หอการค้าไทยผนึกโออาร์พัฒนาศักยภาพ SMEs ให้เข้มแข็ง

กรุงเทพฯ 12 เม.ย.-หอการค้าไทย ผนึก โออาร์พัฒนาศักยภาพ SMEs ให้เติบโตอย่างยั่งยืนโดยลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการ Big Brother ระหว่าง หอการค้าไทย และ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ ร่วมเป็นบริษัทพี่เลี้ยงในการพัฒนาศักยภาพ ถ่ายทอดองค์ความรู้ และประสบการณ์ทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ SMEs ให้มีการเติบโตอย่างเข้มแข็ง


นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าโครงการ Big Brother ได้ดำเนินการมากว่า 7 ปี โดยองค์ประกอบที่สำคัญในการสร้างความสำเร็จให้กับบริษัทน้อง ให้เกิดขึ้นได้นั้น ล้วนมาจากความมุ่งมั่นตั้งใจของบริษัทพี่เลี้ยง ที่ใช้ความพยายามในการถ่ายทอดองค์ความรู้ และประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจให้กับบริษัทน้องอย่างเข้มข้น โดยพี่เลี้ยงแต่ละบริษัทจะบ่มเพาะให้กับบริษัทน้องเป็นเวลา 6-8 เดือนในแต่ละรุ่น นอกจากการถ่ายทอดองค์ความรู้ในการดำเนินธุรกิจแล้ว ยังช่วยวางแผนการดำเนินงานในอนาคต โดยมีจุดมุ่งหมายในการสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างยิ่งต่อการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน

สำหรับในปีนี้ เป็นปีเฉลิมฉลอง 90 ปี หอการค้าไทย ภายใต้แนวคิด Connect – Competitive – Sustainable หอการค้าฯ ให้ความสำคัญ กับการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของ SMEs ซึ่งตรงกับวัตถุประสงค์ของโครงการนี้ และการที่บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ มาร่วมเป็นพี่เลี้ยงในครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่จะได้สานต่อในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ร่วมกัน ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติต่อไป


นายพลิษศร์ ภิรมย์ภักดี รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการเพิ่มความเข้มแข็งให้สมาชิก กล่าวว่า โครงการ Big Brother ถือเป็นโครงการหลักของหอการค้าไทย ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากบริษัทพี่เลี้ยงชั้นนำของประเทศที่มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจ มาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ และประสบการณ์ทางธุรกิจ ให้กับผู้ประกอบการ SMEs ตลอดระยะเวลา 6 Season ที่ผ่านมา ได้บ่มเพาะบริษัทน้องเลี้ยงไปกว่า 363 บริษัท  สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ให้กับประเทศ ได้มากกว่า 4,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือ ทางโออาร์ ได้มาร่วมเป็นบริษัทพี่เลี้ยง ถือว่าเป็นองค์กรที่มีประสบการณ์อย่างยาวนานของผู้บริหารกลุ่ม ปตท. และจะเป็นประโยชน์อย่างมากกับผู้ประกอบการ อีกทั้ง มีความหลากหลายของบริษัทในเครือฯ จะสามารถช่วยเสริมองค์ความรู้ให้กับสมาชิกโครงการได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ทั้งหอการค้าไทย และ โออาร์ มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยในประเทศให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ในทุกสภาวะเศรษฐกิจ

นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ โออาร์ ในการสร้างโอกาสในการดำเนินธุรกิจและช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ SMEs ไทย อีกทั้งยังตอบโจทย์กลยุทธ์เป้าหมายการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่าน SDG ในแบบฉบับของ โออาร์ หรือ “OR SDG” ในด้าน “S-Small” หรือการสร้างโอกาสเพื่อคนตัวเล็ก โดย โออาร์ ยินดีที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านธุรกิจและประสบการณ์ต่างๆ ที่ โออาร์ มีอยู่ เพื่อช่วยยกระดับผู้ประกอบการ SMEs ไทย ให้มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจและมีมาตรฐานในด้านต่างๆ เพิ่มขึ้น รวมไปถึงเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน อันจะนำไปสู่การจ้างงานและเพิ่มการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจของประเทศ และหวังว่าองค์ความรู้และประสบการณ์การบริหารธุรกิจดังกล่าว จะเป็นประโยชน์กับ “บริษัทน้อง” ที่เข้าร่วมโครงการ และช่วยให้ SMEs ไทยเติบโตได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป


นายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา โออาร์ ได้ให้การสนับสนุน SMEs ไทยหลากหลายรูปแบบ เช่น การสนับสนุนให้ SMEs เข้ามาขายสินค้าในธุรกิจของ โออาร์ ทั้งในสถานีบริการ PTT Station และร้าน Café Amazon ทั่วประเทศ ซึ่งการสนับสนุน SMEs ไทยในโครงการ Big Brother นี้ โออาร์ จะจัดกิจกรรมให้ “บริษัทน้อง” ที่เข้าร่วมโครงการเข้าเยี่ยมชมศูนย์ธุรกิจ Café Amazon (AICA) ที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ที่ดีให้กับบริษัทที่เข้าร่วมโครงการนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาต่อยอดธุรกิจของตนเอง รวมถึง โออาร์ จะส่งทีมงานเข้าไปช่วยให้คำแนะนำแก่ “บริษัทน้อง” ที่อยู่ภายใต้ความดูแลเพื่อช่วยพัฒนาองค์ความรู้ด้านต่างๆ อย่างยั่งยืนอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร