กทม. 11 เม.ย.-ผู้ถือหุ้น ไฟเขียว บางจากเทกโอเวอร์ ESSO จาก ExxonMobil คาดดีลแล้วเสร็จช่วง ไตรมาส3-4 ซึ่งจะทำให้มีปั๊มในเครือ 2,150 แห่งหรือคิดเป็น 7.4% ของมาร์เก็ตแชร์
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผู้ถือหุ้นอนุมัติ ให้บริษัทฯ เข้าซื้อหุ้น และทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO ซึ่งเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทฯ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของบริษัทฯในฐานะผู้ประกอบธุรกิจโรงกลั่นและสถานี บริการน้ำมันชั้นนำของประเทศไทย
โดยเข้าซื้อหุ้นสามัญโดยตรง 2,283.75 ล้านหุ้น ในเอสโซ่ คิดเป็นสัดส่วน 65.99% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด จากผู้ขาย คือ บริษัท ExxonMobil Asia Holding Ptr. Lte ซึ่งบางจากฯ ได้ทำสัญญาซื้อขายหุ้นเมื่อ 11 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา โดยกลไกการปรับราคาซื้อขายหุ้นตามที่ระบุในสัญญาซื้อขายหุ้น และการทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดอีก 1,177.108 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 34.01%
การซื้อหุ้น ESSO เป็นการเสริมศักยภาพโรงกลั่น ที่ปัจจุบันบางจากกลั่นได้ 123,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะทำให้บางจากฯ มีกำลังการกลั่นน้ำมันรวม 294,000 บาร์เรลต่อวัน สามารถดำเนินธุรกิจโรงกลั่นได้ครบวงจรมากขึ้น จัดหาน้ำมันดิบได้หลากหลายขึ้น ส่วนสถานีบริการหากผ่านเงื่อนไขบังคับทั้งหมด จะมีเครือข่ายสถานีบริการกว่า 2,150 แห่ง หรือคิดเป็น 7.4% ของมาร์เก็ตแชร์ ซึ่งตอนนี้เหลือขั้นตอน ก ข ค ซึ่งเป็นไปตามระเบียบที่ต้องใช้เวลาพิจารณา 105 วัน หากผ่านแล้วก็จะทำการซื้อขายได้ในช่วงไตรมาส 3 ต่อไตรมาส4 คาดราคาขะอยู่ที่ 8-9 บาท เมื่อซื้อขายเสร็จเรียบร้อย ก็จะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่เหลือทั้งหมดของเอสโซ่จาก ผู้ถือหุ้นรายอื่น ในเงื่อนไขเดียวกับที่ซื้อจาก Exxon โดยจะทยอยเปลี่ยนเป็นปั้มบางจาก ซึ่งจะใช้โลโก้ใหม่ทั้งหมด ซึ่งก็เป็นจังหวะที่ดีที่บางจากจะเปลี่ยนโลโก้ใหม่ด้วย โดยตั้งแต่ไตรมาส2 เป็นต้นไปปั้มบางจากจะทยอยเปลี่ยนโลโก้ และปั้ม ESSO ก็จะเปลี่ยน คาดภายใน 3-6 เดือน จะสามารถเปลี่ยนปั้ม ESSO เป็นบางจากได้มากถึง 80% ส่วนน้ำมันเรากำลังจะออกผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดตัวหนึ่งคือ แก๊สโซฮอล์ 97 จะมาตอบสนองผู้ใช้ซุปเปอร์คาร์ ซึ้งขณะนี้มีให้บริการแล้วจำนวนร้อยกว่าปั้ม
นอกจากนี้ผู้ถือหุ้นยังอนุมัติวงเงินในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ ระยะเวลา 5 ปี (ปี 2566 – 2570)
เพื่อใช้ในการลงทุน และ/หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนทั่วไป และ/หรือเพื่อชำระคืนหนี้สินเดิม และ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่ เกี่ยวข้องกับกิจการของบริษัทฯ เป็นวงเงินรวมไม่เกิน 80,000 ล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี (ปี 2566-2570) อย่างไรก็ตามดอกเบี้ยขาขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบมาก เพราะบางจากฟิกซ์ดอกเบี้ยไว้ราว80% เหลือ 20%เท่านั้นที่จะได้รับผลกระทบ
ส่วนแนวโน้มราคาพลังงานทั้งปีนี้ นายชัยวัฒน์มองว่ายังผันผวน มีดีประมาณ 4-5เดือน ธรรมดา 3 เดือน และยังต้องลุ้นอีก 3 เดือนเป็นธรรมชาติของธุรกิจน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้บางจากจะตรึงราคาน้ำมัน ไม่ขึ้นราคาน้ำมันทุกประเภท.-สำนักข่าวไทย