กรุงเทพฯ 4 เม.ย.-ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุช่วงสงกรานต์ปี 66 ประชาชนส่วนใหญ่จะออกท่องเที่ยว ยังมีปัญหาโควิด-ฝุ่น PM 2.5 แต่ไม่กังวลมาก หลังอั้นความสนุกสงกรานต์หลายปี ดันเงินสะพัดสงกรานต์ปีนี้กว่า 125,203 ล้านบาท เทียบเท่ากับปี 59 โดยพื้นที่ท่องเที่ยวที่จะไปมากสุดคือชายทะเล พร้อมเดินหน้าไปเลือกตั้งให้ได้รัฐบาลชุดใหม่เร่งเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาคอร์รัปชัน
รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงถึงโพล “พฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2566” ว่า สงกรานต์ปีนี้คงตอบได้ชัดเจนว่าสุดคึกคัก เนื่องจากประชาชนลดความกังวลต่อการแพร่ระบาดโควิด และปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ยังมีอยู่ในหลายพื้นที่ขณะนี้ โดยปัญหาดังกล่าวหลังจากติดตามดูคนส่วนใหญ่ลดความกังวล ทำให้มั่นใจว่าจะออกไปท่องเที่ยวและสังสรรค์ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ไปทำบุญ และอื่นๆ ทำให้สงกรานต์ปีนี้ ประชาชนจะไปท่องเที่ยวทั่วไทยมากขึ้น โดยประชาชนจะเน้นไปสถานที่ชายทะเลมากกว่าไปท่องเที่ยวในภาคเหนือ เพื่อเลี่ยงปัญหาฝุ่น PM 2.5
นอกจากนี้ คาดว่าสงกรานต์ปี 66 จากกิจกรรมด้านต่างๆ จะทำให้เงินสะพัดในช่วงสงกรานต์ปีนี้น่าจะอยู่ที่ 125,203 ล้านบาท เป็นตัวเลขเทียบกับช่วงปี 59 ถือว่าใกล้เคียงกันมาก ทำให้มองว่าเศรษฐกิจเริ่มกลับมาดี จากแรงสนับสนุนด้านการท่องเที่ยว แต่คนส่วนใหญ่ยังกังวลจากปัญหาเศรษฐกิจโลกและภาคการส่งออกยังไม่ดีนัก ดังนั้น ประชาชนอยากเห็นรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาแก้ไขปัญหาให้เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัว พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาด้านคอร์รัปชันในทุกวงการให้น้อยลง จึงมองได้ว่าในช่วงที่จะมีการเลือกตั้งในเดือน พ.ค.66 จะทำให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันอย่างคึกคักแน่นอน เพราะคนส่วนใหญ่ต้องการให้มีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาแก้ไขปัญหาให้เศรษฐกิจไทยกลับมาดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ปีนี้คนส่วนใหญ่จะออกมาเล่นเทศกาลสงกรานต์กันมาก แต่ยังกังวลด้านการจับจ่ายใช้สอย เนื่องจากมองว่าสินค้าและบริการมีราคาแพงมากในช่วงสงกรานต์ รวมทั้งปัญหาด้านอุบัติเหตุและรถติดในช่วงเดินทางไปและกลับ จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐเตรียมแผนรองรับทั้งการเดินทาง และดูแลปัญหาราคาสินค้าและบริการไม่ให้มีการเอารัดเอาเปรียบของผู้ค้า ดังนั้น ต่อความกังวลทั้งปัญหาเศรษฐกิจในประเทศและปัญหาเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปก จะทำให้หลังจากนี้โอกาสราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นอีก ทำให้การจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แม้จะคึกคัก แต่เป็นการใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น โดยหลายปัจจัยดังกล่าวทำให้ศูนย์พยากรณ์ฯ มองว่า ปีนี้เศรษฐกิจไทยยังเติบโตอยู่ที่ 3-4% ได้แน่นอน.-สำนักข่าวไทย