กรุงศรีฯ คาดประชุม กนง.ครั้งหน้าคงดอกเบี้ยที่ 1.75%

กรุงเทพฯ 29 มี.ค. – ธ.กรุงศรีฯ คาดประชุม กนง.ครั้งหน้า 31 พ.ค.66 จะคงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิม หลัง กนง.มีมติเอกฉันท์ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 1.75%


กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธ.กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี สู่ระดับ 1.75% ซึ่งเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 5 นับตั้งแต่เดือน ส.ค.65 โดย กนง.ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง จากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนเป็นสำคัญ ขณะที่การส่งออกสินค้าเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น คาดว่าจะฟื้นตัวชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ กนง.ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยลงเล็กน้อย อยู่ที่ 3.6% และ 3.8% ในปี 2566 และ 2567 ตามลำดับ ส่วนภาคการส่งออกคาดว่าจะหดตัวลง 0.7% ในปีนี้ ขณะที่ภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นแรงส่งที่ดีให้กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ในช่วงที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบทุกสัญชาติเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สูงกว่าที่มีการประเมินไว้ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้มีการปรับประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวในปีนี้ขึ้นเป็น 28 ล้านคน และ 35 ล้านคนในปี 2567 ด้านอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง ปรับประมาณการเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 2.9% ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 2.4%

ทั้งนี้ ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอยู่ที่ราว 34.20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดย กนง. ย้ำว่า ค่าเงินบาทยังคงมีความผันผวน โดยมีปัจจัยจากการเงินโลกที่มีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐฯ และยุโรป และแนวโน้มเงินเฟ้อ และการดำเนินนโยบายการเงินของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมหลัก (Advanced Economies : AEs) และยังต้องติดตามอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของไทยที่อาจอยู่ในระดับสูงนานกว่าที่คาดการณ์ไว้


สำหรับการประชุม กนง. ครั้งต่อไป ในวันที่ 31 พ.ค.66 กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธ.กรุงศรีอยุธยา มองว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอนสูง อาจทำให้ กนง. คงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75% อย่างไรก็ตาม ท่าทีและสัญญาณในการประชุม กนง.ครั้งนี้ เปิดโอกาสไว้สำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งหน้าได้เช่นกัน หากสถานการณ์ยังเอื้อให้ปรับนโยบายต่ออีกเล็กน้อย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก