ธุรกิจคลินิกโรคทั่วไปและเฉพาะทางโตต่อเนื่องรับสังคมผู้สูงอายุ

นนทบุรี 5 เม.ย.-กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยธุรกิจคลินิกโรคทั่วไปและเฉพาะทางเติบโตต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ระบาด ถึงปี 2565 โดย 2 เดือนแรกของปี 2566 จดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้น 32.41% ทุนเพิ่มขึ้น 1.96 เท่า เกินครึ่งคลินิกตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร ชี้มาจากความต้องการใช้บริการทางการแพทย์เพิ่มขึ้น รองรับสังคมผู้สูงอายุที่มีจำนวนเกือบ 20% ของประชากรทั้งประเทศ


นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าทีมวิเคราะห์ธุรกิจ กองข้อมูลธุรกิจกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ทำการวิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจที่น่าจับตามองในปี 2566 โดยหนึ่งในธุรกิจที่มีความโดดเด่น คือ ธุรกิจคลินิกโรคทั่วไปและเฉพาะทาง พิจารณาจากปริมาณการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ ทุนที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ และผลประกอบการตลอด 3 ปีที่ผ่านมา รวมทั้ง นำข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และบริบททางสังคมมาร่วมวิเคราะห์แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ พบว่า ธุรกิจคลินิกโรคทั่วไปฯ เป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตในหลายมิติ ซึ่งไม่ใช่แค่บุคลากรทางการแพทย์เท่านั้นที่สนใจเข้ามาลงทุน แต่นักลงทุนทั่วไปก็สนใจเข้ามาร่วมลงทุนในธุรกิจเช่นเดียวกัน 

ทั้งนี้ ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2563 – 2565) ซึ่งเป็นช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ธุรกิจคลินิกโรคทั่วไปและเฉพาะทางมีผู้ประกอบการเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง และมีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้น ปี 2563 จดทะเบียนจัดตั้ง400 ราย ทุนจดทะเบียน 648.25 ล้านบาท ปี 2564 จดทะเบียน 554 ราย (เพิ่มขึ้นจากปี 2563 จำนวน 154 ราย หรือร้อยละ 38.50) ทุน 970.53 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปี 2563 จำนวน 322.23 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 49.72) ปี 2565 จดทะเบียน 893 ราย (เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 339 ราย หรือ ร้อยละ 61.20) ทุน 2,227.70 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 1,257.17 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 129.53) และ 2 เดือนแรกของปี 2566 จดทะเบียน 192 ราย เพิ่มขึ้น47 ราย หรือ ร้อยละ 32.41 (มกราคม – กุมภาพันธ์ 2565 จดทะเบียน 145 ราย) ทุน 664.50 เพิ่มขึ้น 440.25 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 1.96 เท่า (มกราคม – กุมภาพันธ์ 2565 ทุน 224.25 ล้านบาท) 


อย่างไรก็ตาม ธุรกิจคลินิกโรคทั่วไปและเฉพาะทางดำเนินกิจการอยู่ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 จำนวน 3,780 รายคิดเป็นร้อยละ 0.44 ของธุรกิจทั้งหมดที่ดำเนินการอยู่ และมีมูลค่าทุน 18,033.86 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.09 ของธุรกิจทั้งหมดที่ดำเนินการอยู่ในประเทศไทย ธุรกิจส่วนใหญ่ดำเนินกิจการในรูปแบบบริษัทจำกัด จำนวน 3,419 รายคิดเป็นร้อยละ 90.45 มูลค่าทุน 16,852.09 ล้านบาท ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร 1,905 ราย คิดเป็นร้อยละ50.40 ทุนจดทะเบียน 10,651.14. ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 59.06 ภาคกลาง 578 ราย ร้อยละ 15.29 ภาคเหนือ 386 ราย ร้อยละ 10.21 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 372 ราย ร้อยละ 9.84 ภาคตะวันออก 298 ราย ร้อยละ 7.88 ภาคใต้186 ราย ร้อยละ 4.92 และภาคตะวันตก 55 ราย ร้อยละ 1.46 

