กรุงเทพฯ 10 เม.ย.-นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เผยยอดส่งออกข้าวไทยช่วง 2 เดือนแรกยังเติบโตต่อเนื่อง โดยคิดปริมาณเพิ่มขึ้น 28.2% ซึ่งตลาดหลักส่งออกข้าวไทยที่ขยายตัวดี เช่น สหรัฐ จีน ฮ่องกง แคนาดา สิงคโปร์ คาดยอดเดือนมี.ค.จะส่งออกได้ไม่ต่ำกว่า 700,000-730,000 ตัน
ร.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยกล่าวถึงยอดการส่งออกข้าวในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 มีปริมาณ 599,696 ตัน มูลค่า 11,127 ล้านบาท โดยปริมาณลดลง 25.6% และมูลค่าลดลง 22.1% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2566 ที่มีการส่งออกปริมาณ 805,519 ตัน มูลค่า 14,277 ล้านบาท เนื่องจากในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 การส่งออกข้าวขาวและข้าวนึ่งมีปริมาณลดลงมากจากเดือนก่อน เพราะการส่งออกไปยังตลาดสำคัญ ได้แก่ อินโดนีเซียและบังคลาเทศมีปริมาณลดลง ประกอบกับผู้นำเข้าบางส่วนชะลอการซื้อเพื่อรอดูผลผลิตข้าวนาปรังที่จะเริ่มออกสู่ตลาดในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนนี้ ส่งผลให้การส่งออกข้าวขาวมีปริมาณ 312,556 ตัน ลดลง 10% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน
ส่งผลให้ยอดการส่งออกข้าวในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2566 มีปริมาณ 1,405,214 ตัน มูลค่า 25,404.1 ล้านบาท (753.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) โดยปริมาณเพิ่มขึ้น 28.2% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 38.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 ที่ส่งออกปริมาณ 1,095,693 ตัน มูลค่า 18,376.8 ล้านบาท (556.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่ส่งไปประเทศอิรัก อินโดนีเซีย โมซัมบิก แทนซาเนีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ญี่ปุ่น แคเมอรูน เป็นต้น ส่วนข้าวนึ่งมีการส่งออกปริมาณ 53,894 ตัน ลดลงถึง 71.9% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยส่วนใหญ่ส่งไปยังตลาดประจำ เช่น แอฟริกาใต้ เยเมน แคเมอรูน เป็นต้น ในขณะที่การส่งออกข้าวหอมมะลิ (ต้นข้าว) มีปริมาณ 99,380 ตัน เพิ่มขึ้น 6.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยส่งไปยังตลาดหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา จีน ฮ่องกง แคนาดา สิงคโปร์ เป็นต้น
ทั้งนี้ สมาคมฯคาดว่าในเดือนมีนาคม 2566 ปริมาณส่งออกข้าวจะอยู่ที่ระดับประมาณ 700,000-730,000 ตัน เนื่องจากความต้องการนำเข้าข้าวในตลาดโลกมีมากขึ้นจากการที่อุปทานข้าวของประเทศผู้ผลิตและผู้ส่งออกที่สำคัญ เช่น อินเดีย เวียดนาม ปากีสถาน มีปริมาณจำกัด ขณะที่ผู้นำเข้าที่สำคัญของไทยยังคงนำเข้าทั้งข้าวขาวและข้าวนึ่งอย่างต่อเนื่องเพื่อชดเชยสต็อกข้าวในประเทศที่มีปริมาณลดลง ประกอบกับผลผลิตข้าวนาปรังออกสู่ตลาดมากขึ้นทำให้มีอุปทานข้าวที่ส่งออกได้มากขึ้น ในขณะที่ราคาส่งออกข้าวของไทยอยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้จากการที่ค่าเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในระดับ 34.0-34.5 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้ราคาข้าวขาว 5% ของไทย ณ วันที่ 5 เมษายน 2566 อยู่ที่ 505 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ขณะที่ราคาข้าวขาว 5% ของเวียดนาม อินเดีย และปากีสถาน อยู่ที่ 473-477, 432-436 และ 483-487 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ตามลำดับ ส่วนราคาข้าวนึ่งไทยอยู่ที่ 517 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ขณะที่ข้าวนึ่งของอินเดีย และปากีสถานอยู่ที่ 378-382 และ 473-477 เหรียญสหรัฐฯต่อตันเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย