข่าวไทย