ADB คาด เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัว 3.3% ในปีนี้

กรุงเทพฯ 4 เม.ย.-ADB คาด เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัว 3.3% ในปีนี้  เหตุท่องเที่ยวฟื้นตัว แต่มีความเสี่ยงจากผลกระทบเศรษฐกิจโลก ประเมินเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียจะเติบโต 4.8% ทั้งในปีนี้และปีหน้า


รายงาน Asian Development Outlook 2023 ของ   ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ระบุในรายงานในวันนี้ (4 เม.ย.) ว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มที่จะขยายตัวเร็วขึ้นในปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากการที่จีนเปิดประเทศ การบริโภคภาคเอกชน การลงทุน และบริการ ซึ่งรวมถึงการท่องเที่ยว กำลังฟื้นคืนสู่สภาพเดิม  แต่ปัญหาสงครามในยูเครน และภาวะปั่นป่วนของภาคธนาคารในสหรัฐและยุโรปยังคงสร้างความเสี่ยงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ADB คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียจะเติบโต 4.8% ทั้งในปีนี้และปีหน้า เพิ่มขึ้นจากการขยายตัว 4.2% ในปี 2565 


เศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชีย มีแนวโน้มขยายตัว 5.0% ในปีนี้และ 4.5% ในปี 2567 โดยจีนยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเวลานั้นเศรษฐกิจจีนชะลอการเติบโตสู่3.0% และฉุดเศรษฐกิจของทั้งภูมิภาคเอเชีย  การที่จีนเปิดประเทศช่วยให้ แนวโน้มเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกสดใสขึ้น ผ่านการค้า การท่องเที่ยว และผลกระทบเชิงบวกอื่น ๆ  

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจประเทศสำคัญแห่งอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มชะลอการเติบโต โดยส่วนหนึ่งเป็นผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เงินเฟ้อสูง และการคุมเข้มนโยบายการเงิน โดยเงินเฟ้อในภูมิภาคเอเชียซึ่งเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.4% ในปี 2565 มีแนวโน้มลดลงแตะ 4.2% ในปีนี้ ก่อนลดลงอีก สู่ 3.3% ในปี 2567

ด้านเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัว 3.3% ในปีนี้ และ 3.7% ในปีหน้า หลังจากที่ขยายตัว 2.6% ในปีที่ผ่านมา จากการบริโภคภาคเอกชนที่แข็งแกร่งและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว การท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตหลักในปี 2566-2567 อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอาจทำให้เศรษฐกิจไทยมีภาวะเสี่ยง และการเปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์เป็นความท้าทายด้านนโยบาย และเศรษฐกิจก็มีความเสี่ยงสูงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก


 ส่วน อินเดีย ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของภูมิภาคเอเชีย มีแนวโน้มขยายตัว 6.4% ในปีนี้ และ 6.7% ในปีหน้า ,อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีแนวโน้มขยายตัว 4.8% ในปีนี้ และ 5.0% ในปี 2567 หลังขยายตัว 5.3% ในปี 2565 ,เศรษฐกิจมาเลเซียมีแนวโน้มขยายตัว 4.7% ในปีนี้ และ 4.9% ในปีหน้า หลังขยายตัวเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ 8.7% ในปีที่แล้ว ส่วนเวียดนามมีแนวโน้มขยายตัว 6.5% ในปีนี้ และ 6.8% ในปี 2567 หลังจากขยายตัว 8.0% ในปี 2565 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

รวบ “พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ตำรวจ ปปป. และ ป.ป.ช. จับ “พ.อ.หญิง” และ “ แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พบเส้นเงินเชื่อมโยง 10 ล้านบาท

ซบพรรคกล้าธรรม

“เอกราช” จ่อซบ “กล้าธรรม” ยันไม่ถึงขั้นแตกหัก “อนุทิน-ภท.”

