อดีตปลัดพาณิชย์แจงข่าวผลิตข้าวถุงหลังปปช.ชี้มูลผิดปกติ

กรุงเทพฯ 10 เม.ย.-“ยรรยง พวงราช”อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ชี้แจงผ่านเฟสบุ๊ค จากกรณีข่าวหลุดหรือข่าวปล่อย(โดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ)ในสื่อฉบับหนึ่งเมื่อ 31 มีค 66และต่อมา 5 เมย 66 เลขา ปปช ก็ออกมายืนยันว่าคณะกรรมการ ปปช ได้ชี้มูลว่าตนและพวกได้กระทำความผิดกรณีการผลิตข้าวถุงของ อตก เพื่อแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยนํ้าท่วมและอื่นๆเมื่อปี 2555 ซึ่งญาติมิตรจำนวนมากได้แสดงความห่วงใยและวิตกกังวลเป็นอันมากนั้น ตนคิดว่ามีความจำเป็นต้องสรุปเรื่องราวกรณีดังกล่าวเพื่อให้ญาติมิตรได้เข้าใจในตัวตนและเพื่อบรรเทาความเสียหายต่อชื่อเสียงของตนจากการเผยแพร่ข่าวนี้ในสื่อส่วนตัว


นายยรรยง พวงราช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า กรณีประเด็นหลักที่ถูกกล่าวหานี้เกี่ยวกับการที่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช)มีมติอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงข้าวสารให้ อตก นำไปจัดทำข้าวถุงเพื่อแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยจากสต๊อกข้าวรัฐบาลจากข้าวเก่าปี 2552 เป็นข้าวใหม่ปี 2554 โดยไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนและเอื้อประโยชน์ให้ผู้รับจ้างผลิตข้าวถุงของ อตก

ผมประหลาดใจมากที่ ปปช เพิ่งมาชี้มูลเพราะ ปปช ได้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2559 โดยไม่มีชื่อตนถูกไต่สวนมาตั้งแต่ต้น ตนเพิ่งได้รับแจ้งว่าถูกคณะกรรมการไต่สวนที่ ปปช ตั้งขึ้นแทนชุดเก่าเมื่อปี 2563 ได้สอบสวนต่อมาโดยไม่ได้แจ้งให้ตนทราบ เพิ่งมาแจ้งให้ทราบเมื่อ 1 กค 2564 ตนจึงไม่มีโอกาสคัดค้านกรรมการไต่สวนที่มีสิทธิคัดค้านได้ เช่น กรรมการบางคนที่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองและตัดสิทธิผมในการคัดค้านกระบวนการไต่สวนและข้อเท็จจริงที่ไม่ถูกต้องมาตั้งแต่แรก


ทั้งนี้ ประเด็นที่ตนได้ชี้แจงต่อคณะกรรมการไต่สวนของ ปปช สรุปได้ดังนี้

1  มติของ กขช ที่อนุมัติให้ อตก เปลี่ยนข้าวเป็นมติที่ถูกต้องชอบธรรมและเป็นประโยชน์แก่ประชาชนผู้ประสบภัย และเหตุผลที่คณะกรรมการ กขช มีมติอนุมัติให้เปลี่ยนข้าวเพราะเห็นว่าข้าวเก่าปี 2552 ย่อมเสื่อมสภาพไม่มากก็น้อยเพราะข้าวสารเป็นสินค้าเน่าเสียง่าย แม้ไม่ตรวจสอบก็สามารถคาดการณ์ได้ ประกอบกับช่วงปี 2554 ได้เกิดเหตุการณ์นํ้าท่วมใหญ่ซึ่งมีผลกระทบต่อคุณภาพของข้าวในสตอกรัฐบาลที่เก็บมาตั้งแต่ปี 2552 ด้วย โดยเกี่ยวกับเรื่องนี้ตนได้ทักท้วงว่าคณะกรรมการไต่สวนนำข้อเท็จจริงที่ไม่ถูกต้องมากล่าวหาตนโดยอ้างว่าข้าวเก่าปี 2552 มีคุณภาพดีเพราะประมูลขายได้ราคาถึงตันละ 10,000 บาท แต่ความจริงคือราคาข้าวสาร 5% ปี 2552 ราคาขายส่งประมาณตันละ 17,000 บาท ซึ่งสามารถยืนยันในทางตรงกันข้ามได้ว่าข้าวปี 2522 มีคุณภาพตำ่มากกว่าปกติค่อนข้างมาก

ส่วนเหตุผลอีกอย่างหนึ่งที่ กขช ไม่ได้สั่งให้ตรวจสอบคุณภาพข้าวก่อนลงมติอนุมัติก็เพราะว่า กขช ได้เคยมีมติอนุมัติให้ อคส เปลี่ยนแปลงข้าวเก่าเป็นข้าวใหม่ไปผลิตข้าวถุงมาก่อนแล้ว ดังนั้น ตามตรรกะธรรมดาถ้า กขช ไม่อนุมัติให้อตก เปลี่ยนข้าวต่างหากที่น่าจะผิดปรกติ


นอกจากนี้ยังมีเหตุผลอีกอย่างหนึ่งคือในช่วงปี 2553-2555 มีกระแสข่าวโจมตีรัฐบาลว่านำข้าวเน่าปลากระป๋องเน่าและสิ่งของอุปโภคบริโภคเสื่อมคุณภาพหรือหมดอายุไปแจกให้ผู้ประสบภัยจนทำให้นักการเมืองและผู้บริหารบางคนถูกโจมตีกล่าวหาและดำเนินคดี ดังนั้น กขช จึงไม่อยากตกเป็นแพะในลักษณะเดียวกัน

 2  การที่ กขช มีมติอนุมัติให้ อตก เปลี่ยนข้าวก็ไม่ได้ทำให้รัฐเสียหายแต่อย่างใดเพราะข้าวที่อนุมัติให้ อตก เปลี่ยนก็เป็นข้าวชนิดเดียวกันคือข้าวขาว 5%ที่เป็นข้าวที่ประชาชนทั่วไปบริโภคและเก็บอยู่ในคลังที่ อตก รับผิดชอบ คณะกรรมการ กขช จึงต้องเชื่อว่า อตก เองย่อมรู้ดีว่าข้าวเก่าหรือข้าวใหม่เหมาะสมที่จะนำไปผลิตแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยนอกจากนี้ รัฐบาลก็ยังคงมีข้าวในสต๊อกรัฐบาลในปริมาณเท่ากัน และอีกอย่างหนึ่ง ตนเชื่อว่าคณะกรรมการ กขช ก็ตระหนักดีว่าเป็นหน้าที่ที่สำคัญของรัฐที่จะช่วยเหลือและป้องกันไม่ให้ประชาชนผู้ประสบภัยประสบปัญหาสุขภาพซ้ำเติม การช่วยเหลือประชาชนไม่ควรคิดเรื่องกำไรขาดทุน รัฐบาลได้มีโครงการจัดทำข้าวถุงเพื่อแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยในลักษณะเดียวกันนี้มากว่า 20 ปีติดต่อกัน

3 นอกจากจะยืนยันว่ามติ กขช ดังกล่าวถูกต้องชอบธรรมทุกกประการแล้ว ตนก็ได้ชี้แจงว่าตนและนางวัชรี วิมุกตายนรวมทั้งกรรมการทุกท่าน ได้ทำหน้าที่ในฐานะกรรมการเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการ กขช ที่ถูกกล่าวหาได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะดังกล่าวอย่างถูกต้องชอบธรรมทุกประการ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับฝ่ายเลขานุการ กขช เช่นได้ส่งระเบียบวาระการประชุมและเอกสารประกอบรวมทั้งเรื่องที่ อตก ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงข้าวที่เคยได้รับไว้แล้วเป็นข้าวใหม่เพื่อให้คณะกรรมการทุกคนได้พิจารณาล่วงหน้า ดังนั้น กรรมการทุกคนจึงได้รับรู้ประเด็นและข้อมูลละเอียดเพียงพอที่จะเสนอความเห็นและลงมติได้ก่อนเข้าร่วมประชุมอยู่แล้ว นอกจากนี้คณะกรรมการ กขช ก็ยังได้รับรองรายงานการประชุมดังกล่าวในคราวต่อมาโดยไม่มีการทักท้วงใดๆในประเด็นนี้

4 ตนได้ชี้แจงโดยเน้นว่าการบริหารจัดการและกำกับดูแลสตอกข้าวรัฐบาลเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ กขชไม่ใช่กระทรวงพาณิชย์หรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งโดยเฉพาะ ดังนั้น การกำหนดมาตรการหรือสั่งการใดๆจึงต้องทำโดยมติของคณะกรรมการ กขช

 ดังนั้น ตนหรือกรรมการแต่ละคน(แม้แต่ประธาน)จึงไม่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการกำกับดูแลหรือกำหนดมาตรการใดๆเกี่ยวกับสตอกข้าวของรัฐบาลโดยลำพังเพียงคนเดียวแต่อย่างใด โดยหากคณะกรรมการ ปปช จะกล่าวหาตนกระทำความผิดเพราะไม่ได้สั่งให้ตรวจสอบว่าข้าวเก่าเน่าเสียจริงหรือไม่จึงไม่ถูกต้องเพราะตนในฐานะปลัดกระทรวงพาณิชย์และเลขานุการ กขช ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่โดยลำพังเพียงคนเดียวจึงขอยืนยันว่าคณะกรรมการ กขช ได้ดำเนินการในเรื่องนี้โดยถูกต้องชอบธรรมทุกประการ

5 นอกจากนี้ตนก็ได้ชี้แจงเพิ่มเติมในประเด็นที่คณะกรรมการไต่สวนของ ปปช ข้องใจว่าไม่ได้สั่งให้ผู้รับจ้างบรรจุถุงลดค่าจ้างลงเพราะการปรับปรุงคุณภาพข้าวใหม่ตํ่ากว่าข้าวเก่าว่า ตนในฐานะปลัดกระทรวงพาณิชย์และเลขานุการกขช โดยลำพัง ไม่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนการนำข้าวไปบรรจุถุงซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของ อตก ซึ่งเป็นผู้ขออนุมัติและดำเนินการโครงการแต่อย่างใด

“ตนขออภัยที่ต้องชี้แจงยืดยาวไปหน่อยแต่ตนจำเป็นต้องให้ข้อมูลพื้นฐานบางอย่างเพื่อให้ท่านเข้าใจในตัวตนเพื่อจะทำให้ทุกท่านหายข้องใจและคลายกังวล”นายยรรยงกล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]