ทั้งนี้ ธุรกิจคลินิกโรคทั่วไปและเฉพาะทางส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของคนไทย มีมูลค่าการลงทุน 17,114.53 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 94.90 ของการลงทุนในธุรกิจนี้ทั้งหมด ขณะที่การลงทุนจากต่างชาติสูงสุด คือ สิงคโปร์ มูลค่า 327.92 ล้านบาท ร้อยละ 1.82 จีน 165.99 ล้านบาท ร้อยละ 0.92 ฮ่องกง 116.37 ล้านบาท ร้อยละ 0.65 และสัญชาติอื่นๆ309.05 ล้านบาท ร้อยละ 1.71 ซึ่งการลงทุนของผู้ประกอบการในธุรกิจคลินิกโรคทั่วไปและเฉพาะทางที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากความต้องการใช้บริการทางการแพทย์ที่เพิ่มมากขึ้นของผู้สูงอายุ เนื่องจากเป็นวัยที่เจ็บป่วยได้ง่ายประกอบกับปัญหาสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ รูปแบบการดำเนินชีวิตที่เร่งรีบ ปัญหาความเครียดล้วนส่งผลต่อสุขภาพของคน ทำให้อัตราการเจ็บป่วยของคนไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ธุรกิจด้านสุขภาพหรือบริการทางการแพทย์จึงเป็นที่ต้องการและมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น ทั้งนี้ ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ โดยมีจำนวนประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ในปี 2565 จำนวน 12,698,329 คน หรือ ร้อยละ 19.2 ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ (66.09 ล้านคน) ที่มา: กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย

นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของคนไทยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ตั้งแต่ปี 2559 -2563 โดยในปี 2563 มีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 26,751 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 6 จากปี 2562 ซึ่งค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นในปี 2563 แบ่งเป็น ค่าใช้จ่ายด้านการเข้ารับการรักษา มากที่สุดจำนวน 255,883 ล้านบาท รองลงมา คือ ยาและเวชภัณฑ์ จำนวน 198,764 ล้านบาท และอุปกรณ์เครื่องใช้อายุรเวท จำนวน 7,598 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 55, 43 และ 2 ตามลำดับ จากค่าใช้จ่ายด้านการเข้ารับการรักษามากที่สุดจึงเป็นปัจจัยเสริมให้ธุรกิจคลินิกโรคทั่วไปและเฉพาะทางมีการจัดตั้งใหม่ เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ที่มา : สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ


อย่างไรก็ตาม ธุรกิจคลินิกโรคทั่วไปและเฉพาะทางเป็นธุรกิจประเภทสถานพยาบาลที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน ปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้ผู้ป่วยเลือกใช้บริการคลินิกทั่วไปและเฉพาะทาง ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสะดวกในการใช้บริการเนื่องจากสามารถใช้บริการได้ในช่วงเวลาเลิกงาน หรือนอกเวลาราชการ การเดินทางที่สะดวก ตั้งอยู่ใกล้ชุมชน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับโรงพยาบาลเอกชน ประกอบกับเทรนด์การดูแลรักษาสุขภาพของคนในปัจจุบันที่ต้องการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในโรคเฉพาะทาง นอกจากนี้ สถานการณ์สิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ก่อให้เกิดโรคภัยต่างๆ มากขึ้น เช่น มลพิษทางอากาศ โรคติดต่ออุบัติใหม่ เป็นต้น อีกทั้งรัฐบาลมีนโยบายให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างทั่วถึง ลดจำนวนการใช้บริการที่โรงพยาบาล จึงเกิดโครงการที่คลินิกเอกชนเข้าร่วมกับประกันสังคม คลินิกเครือข่ายของโรงพยาบาล คลินิกชุมชนอบอุ่น เป็นต้น ทำให้ประชาชนที่ใช้สิทธิประกันสังคม หรือ สิทธิบัตรทอง สามารถใช้บริการคลินิกได้ จากปัจจัยที่กล่าวมานั้นจึงเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญของผู้ประกอบธุรกิจคลินิกโรคทั่วไปและเฉพาะทางที่จะมีโอกาสเติบโตเพื่อรองรับความต้องการใช้บริการและอัตราการเจ็บป่วยในอนาคต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ยิงดับ 2 ศพ คาวัดดังย่านเพชรเกษม