“เอกราช” เตรียมย้ายซบ “กล้าธรรม” เพื่อความสบายใจในการทำงาน ยันไม่ถึงขั้นแตกหักกับ “อนุทิน-ภูมิใจไทย” คาดเตรียมขับออกเร็วๆ นี้ เผยผูกพันกับ “ธรรมนัส ” กว่า 10 ปี

ไฟไหม้ท้ายรถบัสทัศนศึกษา นักเรียน-ครู ปลอดภัย

หวิดเกิดเหตุสลด รถบัสทัศนศึกษากำลังกลับโรงเรียน เกิดไฟไหม้ท้าย โชคดีอพยพทัน นักเรียนชั้น ป.6 ทั้ง 35 คน กับครู 7 คน ปลอดภัย

รวบไรเดอร์-วิน จยย.รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ไรเดอร์ร่วมกับวิน จยย. รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจนน่วม ตำรวจตามจับได้ 3 คน ยังอ้างรุมทำร้ายโดยไม่รู้ที่มาที่ไป คิดว่าชายต่างชาติทำร้ายคนไทย ทนไม่ได้จึงเข้าช่วย

ข่าวแนะนำ

ย้ายด่วน หัวหน้า อช.หมู่เกาะสิมิลัน เร่งสอบปมขายตั๋วไม่โปร่งใส

อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งย้ายด่วน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน หลัง ป.ป.ช. สุ่มตรวจสอบการจำหน่ายตั๋วที่เกาะสี่และเกาะแปด โดยไม่แจ้งล่วงหน้า พบการจำหน่ายตั๋วส่อไม่โปร่งใส

Trump says administration is looking into Signal, thinks Waltz should not apologize

“ทรัมป์” ชี้แชทรั่วไม่มีข่าวกรองชั้นความลับ

วอชิงตัน 26 มี.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บอกปัดกรณีแชทรั่วไปถึงนักข่าวว่า ไม่มีข้อมูลข่าวกรองชั้นความลับ และไม่มีใครต้องขอโทษ ขณะที่ สว.เดโมแครตรุมตำหนิผู้ที่เกี่ยวข้องเรียกร้องให้ลาออก นายทรัมป์แสดงความหนุนหลังทีมงานด้านความมั่นคงของเขาด้วยการตอบคำถามสื่อในเรื่องนี้ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไม่มีข้อมูลชั้นความลับถูกเปิดเผยในกลุ่มแชทสนทนาแอปพลิเคชัน ซิกนัล (Signal) ของกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ซึ่งนายไมเคิล วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงได้เชิญนักข่าวคนหนึ่งเข้าไปรวมอยู่ด้วยโดยไม่ตั้งใจ นายทรัมป์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องการใช้แอปพลิเคชันสนทนานี้และคิดว่านายวอลซ์ ไม่จำเป็นต้องขอโทษในเรื่องนี้ ขณะที่นายวอลซ์ให้สัมภาษณ์ในรายการของฟ็อกซ์นิวส์ ยืนยันขอเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าอับอาย กลุ่มแชทที่เขาสร้างขึ้นมีรายละเอียดเรื่องแผนการโจมตีเยเมนจริง แต่ยืนกรานว่าไม่มีข้อมูลชั้นความลับ หลังจากนายเจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการข่าวของนิตยสารดิแอตแลนติก (The Atlantic) ออกมาเปิดเผยว่า ถูกรวมอยู่ในกลุ่มแชทเข้ารหัสโดยไม่รู้ตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และได้เห็นโพสต์ของนายปีเตอร์ เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมเรื่องแผนการทำสงครามก่อนสหรัฐเปิดฉากโจมตีเยเมนระลอกแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ด้านสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พรรคเดโมแครตพากันตำหนินางทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติและนายจอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ (CIA) ที่ไปให้ปากคำต่อคณะกรรมการข่าวกรองในวุฒิสภาว่า ฉาบฉวย ไร้ความสามารถ และไม่ให้เกียรติคนทำงานข่าวกรอง นางแกบบาร์ดและนายแรตคลิฟฟ์อยู่ในกลุ่มสนทนาในแอปฯ ซิกนัลที่มีข่าวรั่วในครั้งนี้ […]

โหวตไว้วางใจ

นายกฯ โพสต์ขอบคุณหลังสภาผ่านฉลุยไว้วางใจ

นายกฯ โพสต์ขอบคุณหลังสภาผ่านฉลุยไว้วางใจ ยัน ชี้แจงทุกประเด็น ลั่น ทั้งเสียงหนุน-เสียงไม่ไว้วางใจ จะเป็นพลังให้มุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชน

ผ่านฉลุย! สภาโหวตไว้วางใจ “นายกฯ แพทองธาร” 319 เสียง

สภาโหวตไว้วางใจ “แพทองธาร” นั่งนายกฯ ต่อฉลุย 4 สส.ปชป.งดออกเสียง และไร้เงา “รตอ.เฉลิม” แต่ได้แถมเสียงงูเห่ามา 7 เสียงจากไทยสร้างไทย-พปชร.และ “ปูอัด” ขณะที่นายกฯ ไหว้ขอบคุณ สส. หลังโหวต