กรุงเทพฯ 6 เม.ย.-กรมการค้าภายใน ตรวจตลาดเงินวิจิตร ย่านคลองสาน ค้าขายคึกคัก หมูเนื้อแดง-ไก่-ผัก ราคาลดลงต่อเนื่อง แต่มะนาว-ผักชี ยังแพง ตามสภาวะอากาศ พร้อมตรวจเข้มช่วงสงกรานต์
นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์การจับจ่ายซื้อสินค้าของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในตลาดเงินวิจิตร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ จากการตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าในตลาด พบว่า เป็นไปด้วยความคึกคัก พ่อค้าแม่ค้า มีการจำหน่ายสินค้าได้เพิ่มขึ้น ประชาชนมาซื้อสินค้ากันเป็นจำนวนมาก และราคาสินค้าหลายรายการมีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มปศุสัตว์ ที่ภาพรวมปรับลดลงประมาณ 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าบางรายการจะปรับเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังอยู่ภายในโครงสร้างราคาที่กรมฯ กำกับดูแล
โดยหมูเนื้อแดง (ณ วันที่ 4 เม.ย.2566) ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศ 153 บาท/กิโลกรัม (กก.) ลดลงจากปีก่อน 5% เนื้อไก่ แบ่งเป็นน่องไก่ติดสะโพก ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศ 72 บาท/กก. ลดลงจากปีก่อน 4% น่องไก่ ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศ 75 บาท/กก. ลดลง 1% สะโพก ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศ 78 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 1% และเนื้ออกทั่วประเทศ ราคาเฉลี่ย 78 บาท/กก. ลดลง 5% ขณะที่ไข่ไก่ เบอร์ 3 ราคาเฉลี่ย 3.78 บาท/ฟอง เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนและปีก่อนหน้า แต่ราคายังคงอยู่ ภายในโครงสร้างราคาของกรมฯ
ผักสด มีการปรับราคาเพิ่มและลดตามสภาวะอากาศและภาวะตลาด โดยผักที่มีแนวโน้มปรับลดลงจากเดือนก่อน ได้แก่ ผักคะน้า ถั่วฝักยาว กะหล่ำปลี กวางตุ้ง ผักกาดขาวปลี ผักบุ้งจีน เป็นต้น ส่วนผักที่มีราคาเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ ต้นหอม ผักชี พริกขี้หนูจินดา เป็นต้น โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นในระยะสั้นจากผลกระทบของสภาพอากาศ ในส่วนของมะนาวราคายังคงที่จากเดือนก่อน โดยราคาเบอร์ 1-2 อยู่ที่ 4.95 บาทต่อลูก ซึ่งมะนาวในช่วงหน้าร้อน (มี.ค-เม.ย) จะมีราคาเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากปริมาณผลผลิตน้อย โดยจะกลับมาให้ผลผลิตมากในช่วงเดือนพ.ค.2566 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ สำหรับราคาสินค้ากลุ่มปศุสัตว์ในตลาดเงินวิจิตร พบว่า มีราคาใกล้เคียงกับราคาเฉลี่ยทั่วประเทศ ที่กรมฯ ได้ทำการสำรวจ โดยหมูเนื้อแดง 150 บาท/กก. น่องไก่ติดสะโพก 75 บาท/กก. น่องไก่ 75 บาท/กก. สะโพกไก่ 80 บาท/กก. ไข่ไก่เบอร์ 3 ฟองละ 3.9 บาท
ทั้งนี้กรมการค้าภายใน จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอย่างต่อเนื่อง ตรวจสอบให้คำรับรองเครื่องชั่งก่อนนำออกใช้ และตรวจสอบความเที่ยงตรงระหว่างการใช้งาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค พร้อมขอให้ผู้ประกอบการให้ใช้เครื่องชั่งที่ถูกต้องได้มาตรฐานในการซื้อขายสินค้าและบริการ หากพบการกระทำผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด โดยมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท และย้ำให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายให้ชัดเจน ห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยไม่เป็นธรรม หากตรวจไม่ติดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการจำหน่ายสินค้าหรือบริการที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัด
นายกรนิจ กล่าวเพิ่มเติมว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่ประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับบ้านเพื่อไปเฉลิมฉลองกับครอบครัวญาติพี่น้อง และมีการจับจ่ายใช้สอยกันมากในการซื้ออาหารสดในตลาดเพื่อนำไปประกอบอาหารนั้น ทางสมาคมตลาดสดไทย และสมาคมการค้าตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรไทย ขานรับมาตรการของกรมฯ ไม่ให้ตลาดเอาเปรียบผู้บริโภค กำชับผู้ค้าในตลาดให้มีการปิดป้ายแสดงราคาทุกตลาด หากพบการฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้บริโภคและไม่ปิดป้ายราคาจะมีมาตรการเข้มบทลงโทษตามขั้นตอน ตั้งแต่การทำทัณฑ์บน การปรับ และการให้หยุดจำหน่ายสินค้า และกรณีสินค้าประสบปัญหาขาดแคลน สมาคมตลาดกลางฯ พร้อมเป็นกลไกเชื่อมโยงสินค้ามาจำหน่ายให้แก่พี่น้องประชาชนให้เพียงพอตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์.-สำนักข่าวไทย