10 ก.ค.- ลูกเจ้าของโรงเรียนคลั่งยา ชักปืนยิงดับ 2 ศพ คาวัดดังย่านเพชรเกษม ตำรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว เกิดเหตุยิงกันเสียชีวิต 2 คน โดยบริเวณข้างโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซ.เพชรเกษม 20 พบ 1 ศพ เป็นหญิง และบริเวณข้างวัดแห่งหนึ่ง แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ พบอีก 1 ศพเป็นผู้ชาย เบื้องต้นจากการสอบถามเพื่อนบ้าน คาดผู้ก่อเหตุมีอาการคลั่งยา หลอนฝันว่าผู้ตายรายแรกที่เป็นหญิงทำคุณไสยใส่ จึงเดินไปใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่กกหู ขณะที่กำลังซักผ้าเสียชีวิตทันที หลังจากนั้นเดินออกมาหน้าวัด พบนายติ่ง จึงใช้ปืนกระบอกเดียวกัน ยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิตคาที่เป็นศพที่ 2 ขณะนี้ตำรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว เป็นลูกเจ้าของโรงเรียนใกล้เคียงกับวัดดังกล่าว ถูกนำตัวไปสอบสวนที่ สน.ภาษีเจริญ – สำนักข่าวไทย

หนึ่งเดียวในโลก! ทำบุญตักบาตรบนหลังช้างสุรินทร์

สุรินทร์ 10 ก.ค.- สุรินทร์จัดยิ่งใหญ่! ทำบุญตักบาตรบนหลังช้าง เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ประจำปี 2568 ยิ่งใหญ่หนึ่งเดียวในโลก ประชาชนและนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ หลั่งไหลร่วมทำบุญตักบาตรบนหลังช้างสุรินทร์ เนื่องในวันอาสาฬหบูชา และเข้าพรรษา ประจำปี 2568 บริเวณลานหน้าอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีพระสงฆ์ สามเณร 64 รูป นั่งรับบิณฑบาตบนหลังช้างแสนรู้ และช้างงายาว 64 เชือก โดยนำอัฒจันทร์เหล็กมาตั้งรอบอนุสาวรีย์ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนมายืนใส่บาตรข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อความเป็นสิริมงคล ช้างที่มีพระสงฆ์นั่งบนหลังจะเดินเข้าไปรับบาตร. – สำนักข่าวไทย

บุกจับแอดมินแอปฯ ดัง นำเด็กไลฟ์แสวงหาประโยชน์

ร้อยเอ็ด 10 ก.ค.- มท.1 ลุยต่อ สั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำหมายศาลบุกจับแอดมินกลุ่มแอปฯ ดัง นำเด็กมาเปลือยไลฟ์ออนไลน์แสวงหาประโยชน์ พร้อมช่วย 2 เด็กสาวเหยื่อค้ามนุษย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ กรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “Discord disconnected” จับกุมหนุ่มนำเด็กสาวมาเปลือยไลฟ์สดออนไลน์หารายได้ โดยนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง ร่วมกับนายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พล.ต.ต.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด นายพุทธภูมิ นาชัยเริ่ม นายอำเภอธวัชบุรี สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด นายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ และนายศักดิ์ชัย โรจนรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง พ.ต.อ. ภาสกร หินเธาว์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรธวัชบุรี นำทีมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองร่วมเข้าแสดงหมายค้นหมายจับของศาลจังหวัดร้อยเอ็ด จับกุมหนุ่ม นำเด็กมาเปลือยไลฟ์สดออนไลน์หารายได้ พร้อมตรวจค้นบ้านเพื่อหาพยานหลักฐานในพื้นที่อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด สืบเนื่องจากกรมการปกครอง […]

กรมอุตุฯ เตือน 6 จังหวัดรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 10 ก.ค.- กรมอุตุฯ เตือน 6 จังหวัด บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร จันทบุรี และตราด รับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทย โดยเฉพาะในบริเวณจังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 11-13 ก.ค. ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากจะมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน […]