กรุงเทพฯ 1 มิ.ย. – ประธานกรรมการบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โอลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) มั่นใจไม่เกิน 3 ปี ประชาชนก็จะได้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชนและร่างสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้ารถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง โดยรูปแบบจะเป็นแบบโมโนเรล หรือ รถไฟฟ้ารางเบา โดยจะมีการลงนามก่อสร้างในวันที่ 16 มิถุนายนนี้ กำหนดระยะเวลาดำเนินการก่อสร้าง 3 ปี 3 เดือน ก่อนเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการ หรือ ในช่วงประมาณปลายปี 2563
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โอลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวยืนยัน ถึงความพร้อมการดำเนินการ และจะยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลพิจารณาและเร่งศึกษาเพื่อขอขยายเส้นทางเพิ่มเติมสำหรับรถไฟฟ้าสายสีชมพู โดยเสนอขอขยายเส้นทางเข้าไปที่อิมแพคเมืองทองธานี ระยะทาง 2.8 กิโลเมตร จะมี 2 สถานี คือ บริเวณอาคารอิมแพคชาเลนเจอร์ และบริเวณทะเลสาบเมืองทองธานี เพื่อรองรับประชาชนที่เข้าที่มาใช้บริการศูนย์ประชุมฯ ปีละกว่า 10 ล้านคน และประชาชนที่อยู่อาศัยอีกกว่า 1 แสน 5 หมื่นคน
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ได้เสนอขอเพิ่ม 2 สถานีเช่นกัน คือ จากบริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว ไปตามแนวถนนรัชดาภิเษกจนถึงแยกรัชโยธินเพื่อเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยเสนอขอเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามในส่วนของข้อเสนอดังกล่าว ยังต้องมีการศึกษาตามขั้นตอนของกฏหมายกฏหมายก่อน ทั้งในส่วนต่อขยายคาดว่า จะต้องรอข้อสรุปเรื่องผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ ประมาณ 1 ปี และการจัดทำแผนแม่บทของ สนข. ที่ยังไม่ได้จัดทำแผนแม่บท รวมถึงต้องรอการตัดสินใจของรฟม. ก่อน
ขณะเดียวกันการดำเนินการในครั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่ต้องการให้คิดว่าเอื้อประโยชน์ให้กับ บริษัท บางกอกแลนด์ของนายอนันต์ กาญจนพาสน์ แต่อยากให้เห็นถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับในการเดินทางไปยังพื้นที่เมืองทองธานีได้อย่างสะดวก และเมื่อการเชื่อมต่อต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียว//สีชมพูและสีเหลือง เพราะหากเชื่อมต่อกันคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการ 1.5 ล้านคนต่อวัน – สำนักข่าวไทย